ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร สั่งชุดปฏิบัติการพิเศษรวบ 2 หนุ่มท่อมนาเบิร์ด เย้ยคำสั่งจัดระเบียบสังคม ตั้งร้านขายน้ำกระท่อมติดป้ายรถเมล์ 

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 26 พ.ค.68 ภายใต้การอำนวยการของ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ร้อยตำรวจเอกเขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และนายบรรพต จันทรวงษ์  ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ได้สั่งการให้ เรือตรี นิติพัฒน์ ซื่อดี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร สนธิกำลังร่วมกับ สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และ ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ได้รับแจ้งว่า มีผู้ลักลอบเปิดร้านจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อม โดยใช้ป้ายรถเมล์ เป็นสถานที่ขาย  ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมืองฯ จ.สมุทรสาคร  ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  และ รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีระกูล ด้านนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล และนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล (kick off) อีกทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งและนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร 8 เรื่องสำคัญการจัดระเบียบสังคม ประกอบด้วย ยาเสพติด / บุหรี่ไฟฟ้า / ร้านอาหาร สถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ / แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย / คาราโอเกะ อาบอบนวด / โต๊ะสนุก แหล่งมั่วสุม / น้ำกระท่อม และ  โรงแรมเถื่อน 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบที่ร้านดังกล่าว ซึ่งรู้จักกันในวงการซื้อขายน้ำต้มใบกระท่อม เรียกกันว่า “ท่อมนาเบิร์ด” มีการลักลอบจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อมจริง โดยขณะเข้าตรวจสอบ สามารถตรวจยึดของกลางได้ดังนี้ น้ำต้มใบกระท่อมบรรจุขวดพลาสติกใส จำนวน  546 ขวด มูลค่ากว่า 60,000 บาท,รถยนต์อีซูซุ สีขาว ตอนเดียว ซึ่งใช้ในการขนน้ำกระท่อม จำนวน 1 คัน มูลค่ากว่า 500,000 บาท และยังพบชายจำนวน 2 คน รับเป็นผู้ร่วมกันผลิตและจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อมจำหน่ายให้แก่ผู้ใช้แรงงานและวัยรุ่นจริง โดยขวดใหญ่ขายขวดละ 100 บาท ส่วนขวดเล็กขายขวดละ 50 บาท ทางชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาบันทึกการจับกุม ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายน้ำกระท่อม ซึ่งไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ. อาหาร มาตรา 6(8) ประกอบมาตรา 50  ก่อนนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.