แม้จะผ่านพ้นไปแล้วกว่า 2 สัปดาห์สำหรับการจัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศ แต่ผลของการเลือกตั้งที่ออกมา อาจยังบ่งบอกอะไรไม่ได้ ตราบใดที่กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผล หลายพื้นที่ยังคงมีการร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลของการเลือกตั้ง
โดย กกต.ได้มีการสรุปข้อมูลการใช้สิทธิเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี อย่างไม่เป็นทางการ และเทศบาลที่ต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรี จำนวน 2,128 แห่ง จำนวน 16,242,865 คน มาใช้สิทธิ 10,363,490 คน คิดเป็น ร้อยละ 63.80 บัตรดี 9,446,577 ใบ คิดเป็น ร้อยละ 91.15 บัตรเสีย 391,539 ใบ คิดเป็น ร้อยละ 3.78บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 525,349 ใบ คิดเป็น ร้อยละ 5.07
ผู้มีสิทธิสมาชิกสภาเทศบาล จำนวน 2,462 แห่ง จำนวน 18,889,679 คน มาใช้สิทธิ 11,886,752 คน คิดเป็น ร้อยละ 62.93 บัตรดี 10,884,080 ใบ คิดเป็น ร้อยละ 91.56 บัตรเสีย 456,214 ใบ คิดเป็น ร้อยละ 3.84 บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 546,456 ใบ คิดเป็น ร้อยละ 4.60 โดยจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรี มากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1. พัทลุงคิดเป็น ร้อยละ 81.89 2. ปราจีนบุรี คิดเป็น ร้อยละ 78.82 3. ฉะเชิงเทราคิดเป็น ร้อยละ 76.17 ,4. ลำพูน คิดเป็น ร้อยละ 75.29 ,5. มุกดาหาร คิดเป็น ร้อยละ 74.59 ,6. กระบี่ คิดเป็น ร้อยละ 73.69 ,7. ราชบุรี คิดเป็น ร้อยละ 73.45 ,8. อ่างทอง คิดเป็น ร้อยละ 73.38 ,9. นครนายก คิดเป็น ร้อยละ 73.33 ,10. ชัยนาท คิดเป็น ร้อยละ 71.89
ส่วนจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล มากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1. พัทลุง คิดเป็น ร้อยละ 81.21 2. ลำพูน คิดเป็น ร้อยละ 74.99 3. ปราจีนบุรี คิดเป็น ร้อยละ 74.91 4. มุกดาหาร คิดเป็น ร้อยละ 74.57 5. กระบี่ คิดเป็น ร้อยละ 73.51 6. นครนายก คิดเป็น ร้อยละ 72.53 7. ชัยนาท คิดเป็น ร้อยละ 71.80 8. ฉะเชิงเทรา คิดเป็น ร้อยละ 71.68 9. เลยคิดเป็น ร้อยละ 71.06 10. ราชบุรี คิดเป็น ร้อยละ 70.94
นอกจากนี้ มี 11 เขตเลือกตั้งใน 9 จังหวัด ที่ต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งเทศบาลใหม่ในวันที่ 22 มิ.ย.68 แบ่งเป็น 2 เขต ที่ต้องเลือกนายกเทศมนตรีใหม่เพราะมีผู้สมัครคนเดียว แต่ได้คะแนนเสียงไม่มากกว่าบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด ตามที่ มาตรา111พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น2562 กำหนดคือ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จ.นคร ปฐม และนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าสัก อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
ขณะที่อีก 9 เขตเลือกตั้งเป็นการเลือกสมาชิกสภาเทศบาลเพิ่มเติม โดยที่ต้องเลือกเพราะสมัครน้อยกว่าจำนวนที่พึงมี 5 คน เลือกตั้งเพิ่ม 1 คนประกอบด้วย 1.เขตเลือกตั้งที่ 1เทศบาลตำบลปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ 2. เขตเลือกตั้งที่ 2 เทศบาลตำบลไร่ใหม่ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3. เขตเลือกตั้งที่2เทศบาลตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา 4. เขตเลือกตั้งที่ 1 เทศบาลตำบลบ้านใต้ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 5.เขตเลือกตั้งที่ 2 เทศบาลตำบลบ้านท่าหลวง อำเภอท่าหลวงจังหวัดลพบุรี 6.เขตเลือกตั้งที่ 2 เทศบาลตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 7.เขตเลือกตั้งที่ 1 เทศบาลตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด 8.เขตเลือกตั้งที่ 2เทศบาลเมืองพระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 9.เขตเลือกตั้งที่ 2 เทศบาลตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งเขตนี้มีผู้สมัครมากกว่าจำนวนที่พึงมี 8 คน แต่ได้คะแนนเสียงไม่มากกว่าบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด จึงต้องเลือกตั้งใหม่ 2 คน
ที่จังหวัดราชบุรี นายณัฎฐกร คงเดชา ผอ.กกต.ราชบุรี นายสมชาย โถววิริยะกุล รอง ผอ.กกต.ราชบุรี พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีและสมาชิกทั้ง 36 แห่งในจ.ราชบุรี และเรื่องร้องเรียนต่างๆก็ที่มีเข้ามาอยู่ในระหว่างการ ตรวจสอบข้อเท็จจริง 2 เทศบาล ที่กำลังดำเนินการสอบสวน เนื่องจากจำนวนบัตรเลือกตั้งกับจำนวนผู้มาขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก ไม่ตรงกับบัตรที่ใช้ไปหรือเรียกว่าบัตรเขย่ง คือที่เทศบาลตำบลดำเนินสะดวก และเทศบาลตำบลหลุมดิน ทางกกต.จ.ราชบุรี กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่บัตรไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์แล้วจะส่งให้ทางกกต.กลาง พิจารณา เพื่อดำเนินการต่อไป
นายณัฎฐกร คงเดชา ผอ.กกต.ราชบุรี กล่าวว่า ภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกทั้ง 36 แห่งในจ.ราชบุรี ส่วนใหญ่ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ส่วนเรื่องร้องเรียนต่างๆก็อยู่ในระหว่างการสอบสวน จะมีก็แต่แค่ 2 เทศบาลเท่านั้นที่กำลังดำเนินการสอบสวน เนื่องจากจำนวนบัตรเลือกตั้งกับจำนวนผู้มาขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก ไม่ตรงกับบัตรที่ใช้ไปหรือเรียกว่าบัตรเขย่ง คือที่เทศบาลตำบลดำเนินสะดวก และเทศบาลตำบลหลุมดิน ซึ่งทาง กกต.จ.ราชบุรี กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่บัตรไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์แล้วจะส่งให้ทางกกต.กลางเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แนวทางการดำเนินการตามกฎหมาย ตามระเบียบคือถ้าบัตรไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ก็อาจจะมีการเสนอให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในหน่วยเลือกตั้งนั้นเฉพาะบัตรเลือกตั้งนายก สองแห่ง
ส่วนเรื่องของการซื้อสิทธิ์ขายเสียงซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาว่ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงสูงถึง 3000 บาทนั้น ก็จะมีทั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งและชุดเคลื่อนเร็ว ซึ่งการเลือกตั้งทุกครั้งก็จะมีการรับเรื่องร้องตลอด มีแอพพลิเคชั่นตาสับปรดซึ่งทางกกต.ก็ได้มีการเชิญชวนให้ประชาชนที่พบเห็นการกระทำความผิดพร้อมส่งหลักฐานมา ซึ่งทางกกต.ก็จะไปดำเนินการและถ้าหลักฐานของประชาชนที่แจ้งมานำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ก็จะมีรางวัลให้ แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่พี่น้องประชาชนขออย่ารับเงิน แต่อยู่ที่ว่าเราต้องการผู้แทนที่ทุจริตเลือกตั้งหรือไม่ แต่ถ้าท่านรับเงินไว้แล้วก็ขอให้มาแจ้งทางกกต.เพราะการซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้นผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่ถ้ามาแจ้งทาง กกต.ก่อนท่านก็จะถูกกันไว้เป็นพยาน
ส่วนที่จังหวัดปทุมธานี นายสมชาติ ค้าทันเจริญ อายุ 63 ปี ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี หมายเลข 2 ได้เข้ามาร้องเรียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี โดยระบุว่า เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี พร้อมด้วย นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ เลี้ยงสกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี หมายเลข 4 และนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี เขต 2 หมายเลข 1 นายไพโรจน์ กล้าหาญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี เขต 2 หมายเลข 5 ในนามทีมธัญญก้าวหน้า เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งโดยรถตู้แวนสีดำ ซึ่งเดินทางมาด้วยกัน ที่ โรงเรียนวัดนาบุญ ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ 30 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อลงจากรถพร้อมผู้สมัคร นายก และ สท. นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว ได้ชูสัญญาลักษณ์ มือหมายเลข 4 ให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งปรากฏภาพตามข่าวโทรทัศน์ และ ข่าวออนไลน์ เป็นจำนวนมาก ตนเองมองว่าเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะ เป็นการชี้นำผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้มาเลือกผู้สมัคร นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี หมายเลข 4
จุดที่ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว ได้ชูสัญญาลักษณ์ มือหมายเลข 4 นั้นอยู่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง ที่ 30 ซึ่งตนเองมองว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้ง จึงได้นำเอกสาร และ ภาพ นิ่ง ภาพเคลื่อนไหวจากสำนักข่าวที่เผยแพร่ นำมามอบเป็นหลักฐานให้กับ พนักงานสอบสวนของ กกต.ปทุมธานี และยังมีกระแสข่าวจากประชาชนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์และจำนวนบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกันโดยมีบัตรเลือกตั้งมากกว่าจำนวนประชาชนที่มาใช้สิทธิ์อีกด้วย ถือว่าเป็นการทุจริตการเลือกตั้งจึงขอให้ กกต.ตรวจสอบเพื่อพิจารณาต่อไป
ขณะที่จังหวัดบึงกาฬ นายวิทยา เสนจันทร์ฒิไชย ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ หมายเลข 4 ซึ่งนับคะแนนเมื่อวันที่ 11 พ.ค.68 มาเป็นที่ 2 พร้อมด้วยทนายความ นายวีระชัย แสงใบ เดินทางไปยื่นหนังสือร้อง กกต.เรื่องผู้ช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยมีภาพปรากฏในสื่อโซเชียลเพจเฟสบุ๊คผู้ช่วยหาเสียงเป็นคนที่มิใช่สัญชาติไทย ของผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ หมายเลข 1 ซึ่งเป็นภรรยาของทีมบริหารตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี คนที่ 1 ตามบทบัญญัติที่เป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 68 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้มีสัญชาติไทย เข้ามีส่วนช่วยเหลือในการเลือกตั้ง หรือกระทำการใดๆ เพื่อประโยชน์แก่การเลือกตั้งโดยประการที่อาจเป็นคุณหรือเป็นโทษ แก่ผู้สมัครข้อยกเว้น เป็นการช่วยราชการตามที่ทางราชการร้องขอหรือ ประกอบอาชีพตามปกติโดยสุจริตของผู้นั้น
นายวิทยา เสนจันทร์ฒิไชย กล่าวว่า ตนได้ติดตามผู้ช่วยหาเสียงปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทย มาช่วยหาเสียงซึ่งเป็นการผิดระเบียบของ กกต. ตนเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมก็เลยมายื่นหนังสือร้องต่อ กกต.ประจำจังหวัดบึงกาฬ เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า “ผู้ช่วยหาเสียง” ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เป็น “ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น” ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 หมวด 3 ผู้ช่วยหาเสียง ข้อ 15 ว่าให้ผู้สมัครแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ช่วยหาเสียงหรือไม่ และ กรณีมีความปรากฏทั่วไปว่ามีผู้ช่วยหาเสียงหรือผู้ใด กระทำการฝ่าฝืนไปแล้ว กกต. จะต้องรีบดำเนินการกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อย่างไร หรือไม่ จึงขอเรียกร้องคัดค้านในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้