วันที่ 25 พ.ค.2568 ที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยในคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงและสงสารนายกฯยิ่งลักษณ์ เนื่องจากหลายคนทราบดีว่าคดีเรื่องการจำนำข้าวนั้นเป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงของการปฏิวัติรัฐประหาร และเป็นหนึ่งในเหตุผลของการยึดอำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในขณะนั้น เวลาผ่านไป 10 กว่าปี ตนเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีทีมกฎหมาย มีทนายที่ร่วมต่อสู้คดี แต่เมื่อคดีถึงที่สุด พรรคเพื่อไทยขอเป็นกำลังใจ แต่ก็ต้องยอมรับในคำตัดสิน และอยากจะใช้ช่องทางกฎหมายเท่าที่เหลืออยู่ต่อสู้ในคดีนี้ และเราก็ได้ไปพูดคุยกับฝ่ายกฎหมาย และผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ขอเรียนว่าคดีนี้ยังมีช่องทางในพอต่อสู้ได้อยู่
นายดนุพร กล่าวต่อว่า คดีนี้ มีการขายข้าวได้ น่าจะเป็นหลักฐานใหม่ที่จะนำไปสู่การขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดใหม่ได้ ภายใน 90 วัน ตามมาตรา 75 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี พ.ศ. 2542
“เป็นหลักฐานใหม่ คือการขายข้าว 18.9 ล้านตัน เมื่อปีที่แล้ว ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิพากษาในคดี เพราะเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นภายหลังการสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว เพราะฉะนั้น ทางพรรคเองมองว่าเป็นหลักฐานใหม่ ที่ยังไม่เคยเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ดังนั้น เราจะใช้ช่องทางทางกฎหมายตามมาตรา 75นี้ เป็นช่องทางต่อสู้ต่อไป” นายดนุพร กล่าว
นายดนุพร ย้ำว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนปฏิวัติ ซึ่งผู้นำในการปฏิวัติในขณะนั้นได้มีการใช้มาตรา 44 หลายฉบับ เกี่ยวข้องกับคดีการจำนำข้าว แต่แน่นอนเราก็ต้องต่อสู้กันไปโดยใช้หลักฐานใหม่
นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้จะเห็นได้ว่าเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทยเอง ลงโพสต์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนก็ขอเรียนว่านโยบายจำนำข้าวนั้น เป็นนโยบายหลักที่พรรคเพื่อไทยนั้นใช้ในการหาเสียงเมื่อปี 2554 พวกเราชนะการเลือกตั้งส่วนหนึ่งก็มาจากนโยบายนี้ ทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาสามารถลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นเป็นเหตุจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะต้องลงโพสต์ชี้แจง พูดถึงข้อเท็จจริงเรื่องของคดีนี้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร
นายดนุพร กล่าวว่า มีหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบคดี 112 เป็นการเมืองหรือไม่ ทำไมไม่แสดงความเห็น ตนต้องเรียนว่าในวันที่ 9 ก.ค.ที่ประชุมสภาฯจะมีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม ดังนั้น ไม่อยากให้ถกเถียงกันนอกสภาว่าเป็นการเมืองหรือไม่ ตนคิดว่าเมื่อถึงขั้นตอนของการพิจารณาก็ไปพูดคุยอภิปรายในสภาฯ เราจะหาข้อสรุปได้ในวันนั้น รวมถึงเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วย
เมื่อถามว่ามีนักกฎหมายวิเคราะห์ไม่สามารถนำข้าวที่ขายมาชดเชยได้ นายดนุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาล เพียงแต่ว่าเราก็มีช่องทางทางกฏหมายที่เหลืออยู่ โดยใช้มาตรา 75 เราก็พยายามที่สุด ส่วนศาลจะรับหรือไม่รับ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องขอความเห็นเป็นธรรมต่อไป รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน การตำหนิรัฐบาลทำได้ เราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีวาระ 4 ปี เหลืออีก 2 ปี ก็เลือกตั้งใหม่ หากคิดว่าพรรคเพื่อไทยทำอะไรไม่ถูกไม่ควรก็สามารถวิจารณ์ได้