วันที่ 23 พ.ค.2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถหักหนี้กับผลประโยชน์ได้ ว่า เป็นการมองแบบตัดตอนเพียงเฉพาะด้านบัญชี โดยไม่พยายามมองมิติทางเศรษฐกิจและสังคมจากนโยบายจำนำข้าว ที่สามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้มากกว่า 3.7 ล้านครัวเรือน เงินกว่า 6.8 แสนล้านบาท หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากชนบทโดยตรง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ และยกระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม โครงการรับจำนำข้าวไม่ใช่โครงการแจกเงินแบบไร้ระบบ แต่เป็นนโยบายเชิงโครงสร้าง ที่มุ่งสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร มีเป้าหมายชัด มีระบบตรวจสอบ และได้รับการยอมรับจากเกษตรกรทั่วประเทศ มีผลลัพธ์ที่ดีชัดเจน ประเทศไทยสามารถกลับมาครองตำแหน่งผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกได้ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสะท้อนผลลัพธ์ที่ชัดเจนและพิสูจน์ได้ 

การโจมตีนโยบายด้วยวาทกรรมทางการเมืองเพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการผลักดันนโยบายเปลี่ยนประเทศ อาจส่งผลให้ในอนาคตพรรคการเมือง อาจจะไม่กล้านำเสนอนโยบายแบบพลิกประเทศ ที่คิดใหม่ ทำใหม่ มุ่งตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาของประเทศ อาจได้รัฐบาลที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำอะไรเชิงโครงสร้างหรือเชิงระบบ เพราะจะถูกนำมาเป็นเครื่องมือทำลายล้าง หรือทำนิติสงคราม ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินติดหล่มในภายหลัง อาจเป็นบรรยากาศที่บั่นทอนระบอบประชาธิปไตยที่ควรเปิดพื้นที่ให้แข่งขันกันด้วยแนวนโยบาย ไม่ใช่ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อทำให้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้

“อย่าทำลายบรรยากาศของการแข่งขันกันออกความคิดเชิงนโยบายด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้น หากยังเชื่อว่าประชาชนควรมีทางเลือก ควรยอมรับว่านโยบายที่ทำได้จริงและช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้น สำเร็จได้โดยรัฐบาลที่กล้าผลักดันนโยบาย  รัฐบาลนั้นไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นจำเลยทางการเมืองไม่จบสิ้น” นายอนุสรณ์ กล่าว