วันที่ 27 พ.ค.68 -นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุว่า.

ผู้ป่วยชายอายุ 91 ปี มาโรงพยาบาลวันที่ 23 พฤษภาคม 2568  ด้วยอาการมีไข้ต่ำๆ มีน้ำมูก ไอเล็กน้อย ไม่เจ็บคอ 1 วัน เดินได้ ไม่เหนื่อย เป็นโรคความดัน ไขมันสูง ไตเสื่อมปานกลาง ไม่เคยติดโควิดแม้แต่ครั้งเดียว ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดทั้งหมด 7 เข็ม แอสตราเซเนกา 2 เข็ม ไฟเซอร์ 2 เข็ม โมเดอร์นา 2 เข็ม และไฟเซอร์รุ่นล่าสุดสำหรับสายพันธุ์ JN.1 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 
ตรวจร่างกาย อุณหภูมิ 38.3 องศาเซลเซียส ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วปกติ 98% ฟังปอดปกติ เอกซเรย์ปอดปกติ
แยงจมูกตรวจพบไวรัสโควิด-19 ไม่พบไวรัสทางเดินหายใจตัวอื่น
วินิจฉัย: ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาการเบาไม่รุนแรง ถึงแม้จะมีอายุ 91 ปี มีโรคประจำตัวหลายโรค และติดเชื้อไวรัสโควิดครั้งแรก
ให้ยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์ molnupiravir ไปกินที่บ้าน ไม่ต้องรับเข้านอนในโรงพยาบาล ติดตามทางโทรศัพท์วันที่ 26 พฤษภาคม ไม่มีไข้แล้ว ไม่เหนื่อย ไอดีขึ้นมาก

ผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนไฟเซอร์สำหรับป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ล่าสุด JN.1 เมื่อ 54 วันก่อน มีเวลามากพอที่ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด-19 แต่วัคซีนก็ยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิดได้ 
เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิด-19 รุ่นปัจจุบันลดความรุนแรงโดยตัวของมันเอง จึงไม่สามารถบอกได้ว่า การฉีดวัคซีนโควิดรุ่นล่าสุด JN.1 จะสามารถลดความรุนแรงของโรคโควิดลงได้อีกมากน้อยแค่ไหน

ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนรุ่นล่าสุด JN.1 จึงลดน้อยลง เนื่องจากวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และความรุนแรงของโรคโควิดเองลดลงเองมากในคนที่ไม่ได้รับวัคซีนรุ่นล่าสุด

ความเห็นส่วนตัวของผม คนที่มีครบทั้ง 3 ปัจจัยดังนี้ : 
1. เป็นกลุ่มเสี่ยง 608
2. ไม่เคยติดเชื้อโควิดแม้แต่ครั้งเดียว
3. และไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแม้แต่เข็มเดียว
เป็นกลุ่มคนที่สมควรรับวัคซีนป้องกันโควิดรุ่นล่าสุด JN.1  แต่คนกลุ่มนี้เหลือน้อยมากๆ คนทั่วไปไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิดรุ่นล่าสุด JN.1 อีกแล้ว