คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย      

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าบนโลกใบนี้จะมีบุคคลท่านหนึ่งที่อัจฉริยะในทุกๆด้าน แถมยังมีทั้งลาภยศ มีทรัพย์สินเงินทองมากมายมหาศาล แต่กลับเสียสละทุกอย่างแม้กระทั่งทรัพย์สินที่มียอดทั้งหมดกว่า 200 พันล้านดอลลาร์  จะบริจาคถึง 99% ให้แก่มูลนิธิเพื่อผลประโยชน์ของมวลมนุษยชนทั่วโลก

บุคคลที่ผมกล่าวข้างต้นท่านนี้ก็คือ “บิลล์ เกตส์”

บิลล์ เกตส์ มีความปราดเปรื่องด้านคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ มาตั้งแต่สมัยยังเยาว์วัย โดยเขาตัดสินใจยอมละทิ้งการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ณ “มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด” เอาไว้เบื้องหลัง เพื่อต้องการผันตัวไปทุมเทก่อสร้างระบบไมโครซอฟท์

ทั้งนี้บิดาของเขาหาเลี้ยงชีพและครอบครัวด้วยอาชีพทนายความ ส่วนมารดาทำงานเป็นคุณครู โดยทั้งคู่ถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่บิลล์ เกตส์ เพราะทั้งสองต่างยกเวลาทั้งหมดให้กับการดูแลสั่งสอนลูกๆ และยังอุทิศเวลาทำงานให้กับองค์กรการกุศลอีกด้วย!!!

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในวัยเด็ก บิลล์ เกตส์ จะเป็นเด็กที่ชอบเก็บตัวอ่านหนังสืออยู่คนเดียวเงียบๆก็ตาม แต่ในด้านการเล่าเรียนนั้น ถือได้ว่าเขาเป็นนักเรียนที่เรียนเก่งไม่น้อยเลยทีเดียว

ทั้งนี้ในวัยเด็กเขาริเริ่มโฟกัสด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยยังได้เขียนโปรแกรมจำลองขึ้นมาใช้ชื่อว่า “Altair” และต่อมาก็ยังได้เขียนโปรแกรม “Altair BASIC” ที่กลายเป็นแรงกระตุ้นทำให้บิลล์ เกตส์ มุ่งพัฒนาระบบไมโครซอฟท์ขึ้นมา

การก่อตั้ง “บริษัทไมโครซอฟต์” ขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1975 นับได้ว่า บิลล์ เกตส์  มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือ ที่เขาสามารถสร้างระบบซอฟต์แวร์เข้าไปใช้ขับเคลื่อนการทำงานทุกๆด้านในแวดวงธุรกิจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนกลายมาเป็นหัวใจหลักสำคัญในการปฏิรูปโลกดิจิทัลในตลาดธุรกิจที่มูลค่ากว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

และแล้วในปีค.ศ. 2000 เขาได้ออกมาสร้างความตกตะลึงด้วยการออกมาประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ ของบริษัทไมโครซอฟท์เปิดทางให้ “สตีฟ  บอลล์เมอร์” ขุนพลมือขวาของเขาให้เข้ามารับตำแหน่งแทน โดยเขาตัดสินใจทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ในการบริหารมูลนิธิ “Bill and Melinda Gates Foundation”ที่ก่อตั้งขึ้นมาร่วมกับ “เมลินดา เกตส์” ศรีภรรยา โดยมูลนิธินี้มุ่งเน้นทางด้านการศึกษาและด้านการบรรเทาทุกข์โรคภัยต่างๆทั่วโลก โดยเริ่มต้นด้วยเงิน 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในช่วงต้นๆปรากฏว่ามูลนิธิของเขาสามารถช่วยชีวิตของมวลมนุษย์ทั่วโลกไปกว่า 38 ล้านคน โดยเฉพาะโรคเอดส์เอชไอวี,  โรควัณโรค, และ โรคมาลาเรีย ที่มูลนิธิของเขาทุ่มเงินไปแล้วกว่าสองพันล้านดอลลาร์

และนอกเหนือจากนั้นเมื่อครั้งที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ก็ยังปรากฏให้เห็นว่ามูลนิธิของเขาบริจาคเงินกว่า 1.75 พันล้านดอลลาร์ ในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์นำไป ใช้บำบัดรักษาผู้ป่วยจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกอีกด้วยเช่นกัน

ส่วนด้านการศึกษานั้น มูลนิธิของเขามุ่งเน้นด้านการช่วยเหลือเยาวชนตั้งแต่ระดับอนุบาล ไปจนถึงระดับมัธยมปลาย เพื่อต้องการที่จะให้เด็กๆได้รับการพัฒนาทางด้านคณิตศาสตร์และเทคนิคด้านการเป็นนักคิด โดยปรัชญาของเขามีอยู่ว่า “ต้องการที่จะให้เด็กๆและเยาวชนมีทักษะในการคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งถือเป็นรากฐานเริ่มต้นของการเป็นนักคิดที่ดี ที่สามารถจะนำมาช่วยเหลือตนเองต่อไปในภายภาคหน้า”

อนึ่งการเปลี่ยนทิศทางในนโยบายต่างประเทศของ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” ที่มี “อภิมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์” เป็นผู้ร่วมผลักดันและร่วมให้ความคิดเห็น โดยมิได้เล็งเห็นด้านมนุษยธรรมเลยนั้น สร้างความผิดหวังให้แก่บิลล์ เกตส์เป็นอย่างมาก และอาจจะมีผลทำให้สหรัฐฯต้องกลายเป็นประเทศที่โดดเดี่ยวอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อปีค.ศ. 2014  ดูเหมือนว่าการที่บิลล์ เกตส์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทไมโครซอฟต์นั้น  ส่วนหนึ่งมาจากข่าวฉาวโฉ่เรื่องชู้สาว ซึ่งต่อมาบิลล์ เกตส์ได้ออกมายอมรับสารภาพว่า เป็นเรื่องที่เขากระทำจริงๆ ที่ได้สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวที่สุดและถือเป็นตราบาปในชีวิตของเขา นับได้ว่าเขามีความกล้าที่จะออกมายอมรับผิดอย่างที่คนทั่วไปส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยกล้าทำ!!!

นอกเหนือจากนั้นแล้ว บิลล์ เกตส์ ก็ได้สร้างความตกตะลึงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ที่เขาได้ออกมากล่าวประกาศเมื่วันที่ 10 พฤษภาคม 2025 นี้ว่า จะบริจาคเงิน 99 % ของทรัพย์สินของเขาทั้งหมดกว่า 168 พันล้านดอลลาร์ ส่งผ่านไปยังมูลนิธิของเขา เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาเร่งด่วนของมนุษยชนทั่วทุกมุมโลก แต่มองๆไปแล้วดูเหมือนว่าเขามีความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามกับผู้ก่อตั้งมูลนิธิทั่วๆไป ที่ต่างต้องการให้มูลนิธิที่ก่อสร้างขึ้นมามีความยั่งยืนถาวร แต่บิลล์ เกตส์ กลับต้องการที่จะให้มูลนิธิของเขาดำรงต่อไปอีกแค่เพียง 20 ปีข้างหน้า!!!

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นการที่ “อภิมหาเศรษฐีบิลล์ เกตส์” ก่อตั้งมูลนิธิขึ้นมา และดำริแนวทางว่าจะบริจาคเงินรายได้ของเขาเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ มอบให้มูลนิธิเพื่อการกุศลแก่มวลหมู่มนุษยชาติผู้ยากไร้ทั่วโลก นับได้ว่าเขาคือหนึ่งในหลายๆร้อยล้านคนหลายๆพันล้านคน หรืออาจจะไม่มีใครสักบนโลกใบนี้ทำได้เยี่ยงเขา ซึ่งถือได้ว่าเขาคือตัวอย่างที่ดี ที่มหาเศรษฐีทั่วไปไม่สามารถจะทำได้แค่เพียงปลายเล็บนิ้วก้อยของเขา เท่ากับว่าบิลล์ เกตส์ วางตัวเป็นแบบอย่างให้แก่บรรดามหาเศรษฐีทั่วไปให้ได้นำไป คิด วิเคราะห์ แยกแยะ และนำไปปฏิบัติตามบ้างแบบไม่มากก็น้อยละครับ