ลำพูน พลังประชารัฐส่งสัญญาณเตรียมพร้อมเลือกตั้งเดินหน้าพบผู้สมัครภาคเหนือ
รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินสายภาคเหนือพบตัวแทนผู้สมัครในพื้นที่ภาคเหนือ เตรียมพร้อมเลือกตั้งในอนาคตเน้นคัดคนคุณภาพลงในทุกเขต พร้อมทำงานเพื่อประชาชนก้าวข้ามความขัดแย้งทำงานได้กับทุกฝ่ายแต่ไม่เอาคาสิโนไม่แตะ ม.112
ที่จังหวัดลำพูนวันนี้ 22 พ.ค. 68 ที่กลุ่มวิสาหกิจและเกษตรกรลำไยอบแห้ง ร้านถุงทอง ต.มะเขือแจ้ จ.ลำพูน นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาพบปะเกษตรกรลำไยอบแห้งบ้านสันป่าเหียง ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน เพื่อรับฟังปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดลำพูนโดยเฉพาะเกษตรกรผู้ประการและชาวสวนลำไย และเตรียมผลักดันสินค้าเกษตรและหาตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและสู่ต่างประเทศ
โดย นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยคณะฯ ได้พบปะประธานเครือข่าย วิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปรรูปลำไยสีทอง (ถุงทอง) บ้านสันป่าแหียง เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ตำบลมะเขือแจ้ อำเมืองลำพูนเพื่อรับฟังปัญหา นำไปสู่กระบวนการของพรรค โดยส่งเรื่องให้ ส.ส. ของพรรคนำไปเสนอในสภาเพื่อแก้ไขปัญหาลำไยแก่เกษตรกรต่อไป
ในส่วนของศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีขึ้น หรืออาจะจะเร็วกว่านั้นหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ทางพรรคจึงมีการเตรียมพร้อมในการคัดสรรผู้สมัคร เพื่อลงสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป เป็นการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมแต่เนิ่นๆ แสดงถึงความพร้อมของพรรคในการเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไปในพื้นที่ จังหวัดลำพูนวันนี้ได้เปิดตัว นายถวิล พรมเมืองยอง ลงสมัครในเขต 1
นายสุรเดช กล่าวว่า พลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคได้ตั้งเป้าหมายว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าไว้ว่า ต้องการที่นั่งของหวังไว้ สส.60 ที่นั่ง เป็นนอย่างน้อย คือรวมปาตี้ลิส ส่วนพื้นที่ภาคเหนือ ขอ สส.อย่างน้อย 10 ที่นั่ง เพราะพรรคเตรียมปักธงไว้ทุกจังหวัดอยู่แล้ว
ในส่วนของคำถามที่ว่าการลงพื้นที่ก่อนใครในภาคเหนือนั้น เพราะเหตุผลใด ได้ข่าวการยุบสภาหรือมีข้อมูลการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้านใดหรือไม่อย่างไร ความคิดเห็นส่วนตัวผมเชื่อว่าในฐานะเคยเป็น สส.มาก่อน คงไม่มีใครอยากให้ยุบสภา ก็ต้องยื้อให้นานที่สุด เราเคยเป็นรัฐบาลเคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน เรามีประสบการณ์ แต่ถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลง การเตรียมความพร้อมไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย
นายสุรเดช กล่าวอีกว่า การจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า การไปร่วมรัฐบาลอยู่ที่อุดมการณ์ต้องมาก่อน หากความคิดเห็นและนโยบายไม่ตรงกันก็ไม่เอา เช่น เรื่องของกาสิโนไม่เอา แก้ไข ม112 ก็ไม่แตะ ส่วนนโยบายดีๆของพรรคมีหลายอย่าง เช่นด้านการศึกษาให้เยาวชนได้เรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี ผู้สูงวัย 60-70-80 ปี ก็จะได้เบี้ยยังชีพ 3,000 - 4,000 - 5,000 บาทต่อเดือน สตรีที่ตั้งครรภ์ มีนโยบายช่วยเหลือตั้งแต่เดือนแรกถึงคลอด เดือนละ 3,000 บาท รวม 9 เดือน ค่าทำคลอดช่วยเหลืออีก 1 หมื่นบาท
ส่วนปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร เช่น ลำไย มะม่วง หากพรรคได้เข้าร่วมรัฐบาล ก็จะขอดูแลกระทรวงพาณิชย์ เพื่อจะได้ช่วยเกษตรหาตลาดหาแหล่งจำหน่าย แก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร ให้พี่น้องเกษตรกรได้ดี