กรณีหญิงรายหนึ่งร้องสื่อ แม่ไปอยู่สำนักสงฆ์ แล้วเปลี่ยนไป ขายทุกอย่าง ไล่คนออกจากบ้าน พ่อเลี้ยงเรียกลูกสาวไปช่วยดึงสติเมีย แต่สุดท้ายทะเลาะกัน พระพาพวกมารุมทำร้าย ท้าต่อยผู้หญิง โดยมีพยานเห็นเหตุการณ์

รายการ โหนกระแส วันที่ 21 พ.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 ได้สัมภาษณ์  กระปุก ลูกสาวที่โดนทำร้าย , ซี คนเห็นเหตุการณ์, ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล อีกฝั่ง แม่แตง แม่ที่ถูกกล่าวหา, ยายธรรม แม่บุญธรรม พระหยก ที่ถูกกล่าวหา

 

เรื่องราวเป็นยังไง?

กระปุก : สามีแม่ เป็นพ่อเลี้ยง หนูเรียกแทนว่าลุง

หนูกับแม่อยู่ด้วยกันตลอดหรือเปล่า?

กระปุก : ไม่ตลอดค่ะ

มีพี่น้องกี่คน?

กระปุก : ลูกคนเดียวค่ะ

แม่กับพ่อแยกทางกัน แล้วหนูไปอยู่กับใคร?

กระปุก : อยู่กับพ่อค่ะ ที่พิษณุโลก แม่อยู่นครสวรรค์ แต่หนูออกมาใช้ชีวิตเอง หาเลี้ยงตัวเอง ตั้งแต่อายุ 20 ได้คาะ

ได้คุยกับแม่บ้างมั้ยที่ผ่านมา?

กระปุก : แม่จะอยู่ต่างประเทศค่ะ หนูเพิ่งมาเจอแม่ตอนโต สัก 17-18 ไม่เคยใช้ชีวิตด้วยกันเลย

แม่อยู่ที่ไหน?

แม่แตง : สหรัฐฯ ค่ะ

จากนั้นยังไงต่อ?

กระปุก : สนิทกับแม่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก แม่กลับมาอยู่ที่เมืองไทย ยายล้มป่วย หนูได้เจอแม่ ได้ติดต่อกัน ได้เจอกันมากขึ้น ช่วง 21-22 ได้อยู่กับแม่สักประมาณ 1 ปี หนก็กลับไปใช้ชีวิตที่ฉะเชิงเทรา หนูอยู่กับแฟนแล้วกลับมาอยู่ที่นี่ประมาณท้ายปี 66 ความผูกพันไม่ได้เยอะเหมือนคนที่เลี้ยงตั้งแต่เด็ก หนูออกมาใช้ชีวิตข้างนอก เพราะชอบใช้ชีวิตอิสระ บางทีเรากลับบ้านดึกขายของแพ็กของดึก ไลฟ์สดบ้าง ก็ไม่อยากเข้าบ้านดึกดื่น บางทีแม่ไม่หลับไม่นอน เหมือนรอเราอยู่ที่บ้าน เราก็ตัดสินใจเช่าบ้านอยู่ข้างนอกดีกว่า

แม่มีครอบครัวใหม่ เราเรียกสามีใหม่เขาว่าลุง สนิทกันมั้ย?

กระปุก : ก็คุยกันค่ะ ไม่สบายใจอะไรก็คุยกับลุงมากกว่าแม่ แต่ไม่ได้คุยทุกวันขนาดนั้น แค่ปรึกษาค่ะ

เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นเรื่องราวแบบนี้ได้?

กระปุก : แม่ไปปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ป่ารางงาม ประมาณเดือนมี.ค. 67 แต่แม่ก็กลับบ้าน บางทีไปๆ กลับๆ กลับบ้านดึกๆ บ้าง จนมี.ค. ปีนี้ หนูไปต่างประเทศกลับมา ลุงแจ้งว่าแม่ไม่ได้กลับบ้านเลยช่วงนี้ แม่เขาบอกจะบวชอยู่วัด แม่สบายใจที่ได้อยู่ที่นี่ หนูก็โอเค แต่ถ้าหนูกลับมาเดี๋ยวจะมาช่วยที่บ้านนะ หนูเริ่มฟื้นตัวแล้ว พอมีรายได้ จะมาช่วยทำงานที่โรงงานนะแม่ พอกลับจากต่างประเทศ หนูก็มาคุยกับแม่ที่วัด ว่าจะมาทำงานโรงงานลูกชิ้นนะ ซึ่งเปิดมาสิบกว่าปีแล้ว แม่นั่งอยู่บนศาลาวัด พอคุยกับแม่เสร็จ แม่บอกว่าได้ลูก ทำได้ก็ดี ที่แม่ทำเอาไว้ มีเอาไว้ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ให้ใคร ทำเอาไว้ให้หนู ถามถึงหนี้สินแม่ ค่าน้ำค่าไฟว่าจ่ายทุกวันไหนยังไงบ้าง เราจะได้วางแผนถูกว่ารายจ่ายเดือนนี้เท่าไหร่ วันนั้นมีแม่ มีหนู มีลุง ให้มารับฟังด้วย แต่ตอนแรกแม่ไม่ได้พูดถึงหนี้สินตรงนั้น

แม่แตง : พูดนะหนู แม่บอกว่าสภาพหนี้สินแม่เยอะ คิดให้ดีนะเรื่องหนี้

กระปุก : ที่เราพูด ตอนแรกมันมีเรื่องหุ้นส่วนอะไรกัน ว่าต้องเสียเงินเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้จบไปแล้ว เรื่องหนี้สินแม่ หนูมารู้ทีหลังโดยน้าโหนก น้าสาวของแม่ บอกว่าให้ดึงแม่กลับมาเถอะ แม่เขาเครียดเป็นหนี้เป็นสินอะไร หนูก็ถามว่าแม่เป็นหนี้อะไร ตอนแรกแม่ไม่พูดกับหนูเลย น้าโหนกว่าเป็นหนี้เพื่อนเขา 7 แสน ประมาณนี้ ตอนหลังหนูถามแม่ว่าเป็นหนี้ 7 แสนจริงมั้ย ต้องจ่ายวันที่เท่าไหร่บอกหนู แต่ถ้าจะให้หนูปิดเป็นก้อนเลยไม่มีหรอก ส่งเป็นเดือนยังไงให้บอกหนู หนูจะช่วยชำระตรงนี้ แต่บางทีแม่เขาบอกเป็นหนี้เพื่อนๆ ซึ่งบางช่วงบอกว่าแม่ต้องส่งรถส่งอะไรนะ พอหนูมีนิดๆ หน่อยๆ ก็ต้องช่วยเขาส่ง เราต้องจ่ายหนี้ให้เขา หนูอยากรู้ว่าตัวบุคคลเป็นใคร เราเป็นลูกเราช่วยเขาได้อยู่แล้ว แต่หนูไม่เคยรับรู้เลยว่าเงินส่วนที่เขาเป็นหนี้ แม่เป็นหนี้ใคร แม่ไม่เคยพูดชื่อ ไม่เคยบอกว่าหนี้ตรงนี้เป็นของใคร

แม่ไม่ยอมบอกว่าใครคือเจ้าหนี้ จากนั้นยังไง?

กระปุก : เรื่องก็ประมาณนี้ค่ะ บางทีแม่ก็ต้องจ่ายบัตร ส่วนนั้นหนูก็เคยใช้เงินแม่เหมือนกัน พยายามใช้หนี้แม่อยู่ตลอด ทั้งเงินสดและโอน อย่างค่ารถ แม่บอกว่าปิดให้หน่อยได้มั้ย เหลือ 2 งวดหมดแล้ว 1.4 หมื่น หนูบอกว่าโอเค สองงวดสุดท้ายใช่มั้ย เดี๋ยวหนูปิดให้ แล้วแม่มีหนี้ตรงไหนอีก

แม่ไปอยู่กับพระหยกที่สำนักสงฆ์ เกิดอะไรขึ้น?

กระปุก : วันเกิดเรื่องลุงเขาโทรมาหาหนู บอกว่าแม่ไล่ลุงออกจากบ้าน ลุงยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ลุงไปส่งของอยู่เพชรบูรณ์ อยู่ดีๆ กลับมาจะให้ลุงเก็บของให้ออกจาก้าน และกั้นรั้วบอกว่าห้ามบุกรุกเข้ามาในพื้นที่บ้าน ถ้าเข้ามาเขาจะแจ้งตร.จับ

ลุงคือผัวแม่แตงนะ?

กระปุก : ค่ะ แต่ที่หนูฟังจากลุงพูด แม่ไม่ได้พูด แต่เป็นคนของวัดพูด

วันนั้นแม่มากับใคร?

กระปุก : มีคนของวัด มีพระ ยายธรรม แม่ พ่อของพระ แม่ของพระ  หนูเพิ่งรู้หลังเราโดนทำร้ายเสร็จแล้วว่าเขาคือครอบครัวเดียวกัน

แม่บอกให้ออกไป ถ้าไม่ออกจะแจ้งตร.จับบุกรุก ให้เก็บของไปเลย พ่อเลี้ยงงงก็เลยโทรหาเรา แล้วมีเอกสารอะไร?

กระปุก : จะให้เซ็นให้ลุงเช่าโรงงานของแม่ ลุงบอกว่าไม่เป็นไร ถ้าแม่สบายใจ จะเอาเป็นค่าเช่าก็ไม่เป็นไร จะเซ็นให้ ค่าเช่า 2 หมื่น ที่ลุงโทรหาหนู หลักๆ คือจะให้ลุงเซ็นรับสภาพหนี้ 1.5 ล้านบาท

ใครให้เซ็น?

กระปุก : แม่ค่ะ

ไปถึงเจอใครบ้าง?

กระปุก : เจอลุง พระ ยายธรรม พ่อพระ แม่พระ แล้วก็แม่ของหนู หนูก็ถามว่าทำไม ยังไง เป็นอะไรกัน แม่เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรแล้วทำไม หนูถามว่าจะให้ลุงเซ็นอะไร 1.5 ล้าน เขาบอกก็รับสภาพหนี้ หนูถามว่าคิดได้ยังไง นี่ก็ผัวตัวเอง นี่ก็ลูกนะ ทำไมคิดแบบนี้ แม่ก็พูดกับหนูว่าแม่ก็ปรึกษาพระอาจารย์ ปรึกษาแม่ธรรมมา แม่มีหนี้มีสิน แต่การพูดคือต้องมีอารมณ์นิดนึง หนูก็มีอารมณ์โมโห ปรึกษาใคร ทำไมต้องฟังคนอื่น นี่ก็ลูก นั่นก็ผัวตัวเองนะ

ปากก็ไม่ธรรมดา?

กระปุก : ใช่ค่ะ ถามแม่ปรึกษาใครมา คิดได้ยังไง เขาบอกปรึกษาพระอาจารย์ แม่ธรรมมา หนูก็บอกว่าอ๋อ ดี เชื่อคนอื่น นี่ลูกตัวเองผัวตัวเองทำไมไม่มาฟังมาคุยกันแค่นี้ ก็มีการโต้เถียงกันเกิดขึ้นระหว่างหนูกับแม่ แม่บอกว่าจะเจ็บจะป่วยเป็นไข้เป็นอะไร มีแต่วัดกับยายธรรมนี่แหละที่เขามาดูแล หนูเลยบอกว่าทำไมหนูจะไม่ดู ตอนแม่ป่วยหนูจะพาไปหาหมอ ที่นครนายก จะพาไปเอายาค่าไตค่าตับ จริงมั้ย แม่ก็ไม่ไป แม่บอกว่าแม่อยู่แต่วัด

แล้วเกิดเหตุยังไง?

กระปุก : หนูก็พูดมีอารมณ์โมโห พูดเลยว่าถ้าจะฟังแต่ฝั่งโน้น ไม่ฟังฝั่งนี้ จะอยู่แต่วัดเลยใช่มั้ย ก็ไม่ป็นไร ไปอยู่กับเขาเลย หนูก็ไม่อยู่ จะตัดแม่ตัดลูกเลยมั้ย หนูพูดกับเขาแบบนี้ เพราะเขาฟังฝั่งโน้นจริงๆ

พระทำอะไร?

กระปุก : ตอนแรกพระยืนฟัง พอเรามาเถียงกับแม่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาก็บอกว่าอย่าว่าแม่แบบนี้จะโยม เราเป็นลูกเถียงพ่อเถียงแม่ ตายไปเป็นเปรต เขาพูดเยอะค่ะ แต่ไม่ได้มารู้ บอกว่าแม่เลี้ยงมาอย่างนั้นอย่างนี้ หนูก็เลยสวนว่ารู้ได้ยังไงว่าเลี้ยงมายังไง รู้แล้วเหรอว่าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กหรือตอนโต หนูยอมรับว่าพูดไม่ดี เรามีอารมณ์โมโหกับแม่แล้ว

พูดกับพระ แล้วเรียกพระว่าอะไร?

กระปุก : ก็บอกว่าพวกมึงจะมารู้อะไร

พูดง่ายๆ ด่าพระ?

แม่แตง : ด่าเฮียอะไรแบบนี้

กระปุก : ก็ยอมรับว่าด่าค่ะ

ไม่กลัวบาปกลัวกรรม?

กระปุก : เขาด่าหนูด้วยค่ะ มันทำให้เราปรี๊ดแตก ก็เลยด่าเลยนาทีนนั้น เราโมโหด้วยค่ะ

พอเราด่า เขาทำยังไง?

กระปุก : เขาโมโหเหมือนกันค่ะ เขาก็พูดๆ หนูก็ไม่ได้ฟังแล้ว เพราะมีจังหวะทะเลาะกันแล้วแม่มาตี หนูก็เดินเข้าให้แม่ตีเลย ลุงก็เข้ามาห้าม

แม่ตีที่ไหน?

กระปุก : ที่ตัวค่ะ ตีอารมณ์โมโห ไม่น่าจะเบาค่ะ หนูคิดเลยว่าหนูอยู่กับแม่ แม่ไม่เคยตีหนูเลย แต่เพราะคนอื่นทำไมแม่ถึงมาตีหนู (ร้องไห้) หนูเดินให้แม่ตีเลย อยากให้แม่ตีหนูให้ตายตรงนั้นเลยก็ได้ (ร้องไห้) อยากให้เขาคิดได้ว่าทำไมต้องมาตีหนู หนูอยู่กับแม่ไม่ว่าทะเลาะหรือมีปัญหา ไม่เคยรุนแรงขนาดนี้ ทำไมแม่ฟังคนอื่น ทำไมไม่เลือกลูก  แม่ตีหนู ลุงก็ห้ามหนู พาหนูมาที่หลังบ้านซึ่งเป็นโรงงาน เขาก็เดินมาไล่ แต่พวกของพระก็เดินตามมา เราอารมณ์โมโห ก็ด่าเลยค่ะ พวกมึง.. เราใช้คำหยาบต่างๆ นานา ด่าเลย เราโดนแม่ตีมาก็โมโห ว่าแม่ไม่เคยตีเรา แต่มาตีเราเพราะฟังคนอื่นแบบนี้ พอหนูจะเดินออกไป แม่เดินมาไล่ พวกมึงออกไปจากบ้านกู หนูก็ด่าพระเลย ด่าพวกคนของพระเลยค่ะ มีลุงแก่ๆ คนนึงเห็นหนูด่าพระ เขาคงไม่พอใจ เขามาด้วยกัน เขาดึงแขนหนูแล้วต่อยโดนหนู 1 ที ต่อยบริเวณหน้า พอต่อยปุ๊บสัญชาตญาณเราก็ป้องกันตัว เราก็สู้ ผลักเขา เขาก็ล้มลงไป เหมือนพระไม่พอใจ มีด้ามจอมอยู่ที่ข้างตู้เย็น เขาจะหยิบมาฟาดหนูกับลุง แต่หนูเข้าไปช่วย ลุงจังหวะจะห้าม หนูเข้าเลยช่วงชุลมุน เจ้าซีอุ้มหนูออกมา ซีเป็นพนักงานอยู่ที่โรงงาน

ซีทำยังไง?

ซี : ห้ามพี่ปุกออกมา เหมือนแม่ฝั่งพระ จิกหัวพี่ปุกไป เหมือนจะไปทำร้ายต่อ ผมก็กระชากพี่ปุกออกมา ให้ไปอยู่ในห้องในออฟฟิศ

พระถือจอบออกมา ตีมั้ย?

ซี : ยังไม่ได้ตี ทำท่าจะเงื้อ แต่พ่อเลี้ยงไปห้ามไว้ก่อน

จากนั้นยังไงต่อ?

กระปุก : หนูจะเดินออกหน้าบ้าน แม่เดินตามมา หนูโวยวายว่าดีจริงๆ กูดีใจจริงๆ กูมีแม่แบบนี้ (ร้องไห้) ให้คนอื่นมาตีลูกตัวเองได้ยังไง (ร้องไห้) เหตุการณ์แรกไม่มีคลิป พอแม่ไล่หนูออกมาแล้ว แม่น่าจะกลัวหนูเอารถไปด้วย เขาบอกว่ารถกูไม่ต้องเอาไปนะ หนูบอกว่าเออ กูก็ไม่เอาไปหรอก กูไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น มีเสียงฝั่งพระพูดว่า ดี ไม่ต้องให้มันเอาไป ขายซะให้หมด เป็นผู้หญิงพูดค่ะ ความที่เราเสียสติ เราก็พูดว่า เออ ดีเนอะ พวกมึงบอกว่าไม่ได้อยากได้อะไร แต่บอกให้แม่ขายรถบ้าง ขายบ้านขายที่บ้าง ขายไปเลย ขายไปซะให้หมดๆ แล้วไปอยู่วัด หนูพูดแบบนี้ หนูก็เดินไปที่รถ เอาหมากับหลานออกมา หนูถือโทรศัพท์สองเครื่อง มีเพื่อนหนูวิดีโอคอลอยู่ตั้งแต่หนูเดินไปถึง จนหนูออกมาหน้าบ้าน หนูเดินอุ้มหมากับเด็กมานั่งอยู่ตรงฟุตปาธหน้าบ้าน สภาพเหมือนหมาตัวนึงเลย (ร้องไห้)

จากนั้นเกิดอะไรขึ้น?

กระปุก : ซีออกมาเฝ้าหนู ก็บอกว่าไม่ต้องมาดูพี่หรอก เอ็งไปดูลุงโน่น ลุงอยู่คนเดียว ไปดูเขาเถอะ ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง หนูนั่งรออยู่ตรงถนนคอนกรีต แล้วมีพระเดินมาก่อน แม่ของพระเดินเข้ามา ระยะเวลาทิ้งช่วงนาน จากทะเลาะกันในโรงงานรอบแรก ประมาณ 10-15 นาทีได้ เพราะหนูรอเพื่อนหนูมา หนูก็นั่งคุยว่าโดนต่อยทีเดียวไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ ไม่อยากทะเลาะกับใคร หนูคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะเดินมาให้ไปขอโทษมั้ย เพราะเมื่อกี้เราทำกิริยาไม่ดีจริงๆ แต่ที่ไหนได้ เขาถามว่ามึงทำคนแก่ทำไม หนูก็ตอบว่าเขาต่อยหนูก่อน เขาถามว่าต่อยที่ไหน หนูก็ชี้ให้ดูว่าตรงหน้า สักพักเขาจิกหัวหนู แล้วตบๆ หนูหลายทีมาก (ร้องไห้)

ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?

กระปุก : แม่ของพระค่ะ

แม่เราเห็นมั้ย?

กระปุก : เห็นค่ะ คำพูดหนูฟังได้แค่คำเดียว คนที่มึงทำผัวกู  

 ยังไงต่อ?

กระปุก : หลังหนูโดนตบ พระเข้ามาจิกหนึ่งที แล้วชี้หน้า ตอนนั้นหนูคิดว่าจะถ่ายติด แต่ไม่ทราบว่าโทรศัพท์ตัดไปตอนที่โดนตบ เขาชี้หน้าแล้วพูดว่า พ่อมึงมาเจอกูได้ที่วัด เขาหันไปเห็นเหมือนหนูจับโทรศัพท์อยู่ เขาเดินออกไปแล้ว บอกว่ามันถ่ายคลิป พ่อพระพูดว่าถ้าคลิปพวกกูหลุดไป 3 วัน 7 วัน มึงเตรียมตัวจองโลง จองวัดได้เลย เขาบอกให้ลบคลิป พอจังหวะเขาจะเข้ามา หนูก็ล็อกหน้าจอ กอดโทรศัพท์ไว้ เขาก็มารุมแย่งโทรศัพท์หนูเลย ยอมให้เขาตี ยอมให้เขาทำ

แจ้งความหรือยัง?

กระปุก : แจ้งแล้วค่ะ เพื่อนหนูมาช่วยพอดี

ซีเห็นเหตุการณ์มั้ย?

ซี : เห็นครับ พระจิกหัว ผมเข้าไปห้าม เขาชี้หน้าผมบอกว่าโยมไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง เดี๋ยวจะเดือดร้อน

กระปุก : เพื่อนเป็นผู้ชายมาช่วย ก็งัดคนที่รุมหนูกระเด็นหมดเลย เพื่อนตัวใหญ่ หนูยืนอยู่หลังเพื่อน พระก็ท้าตัวตัวกับหนู บอกว่าให้หนูไปตัวตัวกับเขา

พระพูดยังไงตอนนั้น?

เพื่อน : พระบอกว่าถ้าปากดีก็ปล่อยให้มันออกมาตัวตัว ผมก็บอกว่าเป็นพระพูดอะไรแบบนี้ แต่ผมพูดแรงกว่านี้ พูดเยอะครับ ผมก็พูดว่ามึงเอากับกูเปล่าล่ะ พระก็เงียบ

แม่รู้มั้ยพระจิกหัวเขา?

แม่แตง : ไม่เห็นนะคะ แล้วที่บอกว่าอยู่กับพระ จริงๆ อยู่สำนักสงฆ์ พูดว่าอยู่กับพระไม่ถูก

แม่ไปอยู่สำนักสงฆ์นี้นานแค่ไหน?

แม่แตง : 3 เดือนค่ะ

ทำไมไปอยู่ที่นั่น?

แม่แตง : ไปปฏิบัติธรรมค่ะ

รู้จักสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ไง?

แม่แตง : ลูกน้องที่อยู่ที่โรงงานเขาบอก เขาเห็นเราเครียดเรื่องหนี้สิน เราเป็นโรคซึมเศร้า แม่เป็นหนี้สินที่เอามาลงทุนทำโรงงานลูกชิ้นร่วมกับสามี จริงๆ เลิกมา 3 ปีแล้ว

เลิกกับพ่อเลี้ยงเขา 3 ปี แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน?

แม่แตง : ใช่ค่ะ แยกกันอยู่ แยกกันนอน ที่ต้องอยู่ตรงนี้เพราะเรามีหนี้สินที่กู้มาด้วยกัน เราหาเงินเอามาลงทุนทำโรงงานลูกชิ้น ที่ทำใหม่แล้วเราขาดทุนไป

ลูกบอกหนี้มีอยู่ 7 แสน?

แม่แตง : กว่า 7 แสนค่ะ จริงๆ เด็กคนนี้ไม่รู้เลยว่าเป็นหนี้เพราะอะไร

เรียกว่าเด็กคนนี้ ไม่เรียกว่าลูกเหรอ?

แม่แตง : เขายังไม่เห็นเราเป็นแม่เลย ถ้าเห็นเป็นแม่คงไม่ทำลายแบบนี้ ลงโซเชียล ลงโพสต์พวกเราแบบนี้

เขาเสียใจ?

แม่แตง : ฟังก่อนค่ะ เขาเปิดประตูเข้ามา ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย เราถามเขาก่อนว่าหนูมายังไงลูก เขาบอกพวกมึงจะอะไรกันนักหนา พวกมึงมาทำไมกัน พวกมึงมีอะไรเหรอ จริงมั้ยคะ

กระปุก : ไม่จริงค่ะ หนูถามก่อนเลยว่ายังไง มีอะไร

แม่แตง : แม่ถามว่ามีอะไรเหรอลูก ใช่มั้ย พวกมึงมากันทำไม

กระปุก : ไม่ใช่ค่ะ

แม่แตง : อ้าวหนู แม่มีศีล แม่จะโกหกทำไม เราไม่เข้าใจทำไมต้องลงพวก เราก็เลยบอกว่าถ้ามีอะไรคุยกับแม่ ด่าว่าแม่เลย จริงมั้ยคะ ไม่ต้องเอาคนอื่นมายุ่ง เขาก็พูดว่ามึงจะมาเสื-กอะไรนักหนา อีแก่

ยายธรรม : ด่าทุกคน มึงมาเสื-กอะไร เหี้-

หนูด่าป้าคนนี้มั้ย?

ยายธรรม : ด่า อีเหี้- อีแก่ มาทำไม

กระปุก : เอาตรงๆ นะคะ หนูพูดเป็นกลุ่มเลย แต่อีแก่น่าจะทีหลังนะคะ

แม่แตง : เราเลยบอกว่ามีอไรให้คุยกับแม่ พวกป้าไม่เกี่ยว

กระปุก : แล้วพวกนี้มาเสื-กอะไร ยอมรับว่าเราพูด

แม่แตง : พระเหี้- กูไม่ศรัทธา กูไม่นับถือ

กระปุก : หนูพูดว่าพวกมึงกูไม่ศรัทธา ไม่นับถือหรอก คำว่าพระเหี้-ตอนหลังที่ทะเลาะกับแม่แล้วค่ะ ไม่ใช่ไปถึงแล้วหนูจะด่าเลย

แม่แตง : จนเราระงับอารมณ์ไม่อยู่ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะซัดหน้ามึงให้ เขาบอกมาเลย มึงไม่ใช่แม่กู จริงมั้ย

กระปุก : จริงค่ะ แต่ก่อนพูดให้เดินมาซัดเลย ก็บอกว่าฟังคนอื่นมากนักใช่มั้ย

แม่แตง : อยู่ๆ ใครจะไปตบไปตีลูกทำไมคะ

กระปุก : ก็เถียงกันไงคะ

แม่แตง : อายุแม่เยอะแล้ว จะไปหลง ไปทำพวกนี้เพื่ออะไร แล้วหนี้สินทั้งหมดล่ะ

จริงมั้ยเขาบอกจะใช้หนี้ให้แม่ 7 แสน?

แม่แตง : ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าถ้าแม่อยู่วัดแล้วแม่สบายใจ แม่ก็โอนทรัพย์สินให้หนูเลย

กระปุก : หนูกล้าพูดเลยว่าคำว่าทรัพย์สินไม่เคยหวังเลย

แม่แตง : หนูไปดูดวงมา จำได้มั้ยคะ

กระปุก : โอ้โห ปกติเราเป็นคนปากคุยเล่นกับแม่อยู่แล้ว เราบอกว่าแม่หนูดูดวงมา เขาบอกหนูจะได้มรดก จะได้เดินทางไปต่างประเทศนะ เขาบอกอุ้ย เดี๋ยวแม่จะเซ็นให้หนูเลย อารมณ์เหมือนอรรถรสเวลาเราคุยเล่นกับพ่อแม่ค่ะ แต่สาบานได้เลยไม่เคยพูดกับแม่ให้โอนให้หนูเลย หนูไม่หวังจะได้มรดกของใคร ถ้าหนูหวังจริงๆ วันที่เขาให้เซ็นหนี้ 1.5 ล้าน ซึ่งเป็นเรื่องของแม่กับลุง มันไม่เกี่ยวกับหนูจริง หนูเป็นลูกคนเดียว หนูก็คงบอกให้ลุงเซ็นไปเลย แต่อันนี้หนูเป็นกลางเลยว่าหนี้ 1.5 ล้าน อยู่ด้วยกันมา 2 คนผัวเมียเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ลุงเขารับคนเดียว

แต่เขาเลิกกันมา 3 ปีแล้วนะ?

กระปุก : เรื่องนี้หนูไม่เคยรู้เลยค่ะ

ลุงเคยบอกมั้ย?

กระปุก : ไม่เคยค่ะ

พอเขาด่าแล้วยังไงต่อ?

แม่แตง : พอเขาด่าเราก็โมโห เราก็ปรี่ไปตีเขา เขาก็เลยท้ามึงมาเลย มึงไม่ใช่แม่กู มึงไม่ได้เลี้ยงกูมา กูมีแต่พ่อ พวกป้าๆ เลยบอกว่าอ้าวทำไมพูดกับแม่แบบนี้ ไม่กลัวบาปกรรมเหรอ พระอาจารย์บอกว่าทำไมพูดกับแม่แบบนี้ เขาบอกว่าไม่ต้องมาเสื-ก ไอ้เหี้- คำนี้แหละที่เขาพูด

ทนายแก้ว : แม่ก็เลยปรี่ไปตบเขา

แม่แตง : คนเดียวเลยค่ะ ทุกคนเขาห้าม ใครจะกล้ารุมเด็กคะ

กระปุก : กรณีที่แม่ตีหนู แม่ลูกตีกันเป็นเรื่องปกติ

แม่แตง : เขาก็สู้

กระปุก : หนูไม่สู้ค่ะ โทรถามลุงได้เลย หนูเดินเข้าหาเลย ให้แม่ตีหนูเลย เพราะคิดในใจว่าดูสิ จะให้ตีให้ตาย ดูสิจะหยุดตอนไหน จนลุงเข้ามาห้าม จริงมั้ยแม่ เราอยู่กันมาทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน แม่ไม่เคยตี

แม่แตง : เพราะหนูด่าคนอื่น

กระปุก : คนนึงด่าหนูว่าสัตว์นรก แล้วเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยมีใครด่าหนูแบบนี้

แม่แตง : จริงเหรอ แน่ใจนะ

กระปุก : จริงค่ะ คนของพระ เขาบอกเถียงพ่อเถียงแม่แบบนี้ได้ไง อีสัตว์นรก พูดอย่างนี้ขึ้นมา หนูก็ขึ้นเลย หนูถึงด่าเลย ว่าโห พระเหี้- ก็ยอมรับว่าหนูพูด

แม่แตง : ได้ยินมั้ยที่บอกว่าด่าพ่อด่าแม่ หนูจะตกนรก

กระปุก : ไม่ใช่ค่ะ ได้ยินคำว่าสัตว์นรกเต็มหูเลย

ยายธรรม : เขาด่ายาย

แม่แตง : หนี้สินที่เอามา คือลงทุนทำโรงงานลูกชิ้น

ลุงหนึ่ง อดีตสามีคุณอยู่ในสาย เอาตรงๆ แยกทางกับฝั่งแม่แตง 3 ปีแล้วจริงมั้ย?

ลุงหนึ่ง : ไม่จริงครับ เขาเพิ่งไปอยู่สำนักสงฆ์จริงๆ 1 ม.ค. 68 ก่อนหน้านั้นยังอยู่ด้วยกัน

อยู่กันฉันท์สามีภรรยาหรือเปล่า?

ลุงหนึ่ง : ใช่ครับ

แยกเตียงกันนอนมั้ย?

ลุงหนึ่ง : ไม่ได้แยกครับ

แม่แตง : แยกเตียงกันนอน แยกกันอยู่ค่ะ

ลุงไม่ได้แยกทางกัน อยู่ฉันท์สามีภรรยาจนถึง 1 ม.ค. ที่ผ่านมา แม่แตงไปอยู่สำนักสงฆ์แห่งนี้แล้วเปลี่ยนไปเหรอ?

ลุงหนึ่ง : ใช่ครับ ไม่ยอมกลับบ้าน

คุณสร้างหนี้ให้เขาหรือเปล่า?

ลุงหนึ่ง : เรื่องสร้างหนี้ทรัพย์สินมันต่างหากครับ ผมไม่รู้ว่าเขาหายไปเพราะอะไร

แม่แตง : หายไปเพราะเครียดเรื่องหนี้เรื่องสินทั้งหมดเลยจ๊ะ เราคุยมาตลอดว่าเป็นหนี้เยอะแล้ว รับรู้เรื่องทุกอย่า

หนี้ 1.5 ล้าน คือหนี้อะไร?

ลุงหนึ่ง : ผมยังไม่รู้เลยครับ ตอนแรก 7 แสน ต่อมา 1.5 ล้าน

แม่แตง : 7 แสนเอามาซื้อของซื้อไก่ใช่มั้ย ที่ต้องจ่ายค่าของทุกวัน เอาของไปขาย วันนี้ได้ 5 หมื่น เอาส่งให้เรา แต่เราต้องจ่าย 8 หมื่น ส่วนต่างต้องไปยืมพี่ยืมน้องทุกวัน ที่ทำให้เราเครียดแล้วต้องไปอยู่สำนักสงฆ์ ใช่มั้ย

ลุงหนึ่ง : แล้วเงินที่เก็บมา ไปไหนหมดครับ

แม่แตง : ก็จ่ายบิลค่าไก่ไง

ลุงหนึ่ง : ผมไม่เข้าใจว่าเงินผมโอนเข้าบัญชีเขาทุกบาททุกสตางค์ ทุกวัน แล้วเงินหายไปไหนหมด

แม่แตง : เราจ่ายค่าของ ค่าไก่ไง ที่ต้องจ่ายทุกเช้า

ลุงหนึ่ง : จ่ายค่าไก่ ผมรู้ว่าผมสั่งมาเท่าไหร่ ผมรู้ว่าผมทำแล้วยอดมันจะได้เท่าไหร่ แล้วส่วนต่างมันไปที่ไหน ส่วนต่างจากผลกำไรอยู่ที่ไหน

แม่แตง : ผลกำไรตรงไหน เรามีแต่ขาดทุน

ลุงหนึ่ง : การโอนเงินทุกครั้ง ผมโอนเซเว่น ผมไม่มีบัญชี ถามกระปุกได้

กระปุก : ลุงเพิ่งมีบัญชีได้ 2 เดือน ช่วงที่เริ่มกลับมาทำ ดูแลเองทุกอย่าง เลยให้ลุงเปิดบัญชี ก่อนหน้านี้ไม่มีบัญชี

เงิน 1.5 ล้านที่ให้เขาเซ็น เป็นค่าอะไร?

แม่แตง : ค่าเป็นหนี้ที่ทำมาก่อนหน้านี้

ทนายแก้ว : ใครเป็นเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ชื่ออะไรครับ

แม่แตง : มีหลักฐาน เราเอาทองไปจำนำ ทุกอย่าง ก่อนหน้านี้ เราเป็นคนหาเงินมาลงทุน

แม่แตงจะบอกว่าไปกู้เงินคนอื่นมา เอาทองไปขาย ยืมเงินคนอื่นบ้าง ฝั่งลุงหนึ่งต้องเป็นคนจ่าย 1.5 ล้าน?

แม่แตง : ต้องรับช่วยกันใช้หนี้ค่ะ

หนี้ติดอยู่เท่าไหร่ 3 ล้านเหรอ?

แม่แตง : ไม่ใช่ค่ะ ล้านขึ้นค่ะ

ร่วมกันทำค้าขายทำธุรกิจ แต่ให้ลุงหนึ่งเซ็นรับหนี้ 1.5 ล้าน แม่แตงจ่ายเท่าไหร่?

แม่แตง : ตอนแรกแม่บอกว่าถ้าแม่ขายที่ ลุงแทบไม่ต้องรับตรงนี้เลยค่ะ เงิน 1.5 ล้าน แทบไม่ต้องใช้เลยค่ะ เงินที่หามาเราเอามาลงทุน วันนี้เขายังทำอยู่ แต่เราไม่ได้ทำ

ทนายแก้ว : 1.5 ล้าน ลุงหนึ่งต้องจ่ายให้ใคร

แม่แตง : จ่ายให้หนี้สินที่เราไปยืมมา

ทนายแก้ว : พี่ไม่ต้องรับภาระเลยถูกมั้ย

แม่แตง : รับค่ะ เราบอกเขาแล้วถ้าเราขายที่ได้ เขาไม่ต้องรับภาระเลย เราจะพยายามหาเงินมาใช้หนี้ค่ะ

แม่ก็จะจ่าย แต่ขอขายที่ได้ก่อน ถ้าขายไม่ได้ ลุงหนึ่งก็ต้องเป็นคนจ่าย แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหน?

แม่แตง : เขายังทำงานโรงงานอยู่ค่ะ

แล้วเขาต้องรับสภาพหนี้เหรอ?

แม่แตง :   ต้องรับช่วยกันค่ะ เพราะตอนหาเราเอามาลงทุน

เป็นหนี้ 1 ล้านต้นๆ แต่ลุงหนึ่งต้องเซ็นรับสภาพหนี้ 1.5 ล้านคนเดียว แล้วใน 1.5 ล้าน แม่จ่ายเท่าไหร่?

แม่แตง : แม่ไม่มีรายได้

ลุงหนึ่งต้องจ่ายไปก่อน ถ้าขายที่ได้ถึงเอามาใช้คืน ถูกมั้ย?

แม่แตง : จริงค่ะ เราขายเอาเงินมาใช้หนี้

ทนายแก้ว : ใครกู้เงินกับบุคคลภายนอก

แม่แตง : แม่ค่ะ แต่เราเอาเงินมาจ่ายซื้อของ ลงทุนในกิจการ ลงของทุกอย่าง

ทนายแก้ว : 1.5 ล้านให้ลุงหนึ่งรับผิดชอบสภาพหนี้ แล้วค่าเช่า ลุงหนึ่งก็ต้องมาจ่ายให้แม่

แม่แตง : เพราะเราต้องมาเสียดอก ระหว่างขายที่ไม่ได้ ยังไม่ได้ใช้หนี้เลยค่ะ หนี้สินเราบอกว่าเป็นสิ้นปี ถึงจะรับสภาพหนี้ใช้ เพราะเขายังทำตรงนี้อยู่

ทนายแก้ว : ค่าเช่าทำไมต้องให้ลุงหนึ่งหามา

แม่แตง : เพราะเขายังทำอยู่ เราต้องเอามาจ่ายค่าดอกไงคะ

ลุงหนึ่งเซ็นมั้ย?

ลุงหนึ่ง : ผมทั้งเช่าที่ตัวเองทำโรงงานตัวเองเดือนละ 2 หมื่น แล้วต้องรับสภาพหนี้ 1.5 ล้าน

ที่แปลงนี้เป็นที่ของใคร?

ลุงหนึ่ง : ตอนแรกเป็นชื่อน้องสาวเขาครับ ปัจจุบันผมไม่รู้เขาโอนถ่ายกันหรือยัง

แม่แตง : ยังค่ะ เพราะเราเป็นคนซื้อที่แปลงนี้มา 1 ไร่ ตอนนี้เป็นชื่อเราทั้งหมดแล้ว ตอนเราซื้อจากน้องสาว เราไปเซ็นกับเจ้าของที่ที่ซื้อมา เขาให้เราไปสวมสิทธิ์ แล้วแบ่งให้น้อง

ทนายแก้ว : เสมือนขายกิจการ 1.5 ล้านให้ลุงหนึ่ง

ลุงหนึ่ง : ตอนแรกเขาบอกว่าขาย 1 ล้านพร้อมกั้นรั้ว

แม่แตง : เพราะมีหนี้สิน 1 ล้านบาท

ทนายแก้ว : แล้วมันงอกมาได้ยังไง ตกลงยังไงก็ต้องเป็นแบบนั้น

แม่แตง : มันขายไม่ได้ค่ะ เพราะสร้างโรงงานมา 3 ล้าน เราขายที่ โอนที่ให้น้อง

ทนายแก้ว :   พอตกลงกันไม่ได้ก็เลยให้เขารับสภาพหนี้ไปก่อนระหว่างนี้ใช่มั้ย

แม่แตง : ใช่ค่ะ เราเป็นหนี้จริงๆ จากการทำลูกชิ้น ทำของ

วันนั้นเกิดเรื่องอะไรกัน?

ลุงหนึ่ง : มีสองกรณีครับ วันแรกเขามาให้ผมเซ็นรับสภาพหนี้ล้านห้า ผมยังไม่เซ็น แต่ผมเซ็นเช่าอาคารเดือนละ 2 หมื่น ผมบอกว่าขอเคลียร์หนี้ที่วังม่วงให้จบก่อน ซึ่งตอนเขาออกไป เขาทิ้งหนี้ไว้ 2.7 แสน แล้วยังมีเงินหมุนเวียนในบัญชีอยู่ ผมเลยโทรให้กระปุกมาดูให้หน่อย ว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นอยางไร เพราะกระปุกเป็นสายเลือดเขาโดยตรง กระปุกมาก็บอกว่าแม่เป็นอะไรนักหนา ทำไมต้องใหลุงไปอยู่ในโรงงาน แล้วล็อกทำไม ทำไมไม่ให้ลุงอยู่ แล้วเกิดการเถียงกัน มีการลงไม้ลงมือกัน ถ้าไม่มีบุคคลที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 เข้ามา มันก็ไม่มีปัญหา

หมายถึงพวกพระ ถูกมั้ย?

ลุงหนึ่ง : ใช่ครับ เอาเขามาทำไม ยุ่งเกี่ยวอะไร

แล้วเขามาทำไม?

แม่แตง : พระอาจารย์ไปกิจนิมนต์มา แล้วช่างโทรมาหลังคามันรั่ว ที่เหลือเขาก็มาด้วยกัน จะให้มาเป็นพยาน เซ็นเรื่องหนี้สินร่วมกันนี่แหละค่ะ

ลุงหนึ่ง : ทำไมต้องให้คนอื่นเป็นพยาน

แม่แตง : เพราะเขารับรู้ทุกอย่าง

ลุงหนึ่ง : แล้วเขาเป็นญาติมั้ย

แม่แตง : ใช่

ลุงหนึ่ง : ญาติด้านไหน

แม่แตง : ที่เราอยู่กับเขา เอ็งที่อยู่คือคนอื่นไปแล้ว

จากนั้นเขาตีกันแล้วยังไง พระไปด่าเขาด้วยนะ?

แม่แตง : พระท่านพูด น้องเริ่มด่าพระก่อน พระเหี้- ไม่ต้องมายุ่ง เราถึงโมโห ทำไมถึงด่าเขา ไม่ด่าเรา

กระปุก : หนูพูดว่าพวกมึงมาเสื-กอะไร พอเขาเริ่มด่านั่นแหละค่ะ พอเริ่มมีอีสัตว์นรกนั่นแหละ ถึงด่าเลย

ยายธรรมได้ยินมั้ย?

ยายธรรม : ไม่ได้ยิน ถามว่าไปด่าแม่เขาทำไม

พระจิกหัวเขาทำไม?

ยายธรรม : ไม่ได้จิก

ซี : จิกครับ ผมเห็น

แม่แตง : ไปแย่งโทรศัพท์หรือเปล่า

ซี : ตอนช็อตแรกในโรงงาน เขาเถียงกันเสร็จแล้วมาทะเลาะกันหน้าโรงงานอีก

แม่แตง : น้องไปผลักพ่อเขา พ่อเขาร่วงลงไป

แต่พ่อพระไปต่อยเขาก่อน?

แม่แตง : พ่อเขาพิการนะคะ

แล้วไปต่อยเขาทำไม?

แม่แตง : ก็ไปด่าลูกพระเขา  เขารับไม่ได้

แล้วคุณรับได้เหรอ ขนาดพ่อพระยังรับไม่ได้ ไปต่อยลูกสาว แล้วพวกนั้นมาด่าลูกสาวคุณ?

แม่แตง : แต่ลูกเราไปเปิดประเด็นด่าเขาก่อน ทำไมไม่ด่าแม่

แล้วครอบครัวพระไปด่าเขาสัตว์นรก แม่ไม่โกรธเหรอ?

แม่แตง : เขาไม่ได้ด่าคำว่าสัตว์นรก

ตั้งแต่แม่ไปอยู่สำนักสงฆ์ เขาเปลี่ยนไปยังไง?

ลุงหนึ่ง : เปลี่ยนไปเยอะ เขาไม่เคยกลับมานอนบ้านเลย

แม่แตง : เราป่วย เป็นโรคซึมเศร้าและไมเกรน

ลุงหนึ่ง :   ทำไมไม่ไปหาหมอครับ

กระปุก : ตอนบอกหนูแม่บอกว่าเป็นไต

แม่แตง : แต่ไปฉีดยาไมเกรนตอนสองทุ่มจำได้มั้ย

กระปุก : ไมเกรนส่วนไมเกรนค่ะ

ทนายแก้ว : เป็นไมเกรนแล้วไปอยู่วัด มันหายเหรอครับ

แม่แตง : ไม่ได้กินยาค่ะ ปฏิบัติธรรม มันดีขึ้น เราไม่ต้องกินยาในระยะ 3 เดือน

ลุงหนึ่ง : งั้นใครเป็นไข้ก็ไปอยู่วัดหมดครับ

แม่แตง : อยู่ที่วัดแล้วมันหาย อาการดีขึ้น เราเริ่มป่วย ถามแม่ธรรมได้ เขาเป็นคนดูแลเรา

ยายธรรม : ปลอบใจเขา บอกว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก เขาเป็นโรคซึมเศร้า นั่งซึม ไม่พูดไม่จา ข้าวปลาไม่กิน นอน ไม่กินข้าว อ้วก เครียด

ทำไมวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า?

ยายธรรม : เพราะเขาไม่พูดไม่จา ข้าวปลาไม่กิน

แม่แตง : เราพบหมอตั้งแต่อยู่เมืองนอกแล้วค่ะ

ยายธรรม : ก็ปลอบใจเขา เราบอกว่าเป็นหนี้เขาไม่ต้องทุกข์ร้อน เดี๋ยวก็หาได้ใหม่ ขอให้เราแข็งแรงอย่างเดียว

แม่แตง : มาที่นี่ล้มละลาย มีแต่ตัว

ยายธรรม : เขามาไม่มีอะไรมา มีแต่ผ้าและรถยนต์ 1 คัน ไม่มีเงินทอง ไม่มีใครยุแหย่ให้ขายที่ขายทาง เมื่อก่อนอยู่บ้านเขาขับรถไปไหนก็ไม่รู้ โทรก็ไม่รับสาย เขาไปๆ กลับๆ แต่เขาสงสารแม่ก็มานอนอยู่

ทนายแก้ว :   ทำไมไม่แนะนำให้กลับไปดีกับสามี

ยายธรรม : ก็ให้กลับ แต่เขาบอกว่าอยู่นี่เขาสบายใจ ไม่มีอะไรคิดมากมาย ไปโรงงานเขาก็เครียด หนี้สินเขาเยอะแยะ

พระหยกอายุเท่าไหร่?

ยายธรรม : พระก็ให้น้องแตงกลับบ้าน แต่น้องแตงไม่ยอมกลับ บอกอยู่นี่สบายใจ ไม่อยากกลับบ้าน

พ่อแม่พระอยู่ที่นั่นด้วยเหรอ?

ยายธรรม : ก็ไถไร่ไถนา ไปๆ มาๆ แต่ลูกเขาบวชอยู่ที่นี่

สำนักสงฆ์มีพระกี่รูป?

ยายธรรม : รูปเดียว มาอยู่กันก็ร่วมสร้างเลย แม่นอนในศาลา

แม่แตง : กางเต็นท์ เรียงกันเลยค่ะ แล้วก็เริ่มทำศาลาปฏิบัติธรรม แม่แค่ถวายไม้ ไม่เกี่ยวกับจะขายที่ค่ะ

พระหยกจิกหัวลูกแม่ได้ยังไง?

แม่แตง : จิกตอนไหนคะ

ซี : ผมเห็นครับ ผมจับมือพระแยกออกมา ตอนหน้าโรงงาน ช็อตแรกเลยครับ

แม่แตง : ไปห้ามกันหรือเปล่า

ซี : ไม่ได้ห้ามครับ ยืนยันว่าจิกครับ

คุณซิน เหตุการณ์ที่เห็น คิดว่าเป็นยังไง?

ซิน : ตอนสุดท้ายแล้วครับ ผมวิดีโอคอลคุยกับปุกตลอด ตอนที่ผมไปถึงเห็นเขาแย่งโทรศัพท์ปุกแล้ว ผมก็ไปดึงออก ผมยังจะไปต่อยลุงหนึ่งเลย ผมไม่รู้ใครเป็นใคร ตอนนั้นหลายคน ผมก็ผลักออก เขาต้องการลบคลิปโทรศัพท์ พระเดินสวนมา บอกว่ามึงเก่ง ให้มาตัวต่อตัว ผมก็บอกว่าเป็นพระมาเสื-กเหี้-ไร มาตัวต่อตัวกับกูนี่ แล้วเขาก็รีบเดินออกไป พระตามพวกออกมาอีก 2 คน แต่พวกนั้นเผอิญรู้จักกับผม เขาไม่ได้อะไร เขาเห็นว่าเป็นผู้หญิงแล้วโทรตามทำไม

คุณรู้สึกว่าเป็นไง?

ซิน : เพื่อนโดนรุม นั่งอยู่กับพื้นบนถนน แล้วล้อมอยู่ ถ้าไม่ผิดทำไมต้องแย่งโทรศัพท์

แม่แตง : อัดคลิปวิดีโอพระอาจารย์ทำไม

ยายธรรม : ยายอยู่ตลอด ไม่ได้จิกหัว

ซี : ยายเดินทันหรือเปล่า

แม่แตง : คนเห็นกันทั้งหมด แต่คลิปนี้มีแค่นี้

เหตุการณ์ในมุมพระ คิดว่าเป็นยังไง?

ซิน : ไม่ใช่พระ พระไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้ว เป็นพระจะมาท้าเหรอครับ

ยายธรรม : พระไม่เคยพูด

กระปุก : พูดค่ะ

แม่แตง : มีแต่แม่แดงมั้ย ที่หนูบอกว่าเดี๋ยวเจอพ่อกู ใครพูด

กระปุก : หนูสาบานเลยว่าไม่ได้พูด หนูนั่งกอดโทรศัพท์อยู่ พระมาจิกหัว แล้วบอกว่าพ่อมึงมาเจอกูได้ที่วัด

ยายธรรม :   ไม่เคยเข้าไป พระอยู่ห่างๆ

ซี : เข้าครับ ผมเห็น ถ่ายวิดีโอนี่ช็อตสุดท้ายแล้ว พระเดินเข้ามา ยายเป็นคนห้ามพระ ดึงพระไว้ พระจะเดินเข้ามาปุกช็อตสุดท้าย คลิปสุดท้ายยังมีเลย

ยายธรรม : ยายก็ไปยืนขวาง

ยายห้ามไม่ให้พระมาตบ?

แม่แตง : ไม่ใช่ค่ะ

ทนายแก้ว : ยายจับแขนพระได้เหรอ ยายเป็นผู้หญิง

ยายธรรม : จับได้ เป็นแม่บุญธรรม

พระตัวใหญ่เท่าๆ ซินนะ ตัวตัวเอาอยู่มั้ย?

ซิน : อยู่ครับ

แม่แตง : เก่งจริงๆ เนอะ

กระปุก :   พระท้าก่อนด้วยนะคะ

ยายธรรม : ที่พระมาไม่ได้มาเพราะเรื่องน้องแตง พระกิจนิมนต์มา น้องแตงนิมนต์ช่างมา บอกว่าช่างมานานแล้ว

ท่านเป็นพระที่ไหนมาอยู่ที่นี่?

ยายธรรม : เดินธุดงค์มา ไม่รู้มาจากไหน แต่มีทะเบียนเรียบร้อย มีใบบวชพระทุกอย่าง

เป็นแม่บุญธรรม อยู่มานานหรือยัง?

ยายธรรม :   อยู่มากว่า 3 ปี จนเขาสร้างวัดนี่แหละ แม่เป็นคนหนองเต่า

นมัสการหลวงพี่ “พระหยก” เหตุการณ์วันนั้นหลวงพี่ไปจิกหัวน้องผู้หญิงทำไม?

พระหยก : ไม่ได้จิก เหตุการณ์ที่น้องผู้ชายเล่าเป็นความเท็จ น้องยืนอยู่เฉยๆ ไม่ได้อะไร แค่ชุลมุนที่ว่าน้องกระปุกด่าแม่ก่อน อีเหี้- อีแก่ น้องเอาจมูกจิ้มทุกคน ลมหายใจสัมผัสใบหน้าเลย พอเดินมาถึงอาตมา น้องก็ด่าเหี้-ใส่หูใส่แก้ม โยมพ่ออยู่ข้างหลัง น้องก็เอาหน้าไปชนไอ้แก่ เสื-กอะไร น้ำลายน้องกระเด็นใส่หน้าโยมพ่อ โยมพ่อเลยปัดน้องออกด้วยมือ โยมพ่อเป็นคนพิการ ไม่มีกำลังต่อสู้อะไรได้ทั้งสิ้น พอน้องหันมา ก็ตบตีสู้กับโยมพ่อไปแล้ว นอนดิ้นอยู่ เราหันหลังกลับไปว่าโห ขนาดนี้เลยเหรอ น้องกระปุกทำร้ายโยมพ่อก่อน โดยการด่าเข้าที่หน้า น้ำลายกระเด็นใส่หน้า ถ้าโยมพ่อต่อยใบหน้าน้อง ต้องมีรอยฟกช้ำเขียว น้องปัดตีโยมพ่อล้มลงไป เหตุการณ์นี้อาตมายืนอยู่แต่หันหลังให้ เพราะโยมพ่ออยู่ด้านหลัง พอโยมพ่อล้มลงไป เราเห็นน้องเหยียบกระทืบซ้ำเลย กระทืบคนพิการซ้ำเลย ดิ้นอยู่น่าสงสาร

กระปุก : น้ำตาไหล น่าสงสาร

ลุงหนึ่ง : แล้วใครชักมีดออกมาครับ

พระหยก : ขอพูดความจริง พระไม่มีย่ามอะไรเลย

เอาด้ามจอบมาจริงมั้ย?

พระหยก : น้องกระปุกกระทืบโยมพ่อก่อน เอาขาเหยียบโยมพ่อไว้ เราไปช่วยจับเหวี่ยงน้องออก พ่อเลี้ยงเขาก็ปรี่เข้ามาหาเรา เราก็ผลักออก ยืนผลักเฉยๆ ไม่มีการทำร้ายใดๆ เราไม่ได้ทำอะไรเลย ผลักลุงหนึ่งล้ม ลุงหนึ่งก็ลุกมากราบบอกว่าขอนะ เราก็ไม่มีอะไร ยืนเฉยๆ แม่แตงกับแม่บุญธรรมก็มาห้ามเรา มีคนงานพม่าชุลมุนไปหมด ด้ามจอบที่บอกคว้าตี พูดได้ยังไง ไม่มีการคว้าตีใดๆ ทั้งสิ้น เป็นลูกผู้ชายก็เอาความจริงมาพูดกัน

ลุงหนึ่ง : มีคนจับด้ามจอม

พระหนึ่ง : ไม่มีใครจับ

ซี : ที่ชุลมุนกันอยู่ ผมจะเข้าไปห้ามพี่ปุก เห็นพระอาจารย์จับด้ามจอบที่วางอยู่ เหมือนจะฟาดแต่ไม่ฟาด เหมือนลุงจะเข้าไปห้ามสักอย่าง พระเขาก็วาง

กระปุก : ถ้าหนูยืนกระทืบพ่อเขาจริงๆ ทำร้ายขนาดนั้น เหยียบอกขนาดนั้น หนูถามหน่อยว่า อยู่ตั้งกี่คน หนูไม่โดนรุมกระทืบตั้งแต่นั้นแล้วเหรอคะ หนูทะเลาะกับแม่ ตีกับแม่เป็นเรื่องปกติ แต่หนูจะพาล มึงต่อยกับกูมั้ย ไม่มีหรอกค่ะ เรื่องด่าหนูยอมรับตั้งแต่แรกแล้ว แต่ถ้าไม่มีคำไหนที่เขาด่าหนูสะเทือนแบบนั้น หนูไม่ด่าแบบแรงๆ แน่นอน

ยายธรรม : หนูบอกว่าเดี๋ยวพบกับพ่อกู

กระปุก : ไม่ค่ะ หนูบอกว่าเดี๋ยวพ่อหนูมา

อยากให้เป็นยังไง?

แม่แตง :   จบ อยากจะเอาแบบไหน

ทนายแก้ว : แจ้งความหรือยัง

กระปุก : ทำร้ายร่างกายค่ะ แค่นี้ค่ะ แจ้งสามคน พ่อพระ แม่พระ แล้วก็พระ

แม่แตง : เขาก็ไปรับทราบข้อกล่าวหา แม่ก็แจ้งเหมือนกัน

แจ้งลูกสาวตัวเอง?

แม่แตง : เขาก็ไม่ได้คิดว่าเราเป็นแม่ เรื่องที่เกิดทั้งหมด เราทำให้ทุกคนเดือดร้อน มันเกิดจากเรา

ไม่รู้สึกว่าเขาเป็นลูกบ้างเหรอ?

แม่แตง : เขาคิดว่าเราเป็นแม่มั้ยคะ เขามีมากกว่านี้ค่ะ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยด่าเรามานานแล้ว จริงมั้ย ตอนอยู่กับลุง เอ็งโพสต์ลงเฟซขอเงินเราอะไรไม่ได้สักอย่าง ตอนเรียนมหาวิทยาลัย

กระปุก : ตอนนั้นหนูยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย

แม่แตง : แต่ด่าแม่ใช่มั้ยว่าหลงผัว เงินไม่เคยให้ลูก

ทนายแก้ว :   แต่ก็ต้องแยกกัน นั่นเหตุการณ์ในอดีต

แม่แตง : เรื่องรถ ผ่อนหรือยัง

กระปุก : เหลือ 8 งวดสุดท้าย หนูก็ส่งของหนู 48 งวด จนตอนนี้เหลืออยู่ 8 งวด มีอะไรค้างมาตลอดก็จริง ยอมรับ คนเราต้องมีติดขัดบ้าง หนูก็มีหนี้สินของหนู

ทนายแก้ว : แม่แจ้งความอะไร

แม่แตง : บุกรุก ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ตร.รับแจ้ง เพราะเขาไม่ใช่คนที่นั่น เขาเปิดประตูเข้าไปเพื่อหาเรื่อง

ทนายแก้ว : ส่วนที่เราด่าว่าเขา ใครด่าว่าใคร ไม่หักกลบกัน จะด่ากันยังไง ก็เป็นความผิดดูหมิ่นซึ่งหน้า ปรับไม่เกิน 1 หมื่น จำคุก 1 เดือน ใครด่ายังไงก็แจ้งความตามนั้น ถ้าอยากแจ้งความ ส่วนที่กระปุกบอกว่าถูกทำร้ายร่างกายโดยการชกต่อย ก็ไปแจ้งความ กรณีนี้พนักงานสอบสวนต้องขยายผลว่ามีตัวการร่วมมั้ย ถ้าตร.บอกว่าตัวการร่วมก็ต้องโดนแจ้งความ ถ้ากระปุกพูดเท็จก็โดนข้อหาแจ้งความเท็จ ส่วนรับสภาพหนี้ ค่าเช่าก็ไปว่ากันในเรื่องกฎหมายหุ้นส่วน

ยังข้องใจ แม่แจ้งความข้อหาอะไร?

แม่แตง : บุกรุก ไปเพื่อสร้างปัญหานี่แหละค่ะ

กระปุก : คนเราถ้ารู้ว่าจะมีปัญหา หนูคงไม่ไปคนเดียวกับหมาและเด็กหรอกค่ะ

แม่แตง : มาถึงโวยวายใช่มั้ย

ไม่เข้าใจทำไมต้องแจ้งความลูกตัวเองข้อหาบุกรุก ทำไมพระไม่ห้ามโยมแม่ว่าไปแจ้งความลูกทำไม พระไม่มีเมตตา ไม่บอกเขาเหรอ?

พระหยก : ห้ามได้ไง ไปเกี่ยวกับเขาได้ไง เรื่องนี้ไม่เคยรับรู้ เขาทำของเขาเอง เราไม่ได้ไปยุ่งกับเขาที่บ้านนะโยมหนุ่ม เขานิมนต์ไปให้ที่บ้าน

มีคลิปที่ยืนยันบางเรื่องเหมือนกัน แต่พระก็ควรบอกแม่เขา แม่ลูกทะเลาะกัน พระจริงๆ แล้วต้องมีเมตตา คุยกับเขา ถูกมั้ย?

แม่แตง : เราไปเองค่ะ

พระหยก : คุณกระปุกก่อเรื่องเองทั้งหมด ฉันก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร เรื่องท้าอะไรกับน้อง ไม่เคยได้ท้าเลย น้องตีกับโยมผู้หญิงอีกคนนึง ฉันบอกว่าที่ถ่ายคลิปไปไม่มีอะไรนะ มีปัญหากันตัวต่อตัว ไม่ได้เกี่ยวกับฉัน

กระปุก : ไม่จริงค่ะ

พระหยก :   เหตุการณ์ที่บอกว่าชี้หน้า กูมึง น้องถูกผู้หญิงที่มีเรื่องกับน้อง บอกว่าจะเอาพ่อกูมาเล่นมึง ก็บอกว่าถ้าพ่อหนูเก่งก็ไปที่สำนักสงฆ์ พูดแค่นี้ น้องตัวใหญ่ๆ เข้ามา ไม่มีการแตะต้องตัวกระปุกสักคนเดียว มีแต่คนที่มีเรื่องกับเขา และแม่เขา ที่เห็นโทรศัพท์แล้วถ่ายคลิป เราตกใจ เรายืนอยู่ห่างๆ เราตกใจมาก ที่น้องตั้งกล้องใส่เรา เราบอกว่าเราเกี่ยวอะไร เราไม่รู้เรื่อง ยืนอยู่ห่างมาก

มีพยานบุคคลแวดล้อม เขายืนยัน?

พระหยก : อาตมาก็มีพยาน ไม่ได้รุมตีอะไรทั้งสิ้นเลย ตกใจที่โดนถ่ายคลิป

กระปุก : ดูแผลมั้ยคะ

แม่แตง : ตรงหัวแม่แตงตีไปค่ะ

กระปุก : ตรวจร่างกายแล้วค่ะ

พระหยก : ยังไม่ได้เป็นหมายหรืออะไร เชิญไปสอบปากคำเฉยๆ ว่าร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ถึงอันตราย แก่กายและจิตใจ

ทนายแก้ว : เรื่องอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องเป็นผู้ถูกกระทำเป็นคนตอบครับ

พระหยก : ร้อยเวรเชิญไปสอบปากคำสองฝั่งนะ ไม่ได้เป็นหมายอะไร

ทนายแก้ว : แล้วแต่ผู้แจ้งแจ้งข้อหาอะไรครับแต่เท่าที่ดู เป็นทำร้ายร่างกาย มีบาดแผล มีร่องรอย

ตร.แจ้งข้อหาพระ?

พระหยก : เราเข้าใจ เดี๋ยวจะเข้าไปคุย น้องไม่ได้พูดความจริงทุกเรื่อง

กระปุก : แต่พระพูดไม่จริงสักเรื่องค่ะ

พระหยก : น้องกระปุกเดินด่าตลอดเวลา

กระปุก : ก็น่าด่าค่ะ แม่ของพระบอกว่ามีรถก็ไม่ต้องให้มันใช้ ขายไปเลย  ถ้าหนูพูดไม่จริงขอให้ชีวิตหนูฉิบหาย

พระหยก : อาตมาก็เหมือนกัน เรายอมรับความจริงทุกอย่าง หนูถ่ายรูปเราตกใจแค่นั้นเอง เพราะเรายืนอยู่ ไม่ได้ทำร้ายตบตีหนูเลย

ต่างคนต่างแจ้งความ แม่ก็แจ้งความลูก?

แม่แตง : ใช่

ทนายความ : แม่มีสิทธิ์ แต่เด็กอาจต่อสู้ว่าเขาเข้าไปเพราะมีเหตุ แล้วแต่ตร.จะฟังไม่ฟัง ว่าเหตุตรงนี้เขาจะเข้าไปช่วยลุงเขา เขาไปเพราะลุงโทรมาตาม

ลุงโทรไปตามเขามาใช่มั้ย?

ลุงหนึ่ง : ใช่ครับ ไม่ได้บอกแม่เขาว่าจะโทรหาลูกเขา

แล้วที่ลุงหนึ่งพูดกับแม่บอกว่าไปเรียกกระปุกมาคุย ลุงพูดคำนี้มั้ย?

ลุงหนึ่ง : ครับ ผมส่งไปทางไลน์ ให้กระปุกมาหาผม โดยไม่ได้บอกเขาครับ

แม่แตง : ก็จบเลย เตรียมขนของออกได้เลย ขาย เขาไม่มีสิทธิ์ เราสร้างทุกอย่างมาด้วยเงินของเราทั้งนั้น เขามีเงินมาเท่าไหร่

ลุงหนึ่ง : ก่อนไปบวชบอกว่าตัดทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีคำว่าสามี ไม่มีคำว่าลูก ไม่มีคำว่าพี่น้อง

แม่แตง : โรงงานสร้างมาเท่าไหร่ เราขายนาไปกี่แปลง เงินลงทุนมากี่บาท

ลุงหนึ่ง : น้องคุณกู้ธกส.มาให้สร้างนะครับ

แม่แตง : 1 ล้าน แต่เราหาใช้หนี้โดยโอนที่ให้น้อง 1 แปลง ถูกมั้ย จะได้ขาย จบไป