วันที่ 25 พ.ค.68  เพจ The Nurses' Association of Thailand : สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ  เผยแพร่แถลงการณ์  เรื่อง ขอเรียกร้องความรับผิดชอบจากสื่อมวลชนต่อการรายงานข่าวที่บิดเบือน และละเมิดศักดิ์ศรีของพยาบาลผู้เสียชีวิต โดยศาสตราจารย์ ดร.ศิริอร สินธุนายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ Conference จาก World Health Assembly เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า ..

ดิฉัน ศาสตราจารย์ ศิริอร สินธุ ในนามของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย และสมาชิกพยาบาลทั่วประเทศ ขอแสดงความอาลัยและเสียใจอย่างสุดซึ้ง ในการจากไปของคุณพยาบาล อัญชุลี วงศ์เมือง ผู้เป็นที่รักของครอบครัว เพื่อนร่วมวิชาชีพและผู้ป่วยนับไม่ถ้วน จากเหตุการณ์อันโหดร้าย สะเทือนขวัญ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พ.ค.2568

รายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ก่อเหตุได้ลักลอบปีนเข้าห้องพักของผู้เสียชีวิตในยามวิกาล หวังขโมยทรัพย์สิน แต่เมื่อเธอตื่นขึ้นและพยายามต่อสู้ จึงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ ขอประณามการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตในครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรม ดำเนินการอย่างถึงที่สุด กับผู้กระทำความผิด

คืนสุดท้ายของชีวิต ก่อนพบจุดจบอย่างโหดร้าย ณ ห้องพักที่โรงพยาบาลจัดให้บนเกาะสมุย อันควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่สุด เธอไม่ได้ออกไปเที่ยวกลางคืน ไม่ได้เป็นค่ำคืนแห่งความสำราญ ไม่ได้นำชายคนร้ายกลับมาด้วย ตามที่สื่อบางแห่งรายงาน แต่เธอเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจอันเหน็ดเหนื่อย ในการปฏิบัติหน้าที่ในหอผู้ป่วยจนหลังเที่ยงคืน

คนดี ที่ถูกกระทำ...ทั้งด้วยอาชญากรรม และด้วยคำบิดเบือนของสื่อ
“ไม่รู้จริง-ไม่ควรเสนอข่าว”

ความเชื่อมั่นในสื่อถูกตั้งคำถามอย่างรุนแรง และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ “ความผิดพลาด” หากแต่คือ “ความรุนแรงในรูปแบบใหม่” ที่ทำลายเกียรติภูมิของผู้หญิงคนหนึ่ง แม้จากโลกนี้ไปแล้ว ก็ยังไม่หลุดพ้นจากการถูกตัดสินโดย “ข่าวเท็จ”

การสูญเสียครั้งนี้ ถูกซ้ำเติมให้สะเทือนใจยิ่งขึ้นสำหรับครอบครัว เพื่อนร่วมวิชาชีพทั้งประเทศ ข่าวเท็จไม่เพียงสร้างบาดแผลให้แก่ครอบครัว หากแต่ยังเป็นการกระทำที่เหยียบย่ำจิตวิญญาณของผู้มุ่งมั่นปฏิบัติงานการพยาบาล ทำลายศรัทธาของสังคม และเป็นการหมิ่นเกียรติอย่างที่สุด “ในสังคมที่ดี เสียงของสื่อควรเป็นแสงสว่าง” ไม่ใช่เงามืดที่เหยียบย่ำผู้บริสุทธิ์ ผู้จากไปควรถูกปกป้อง ไม่ใช่ถูกทำลายด้วยการเสนอข่าวที่ไร้ความรับผิดชอบ

สมาคมพยาบาลแพ่งประเทศไทยฯ เรียกร้องให้สำนักข่าวต้นเรื่องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ขอให้ท่านคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของคุณพยาบาลผู้นี้กลับมา ไม่ใช่เพียงเพราะเธอเป็นพยาบาล แต่เพราะเธอคือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ควรจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี และได้รับความเคารพ ขอเรียกร้องให้สำนักข่าวต้นเรื่องแสดงความรับผิดชอบทันที โดย

1.ออกแถลงการณ์ขอโทษอย่างเป็นทางการ ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต แสดงความเสียใจอย่างจริงใจ
2.ใช้พื้นที่สื่อในการแก้ไขข่าวที่บิดเบือนทันที และชี้แจงความจริงอย่างตรงไปตรงมา คืนเกียรติยศและศักดิ์ศรีให้เธอ ไม่ผลักภาระความเจ็บปวดให้ตกอยู่กับผู้สูญเสีย
3.เผยแพร่ความจริงให้เข้าถึงผู้คนได้มากเท่ากับข่าวผิดเดิม ให้เสียงของความจริงและความยุติธรรมดังก้องไปถึงทุกมุมของสังคม
4.ทบทวนจรรยาบรรณของวิชาชีพสื่อ โดยเฉพาะเมื่อรายงานข่าวที่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

“ความเท็จ” ต้องไม่กลายเป็น “คำพิพากษา” ที่ติดตัวผู้จากไปอย่างไม่ยุติธรรม เธอไม่ใช่แค่ข่าว...เธอคือ “ผู้หญิง” ที่เคยดูแลลมหายใจของผู้คนมากมาย ข่าวเท็จแพร่กระจายไปทั่วในเวลาไม่กี่นาที

เกียรติของเธอ...อาจถูกตัดสินไปแล้ว ในสายตาของคนจำนวนมาก เธอไม่สมควรถูกจดจำด้วยคำเสนอข่าวเท็จ แต่ควรถูกยกย่องในฐานฐานะคนที่ทำงานเพื่อสุขภาพและชีวิตของสังคม เป็นมนุษย์ที่มีเกียรติ

นี่ไม่ใช่คำร้องขอด้วยความกรุณา แต่คือเสียงของความจริง ที่เรียกร้องความเป็นธรรม ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชน ยึดมั่นในหลักจริยธรรมวิชาชีพ สืบค้นข้อมูลอย่างรอบคอบและพร้อมออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการสื่อสารที่ผิดพลาด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อบุคคล และต่อภาพลักษณ์ของวิชาชีพพยาบาล

ในนามของพยาบาลวิชาชีพทั่วประเทศ ที่กำลังโศกเศร้า เสียใจ และบอบช้ำอย่างที่สุดกับเหตุการณ์อันน่าสลดใจนี้ ขอให้เราร่วมกัน รักษาความจริง และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ไว้ให้คู่ควรกับโลกที่เราอยู่ร่วมกัน ขอให้ศักดิ์ศรีของพยาบาลผู้จากไป ได้รับการฟื้นฟูโดยทันที

ขอคารวะดวงวิญญาณของเธอด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

 

 

ขอบคุณ เพจ  The Nurses' Association of Thailand : สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ