ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ชดใช้ค่าเสียหายโครงการจำนำข้าว เป็นเงิน 10,028 ล้านบาท ถือเป็นการยุติคดีทางปกครองที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 8 ปีอย่างเป็นทางการ

คดีนี้เริ่มต้นเมื่อปี 2559 หลังจาก กระทรวงการคลัง ได้ออกคำสั่งเลขที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท

โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร ละเลยต่อหน้าที่ ปล่อยให้เกิดการทุจริตในโครงการจำนำข้าว และไม่ดำเนินการแก้ไขหรือยับยั้งความเสียหายทั้งที่ทราบปัญหา

ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยระบุว่า คำสั่งดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตและไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเธอเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรง

ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้ เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลัง โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถนำพยานหลักฐานมายืนยันได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีเจตนาหรือกระทำการละเมิดโดยตรง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้ อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด พร้อมนำเสนอพยานหลักฐานและข้อโต้แย้งเพิ่มเติม จนกระทั่งวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเป็นที่สุดว่า

น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 10,028,861,880.83 บาท

* ทรัพย์สินของ “ยิ่งลักษณ์” ที่อาจถูกนำมาชดใช้

จากข้อมูลการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ภายหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีทรัพย์สินรวม 612 ล้านบาท ลดลงจากช่วงดำรงตำแหน่งประมาณ 27 ล้านบาท

รายละเอียดทรัพย์สินที่สำคัญ ได้แก่ : เงินสดและเงินฝาก 24 ล้านบาท (16 บัญชี) 

การลงทุนและหลักทรัพย์ 115 ล้านบาท (หุ้น-กองทุนรวม 9 รายการ)

อสังหาริมทรัพย์ 14 แปลงในเชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ มูลค่ารวม 117 ล้านบาท

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 36 รายการ มูลค่า 162 ล้านบาท

รถยนต์หรู 9 คัน รวมมูลค่า 22 ล้านบาท (เช่น Benz, BMW, Porsche, Land Rover)

เครื่องประดับและนาฬิกา รวมกว่า 40 รายการ มูลค่ากว่า 42 ล้านบาท

ปัจจุบัน กรมบังคับคดีได้อายัดทรัพย์สินบางส่วนแล้ว ตามคำสั่งทางปกครองก่อนหน้านี้

* บทสรุป :

การพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในครั้งนี้ ถือเป็นการ ยุติมหากาพย์ทางกฎหมายในคดีจำนำข้าว ที่ดำเนินมานานกว่า 8 ปี และเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สังคมไทยให้ความสนใจอย่างยิ่ง ทั้งในมิติทางการเมือง กฎหมาย และการตรวจสอบความรับผิดทางละเมิดของผู้นำฝ่ายบริหาร