วันที่ 26 พ.ค.68 พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ได้สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี เข้าทำการตรวจค้นสถานบริการทำฟันปลอมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ซ.21 ถ.พหลโยธิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เนื่องจากได้รับแจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นสถานบริการทำฟันปลอม และสามารถจองคิวล่วงหน้าได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นจึงได้ร่วมกันวางแผนโดยใช้สายลับโทรติดต่อขอทำฟันปลอม โดยมีการนัดพิมพ์ปาก ยังบ้านเลขที่ดังกล่าว และเมื่อถึงเวลานัดทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายลับเข้าไปก่อนตามที่นัดหมายกันไว้ โดยนายโรจนิรินธน์ อายุ 65 ปี และนางสาวภัคมลณัฏฐ์ อายุ 52 ปี สองสามีภรรยา ได้แสดงตนเป็นเจ้าของร้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้สายลับเข้าไปพิมพ์ฟันปลอมก่อน และเมื่อดำเนินการเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสระบุรีจึงได้แสดงตน ขอตรวจสอบใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล พ.ศ.2541และใบประกอบวิชาชีพทันตกรรม ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 แต่ นายโรจนิรินธน์ และนางสาวภัคมลณัฏฐ์ ไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าพนักงานได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นบริเวณภายในร้านพบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทำฟันปลอม รวม 35 รายการซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านงตนได้ โดยทั้ง 2 ยอมรับสารภาพว่าใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการจัดทำพิมพ์ปากสำหรับการทำฟันปลอมจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยทั้ง 2 สามีภรรยา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจึงร่วมกันจับกุมตัว นายโรจนิรินธน์ และนางสาวภัคมลณัฏฐ์ พร้อมกับตรวจยึดของกลาง นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางด้านกฏหมายต่อไป

จากนั้นในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ได้วางแผนจับกุมคลินิกจัดฟันแฟชั่นเถื่อน โดยการการให้สายลับติดต่อจัดฟันแฟชั่น โดยติดต่อทางโทรศัพท์ โดยนัดแนะสถานที่จัดฟัน และราคาในการจัดฟันแฟชั่น ซึ่งทางคลินิกคิดราคาในการจัดฟัน 1,200 บาท โดยนัดกันที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ม.4 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี และเมื่อสายของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยังห้องที่ทำเป็นคลินิกจัดฟันแฟนซี ขณะที่กำลังนอนอยู่บนโต๊ะนอนจัดฟันกันอยู่ ซึ่งภายในห้อง เป็นห้องเช่าที่ไม่สะอาด มีสิ่งของวางกระจัดกระจายทั่วห้อง ทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น พบนางสาวประภัสรา อายุ 28 ปี กำลังจัดฟันให้กับสายลับ และขอตรวจสอบใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และใบประกอบวิชาชีพทันตกรรม ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 แต่นางสาวประภัสรา ไม่มีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าว และตรวจค้นยึด อุปกรณ์ในการจัดฟันแฟนซี่ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้นได้มีนางทวี อายุ 52 ปี แสดงตัวเป็นแม่ของนางสาวประภัสรา โดยขอร้องเจ้าหน้าที่ว่าอย่าจับลูกสาวตนเอง โดยบอกว่าลูกสาวตนเองเพิ่งทำมาไม่กี่ครั้ง ทำเฉพาะคนที่รู้จักกัน ในกลุ่มเพื่อนๆจากนั้นได้ควบคุมตัวนางสาวประภัสรา ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป โดยนางสาวประภัสรา ยอมรับสารภาพว่าตันเองรับจัดฟันมาประมาณ 1 ปี โดยคิดค่าจัดฟันแฟนซี ในราคา 800-1,200 บาท ต่อครั้ง ซึ่งปกติตนเองเป็นพนักงานจัดแยกพัสดุของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ที่มารับจัดฟันเนื่องจากว่าตนเองเคยไปจัดฟันแฟนซีตามคลิกนิก ซึ่งมีราคาแพง ตนเองจึงคิดอยากมีรายได้เสริมจึงไปหาซื้ออุปกรณ์จัดฟันทางเฟสบุ๊ก และมาเปิดบริการรับจัดฟันแฟนซี