พุ่งเป้าสีกาเตย-สามี มีอำนาจสั่งการนายแย้มมานาน คนวงในสงสัยทำไม "แย้ม" ยอมทุกเรื่องแม้กระทั่งเงิน ปูดสีกาเตย รู้เรื่องสาวเกน มีการโอนหนักนับสิบล้าน พยายามตัดวงจรแต่ไม่ทันแล้ว ส่วนตัวเองกินเงินร้านกาแฟ ร้านสวัสดิการ รายได้วันละหลักหมื่นถึงแสนมาเป็นสิบปี อึ้งพบค่ายเพลงประสานคนดัง เจ้าตัวอัพเพลงในค่ายสุดสวีทกับสามีคนปัจจุบัน ชาวบ้านเคาะอยากให้ตรวจสอบทรัพย์สิน 

วันที่ 26 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบส่วนกลาง ได้มีการควบคุมตัวนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ในคดีฉาวฐานยักยอกทรัพย์ของวัด พร้อมกับควบคุมตัวนางสาวอรัญญาวรรณ หรือเกน ซึ่งมีรายชื่อพัวพันอยู่กับแก๊งพนันออนไลน์ทำให้เกิดความเสียหายในวงเงินหมุนเวียนมากกว่า 2,000 ล้านบาท นับเป็นข่าวฉาวที่ประชาชนให้ความสนใจและมีกระแสวิจารณ์ไปในวงกว้าง 

โดยบรรยากาศภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง ยังคงมีประชาชนเดินทางเข้ามากราบไหว้ขอพรจากหลวงพ่อวัดไร่ขิง ท่ามกลางกระแสการวิจารณ์และการติดตามเร่งรัดสะสางคดีเกี่ยวกับเส้นทางทางการเงินและตรวจสอบว่ามีใครเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับเงินรายได้ของวันไร่ขิงจนทำให้เกิดความเสียหายแก่วัด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานในการติดตามบัญชีต่างๆ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางทางการเงิน เพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ สีกาเตย และสามีที่มีบทบาทสำคัญภายใน วัดไร่ขิงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งกระแสคนจากภายในวัดและชาวบ้านอยากให้มีการเร่งรัดสะสางติดตามเส้นทางทางการเงินของสองสามีภรรยาคู่นี้เนื่องจากมีรายได้อู้ฟู่ และยังไม่เห็นอาชีพหลักที่เป็นแหล่งเงินรายได้ในการซื้อของที่ดิน รวมถึงรถยนต์ที่มีชื่อปรากฏกว่า 23 คัน 

แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า สีกาเตย และนายช. (นามสมมติ) มีความสัมพันธ์กับนายแย้ม อย่างต่อเนื่องโดยหักย้อนกลับไปถึงคนที่พบเห็นพฤติกรรม คือ สีกาเตย กับนายแย้มจะมีการโทรหากันทั้งวัน รวมทั้งหากเป็นช่วงว่างก็จะใช้วิธีการวิดีโอคอลให้เห็นหน้ากัน จนเป็นที่ทราบดีของคนใกล้ชิด ซึ่งจากประเด็นในการสอบถามพบว่าสีกาเตย และสีกาเกน ทั้งคู่ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกันหรือเป็น ขบวนการเดียวกันมาก่อน ซึ่งที่ผ่านมาสีกาเตย พอจะทราบเรื่องของสีกาเกน มาบ้างแล้วและได้มีความพยายามในการตัดตอนออกจากในแย้ม เนื่องจากพบว่ามียอดเงินไหลออกไปถึงสีกาเกน นับสิบล้าน แต่ไม่ทันการณ์ เนื่องจากเป็นช่วงที่นายแย้มน่าจะถูกอัดคลิปเสียงและคลิปภาพเอาไว้

นายเก๋ (นามสมมติ) ได้ให้ข้อมูลเป็นเสียงว่าสำหรับข้าวของเช่นสังฆทาน ที่ญาติโยมนำมาถวายสีกาเตยจะมีลูกทีมอยู่สองคน ช่วยกันขนนับเงินและของไปไว้ที่จังหวัดมุกดาหารเป็นประจำโดยจะใช้เวลายกของประมาณช่วงหนึ่งถึงสองทุ่มโดยเป็นการสมยอมของนายแย้ม ที่มอบให้กับสีกาเตยโดยไม่มีการบังคับ ซึ่งสามีของสีเตย ไม่ได้มีบทบาทในการควบคุมแต่จะเป็นผู้รับฟังคำสั่งจากผู้เป็นภรรยาให้ดำเนินการต่างๆ นอกจากนี้ยังพบว่าสีกาเตย ได้มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจของนายแย้มช่วงที่เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งหากไม่ถูกกับใครแล้วก็จะไม่ใช้วิธีการไปกดดันเองแต่จะสั่งการให้นายแย้มเป็นผู้ลงดาบ ซึ่งใครที่ไม่ยอมรับฟังและแข็งข้อก็จะมีการสั่งการให้ออกจากงานหรือนำออกไปจากหน้าที่นั้นทันที

นายเก๋ (นามสมมติ) บอกว่าที่ผ่านมาใครไม่ถูกกับ สีกาเตย ก็จะมีสภาพอันเป็นไปคือสั่งให้ออกจากงานหรือหมดหน้าที่ไปทันทีซึ่งข้อสงสัยทางการเงิน คือลูกสาวของ สีกาเตย ก็จะมีเงินพัวพันในบัญชีนับเป็นหลักล้านบาท โดยหากเงินในมือของสีกาเตยและสามีหมด ผู้เป็นสามีก็จะเป็นคนเบิกเงินออกจากบัญชีของลูกสาวสีกาเตย ซึ่งมีความรู้สึกว่าน่าจะมีการเชื่อมโยงถึงกันเกี่ยวกับการผ่องถ่ายทางด้านการเงิน ทั้งนี้ยังมีหลักฐานว่า สามีของ สีกาเตยได้มีการโอนเงิน กลับไปที่นายแย้ม ด้วยเช่นกัน 

สำหรับการเข้ามาพบกับนายแย้ม เมื่อ ปี พ.ศ.2551 ส่งสีกาเตยไม่ได้มากับสามีคนนี้แต่มากับสามีคนก่อนหน้า โดยจะไปพักอาศัยอยู่ที่กุฎิของนายแย้มโดยทั้งคู่จะขึ้นไปนอนชั้นบนส่วนในแย้มจะนอนอยู่ทางด้านล่างเนื่องจากไม่ชอบเดินขึ้นบันได และมีความสำคัญมากขึ้นจนทำให้เกิดความปั่นป่วนภายในวัด เนื่องจากครั้งหนึ่งนางเตยพยายามจะมีการให้ทำรูปภาพเป็นโครงการบริจาคเงินไถ่ชีวิตโคกระบือหรือกิจกรรมต่างๆและให้ใส่บัญชีวัดนำไปติดไว้ภายในเพื่อให้ประชาชนและญาติโยมที่มาทำบุญได้ร่วมกันบริจาคแต่ก็เกิดความขัดแย้งกันภายในวัด กับคณะสงฆ์หลายคนที่เริ่มมีการต่อต้านสองสามีภรรยาคู่นี้

นายเก๋ (นามสมมติ) บอกอีกว่าธุรกิจที่ สีกาเตย และสามีทั้งคนปัจจุบันและคนก่อนๆ ได้ดูแลจะมีสองจุดในวัดก็คือร้านค้าสวัสดิการ ร้านกาแฟอินณัฐ และจุดให้อาหารปลาคาร์ฟ โดยจะมีการเคลียร์กันเป็นเงินสด ซึ่งช่วงแรกก็จะเป็นการนำขึ้นไปจำแนกกันที่กุฎิของนายแย้ม โดยส่วนเหรียญจะนำมาใช้แลกเปลี่ยนกันที่ร้านกาแฟ โดยรายได้ต่อวันอยู่ที่ 20,000 บาท ถึง 30,000 บาท แต่หากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือวันสำคัญจะมีมีรายได้ขึ้นเป็นหลัก 100,000 บาท จากนั้นก็จะทำการโอนกลับไปที่ในแย้ม แต่ช่วงหลังได้ใช้วิธีการทำสัญญาว่านายแย้มเป็นหนี้กับสีกาเตยจะเป็นหลักแสนหรือหลักล้านก็ว่ากันไปจากนั้นบนหัวบิลเวลามีการ โอนเงินคืนก็จะกลายเป็นการหักเงินยอดหนี้ของนายแย้มที่มีต่อกัน ซึ่งระยะหลังเงินก็เข้าตรงไปที่สีกาเตยทั้งหมด 

"ช่วงหลังสีกาเตย เริ่มรู้ว่าสีกาเกน ได้มีบทบาทมากขึ้นและมีเงินเข้าไปที่บัญชีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางสีกาเตย ได้พยายามตัดตอนและเข้าถึงในแย้มเพื่อที่จะไม่ให้มีการโอนเงินไปที่หญิงสาวคนดังกล่าว แต่ไม่ทันการณ์เนื่องจากนายแย้มได้โอนเงินไปแล้วเป็นจำนวนมหาศาล โดยที่ผ่านมาผมเห็นว่าหากใครเป็นหญิงและเข้าใกล้กับนายแย้ม สีกาเตยก็จะทำทุกวิถีทางที่จะผลักดันให้หญิงคนนั้นออกห่างไปเพื่อไม่ให้มีผลประโยชน์หรือมาขอรับการสนับสนุนทางด้านการเงินหรือความสะดวกใดใดๆ และนายแย้มยังเคยบอกกำชับไม่ให้คนสนิทไปบอกกับสีกาเตยว่ามีสีกาเกน มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์และโอนเงิน เพราะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่อยากให้รู้" นายเก๋ (นามสมมติ) กล่าว

นายเก๋ (นามสมมติ) เล่าว่า สำหรับรถที่มีการระบุว่ามีชื่อของสีกาเตยไปแล้ว กว่า 23 คัน ตนเองมีความเชื่อว่าน่าจะเป็นเงินของนายแย้มที่โดนโยกย้ายออกไปและทำทีให้สีกาเตยเป็นผู้ซื้อจากนั้นไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดได้มีการโอนกลับไปกลับมา จนยอดรถยนต์มีตัวเลขนับ 10 คันอยู่เป็นชื่อของสีกาเตย ซึ่งรายได้และผลประโยชน์ที่น่าจะได้รับก็น่าจะมีมากเพราะเคยเห็นสีกาเตยเป็นคนจ่ายเงินค่านักร้องและการแสดงในงานประจำปี คืนละ200,000 ถึง 300,000 บาท และเป็นที่รู้กันว่าเมื่อจบงานปีหนึ่งครั้งก็จะมีการออกรถยนต์หนึ่งคันให้เห็นอยู่ตลอด สำหรับร้านกาแฟที่อยู่ในจังหวัดสุโขทัยเชื่อได้ว่าเป็นที่ฟอกเงินเพราะที่ร้านหนึ่งเดือนน่าจะขายกาแฟได้เพียงไม่กี่แก้วแต่มีการไปจัดสร้างสถานที่เอาไว้ อย่างกว้างขวาง ส่วนที่จังหวัดมุกดาหาร ก็เป็นเพียงโครงสร้างที่จัดสร้างเอาไว้เป็นสัญลักษณ์เท่านั้นและเป็นที่ดินไม่มีโฉนด 

นายเก๋ (นามสมมติ) เล่าต่อไปว่าส่วนกุมารอินทณัฐ คือสิ่งที่สีกาเตยได้อุปโหลกขึ้นมา และไม่มีใครทราบว่าจู่จู่มีการนำรูปปั้นของกุมารนี้มาตั้งที่ด้านหลังโบสถ์ได้อย่างไรนอกจากจะมีกุมารอินทณัฐ เป็นชายแล้วก็ยังมีการอุปโหลก กุมารอินทิรา ขึ้นมาเป็นฝ่ายหญิงอีกหนึ่งตัว เพื่อให้มีเรื่องราวในการทำบุญและขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบว่าครั้งหนึ่งสีกาเตย เริ่มรู้ตัวว่านายแย้มจะถอยห่าง จึงได้มีการพยายามดำเนินการบางอย่างในการติดตามพระระดับเจ้าอาวาสรูปหนึ่งเพื่อที่จะเปลี่ยนแหล่งในการหาเงิน แต่ไปไปมามาก็ เกิดมีปัญหาหึงหวงกันเนื่องจากไปพบเส้นผมบริเวณที่อยู่ของเจ้าอาวาสจนเกิดมีปากเสียงกันซึ่ง สีกาเตยได้เคยเอารูปของ เจ้าวาดรูปดังกล่าว มาทำการเผาพริกเผาเกลือและสาปแช่งก็เคยมีทำมาแล้ว เป็นส่วนตัวที่ตนเองได้รู้จักกับนายแย้มมานาน ไม่เคยเห็นปรากฏเรื่องเกี่ยวกับการติดการพนันออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะโดนสีกาเกน หลอกโอนเงินไปให้ ส่วนเรื่องชู้สาวกับ สีกาเตย ยังไม่พบเห็นเนื่องจากทุกครั้งที่สีกาเตยจะไปพบหรือคุยธุระจะมีชายไม่ว่าจะเป็นสามีคนปัจจุบันหรืออดีตสามีสองสาม จะประกบเข้าหาอยู่ด้วยเสมอ แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าเหตุอันใดในแย้มถึงได้มีความยอมหรือหวาดกลัวกับสีกาเตยเพราะไม่ว่าสั่งการอะไรก็จะทำตามทุกอย่างที่ร้องขอมาตลอด

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ ติดตามดูกิจกรรมของสีกาเตย ซึ่งทราบว่าหนึ่งในนั้นคือธุรกิจเกี่ยวกับค่ายเพลง ซึ่งจะมีศิลปินหนุ่มสาวอยู่ในสังกัดร้องเพลงลูกทุ่งรวมถึงมีภาพปรากฏกับศิลปินคนดังมากมายหลายคน โดยในการทำคลิปยังมีการเปิดเพลงและขึ้นรูปใบหน้าตนเองอย่างเด่นชัด รวมถึงบางคลิปก็จะมีการกอดแสดงท่าหวานซึ้งกับสามีคนปัจจุบันด้วยเพลงในค่าย อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้ที่รู้จักหรือสงสัยอยากให้มีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของสีกาเตย นายฉัตรชัย สามี บุตรสาวของสีกาเตย และคนรอบข้างว่าใครได้รับการผ่องถ่ายหรือรับผลประโยชน์จากเงินรายได้ของวัดไร่ขิงไปบ้าง รวมถึง หลายหลายกิจกรรมของวัดไร่ขิง จะปรากฏสีกาเตย และสามีจะได้รับโอกาสเป็น ประธานผู้จุดเทียน อยู่บ่อยครั้ง จนมีการตั้งข้อสงสัยมานานและมีการจับกุม ในคดียักยอกทรัพย์ทั้งนายแย้มและสีกาเกณไปแล้ว ซึ่งกำลังรอจับตาว่าจะมีหมายจับหรือเชิญสีกาเตยและสามีรวมถึงคนรอบตัวไปสอบปากคำและตรวจสอบเส้นทางการเงินเมื่อไหร่