"อังคณา" ชี้ปม ปัญหา “แม่น้ำกก” แก้ง่ายสุดที่ “นายกรัฐมนตรี” จี้ คุยจีนให้รับผิดชอบ บีบบริษัทชดใช้ค่าเสียหาย ถามเข้าทางฝั่ง “เมียนมา” จะหารือ-แทรกแซงพื้นที่ “ว้า” ได้หรือ ซัด กระทรวงยุติธรรมเงียบกริบทั้งที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เผย กมธ. พัฒนาการเมือง สว. เตรียมลงไปจัดการแน่

วันที่ 27 พ.ค.2568 นางอังคณา นีละไพจิตร สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดการปัญหาโลหะหนักที่พบในแม่น้ำกกของรัฐบาล ว่า วันนี้ปัญหานี้ค่อนข้างเร่งด่วน รัฐบาลควรไปพูดคุยกับจีนเพราะสนิทกับจีน ไม่ควรปล่อยให้ชาวบ้านเผชิญกับสารพิษที่มากับแม่น้ำเป็นเวลา 2 เดือน นานขนาดนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของ กมธ. พัฒนาการเมืองฯ สว.ได้พูดคุยกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยสะท้อนมาว่าอยากให้ทางคณะ กมธ.ลงไปในพื้นที่ ซึ่งจริงๆ แล้ว กมธ. พัฒนาการเมืองฯ สว. ก็วางแผนที่จะลงไปดูพื้นที่อยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจและสิทธิมนุษยชน

นางอังคณา กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ และปัญหาคือเมื่อบริษัทที่เข้าไปลงทุนแล้วปล่อยสารพิษลงสู่แหล่งน้ำ แต่สุดท้ายมีปัญหาบริษัทก็ต้องรับผิดชอบ เราจะไปเรียกร้องกับกลุ่มว้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่คุมพื้นที่ตั้งของสถานที่ตั้งเหมืองไม่ได้ เพราะว้า ไม่ได้เป็นรัฐที่สหประชาชาติรับรอง ดังนั้นบริษัทที่เข้าไปตั้งอยู่ในพื้นที่ว้าต้องรับผิดชอบ

และแปลกใจว่าทำไมกระทรวงยุติธรรมไม่พูดเรื่องนี้เลย เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจข้ามพรมแดน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เป้าหมายหลักของแผนปฏิบัติการด้านสิทธิมนุษยชน แต่กระทรวงยุติธรรมที่รับผิดชอบเรื่องนี้ไม่แก้ปัญหา ทำให้ปัญหาไม่ถูกแก้และไม่ถูกให้ความสำคัญ มีแต่ลงไปดูพื้นที่ภาคใต้ ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แต่รับฟัง เมื่อรับฟังแล้วจะทำอย่างไรต่อ แผนที่บอกว่าให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปดำเนินการมาใหม่ก็ยังไม่เห็น

เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้ (26 พ.ค. 68) นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ว่าทางฝั่งเมียนมายอมรับว่ามาจากเหมือง และจะดำเนินการให้ ขอให้ไม่ต้องกังวล มองอย่างไร นางอังคณา กล่าวว่า หากเมียนมาจะรับรอง เอาเข้าจริง เมียนมาจะเข้าไปแทรกแซงในพื้นที่ของว้าได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เราเห็นฝั่งเมียวดี มีการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์และบ่อนกาสิโนจำนวนมาก เลยถามเจ้าหน้าที่ทหารว่าคนจะข้ามไปข้ามมาได้อย่างไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่รู้ แต่เราก็จะเห็นว่ามีเรือแล่นข้ามไปอยู่ จึงคิดว่าตอนนี้มีหลายเรื่องที่เป็นปัญหาผสมกันไปหมด เอาจริงๆ ไม่รู้เลยว่าจะแก้กันอย่างไร

“กรณีของแม่น้ำกก แก้ง่ายที่สุดก็คือนายกรัฐมนตรีต้องไปคุย หากรัฐบาลเมียนมาตั้งใจที่จะยุติจริง เมียนมาต้องเข้าไปคุยกับว้าเลย ให้หยุดปล่อยสารพิษลงแหล่งน้ำธรรมชาติโดยเด็ดขาดทันที ซึ่งตรงนี้จะส่งผลทันที ไม่ใช่ปล่อยจนกระทั่งปลาตาย ปลาป่วยเป็นตะปุ่มตะป่ำ ติดเชื้อโรค แล้วอย่างนี้ คนที่บริโภคเข้าไปจะเป็นอย่างไร และหากตามหลักสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ บริษัทที่เป็นผู้รับผิดชอบจะต้องเป็นคนที่ชดเชยค่าเสียหายคือบริษัทจีน” นางอังคณา กล่าว