วันที่ 22 พ.ค.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงคดีฮั้วสมาชิกวุฒิสภา ล่าสุดมีความเข้มข้นมากขึ้นโดยมีการร้องยุบพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุในทำนองปักใจเชื่อว่าการทำคดีฮั้ว สว. เพื่อหวังผลทางการเมือง ทำให้หลายฝ่ายมองว่า ปัจจุบันการเมืองมีความขัดแย้งโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยนั้น ว่าหลายคนมองว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมือง แต่สำหรับตนเองมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดก็ว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เมื่อมีผู้ร้อง กระบวนการก็นำไปสู่การตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นศาล หรือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ดี หากยอมรับการตัดสิน ผิดบ้างถูกบ้าง เห็นเหมือน หรือเห็นต่างบ้าง มันจะมีพัฒนาการก็ต้องยอมให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย จะต้องคุยกันอย่างใกล้ชิดกันหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย พร้อมยืนยัน ขณะนี้พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีความร่วมมือเป็นอย่างดี ความใกล้ชิดก็ยังเป็นปกติ เหมือนเริ่มต้นจัดตั้งรัฐบาล เราไม่คิดว่าเป็นความแตกแยก หรือต่างสี เป็นกระบวนการคิดเห็นเหมือนต่าง ใครเห็นอย่างไรก็ทำอย่างนั้น และต้องรับผิดชอบ หากที่สุดศาลระบุว่าไม่ใช่ ก็ต้องยอมรับ

เมื่อถามอีกว่า ปัจจุบันพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล และนายภูมิธรรมเอง ก็เป็นประธานบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่น และมั่นใจในตัวข้าราชการกระทรวงยุติธรรม เพราะที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่า กระบวนการยุติธรรม เป็นผลดีต่อประชาชน จึงเชื่อว่าการทำหน้าที่ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่วนจะถูกหรือผิด ต้องยอมรับ และเห็นต่างได้ และมีกระบวนการคอยให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน และพยานหลักฐานมีแค่ไหน ศาลตัดสินอย่างไรก็ยุติกันตรงนั้น