เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 21 พ.ค.58 น.ส.ศันสนีย์  ศรีภิญโญ น.ส.พัชราภรณ์ ดำวิสัย ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร น.ส.นิภาวรรณ ทองสง่า พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลทะเลทรัพย์ประมาณ 10 คน ได้พานายสัญญา สวัสขิง อายุ 55 ปี อยู่หมู่ 7 ตำบลทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร เดินทางเข้าพบนายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าฯจ.ชุมพร ที่ห้องประชุมเกาะลังกาจิว ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชุมพร โดยมีนายกำปนาท  กลิ่นเสาวคนธ์  ปลัดจังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร เข้าร่วม 

ทั้งนี้เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณี การรับสมัครเลือกผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลทะเลทรัพย์ หลังจากที่ทางคระกรรมการชุดรับสมัครเลือกผู้ใหญ่บ้าน พร้อมแจ้งว่านายสัญญา ขาดคุณสมบัติเรื่องวุฒิการศึกษา โดย น.ส.ศันสนีย์ เผยว่า เดิมทีตนเองมีคุณสมบัติพร้อมจะลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน  แต่เห็นว่านายสัญญา เป็นผู้มีจิตอาสาและต้องการพัฒนาหมู่บ้านให้เจริญก้าวหน้า จึงเสียสละในการลงสมัครรับเลือกผู้ใหญ่บ้านแทน เพื่อให้นายสัญญา และคู่สมัครอีก 1 ราย ได้ลงแข่งด้วยวิธีการลงคะแนน โดยผู้สมัครคนไหนมีคะแนนมากกว่า ผู้นั้นจะได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านต่อไป

จากนั้นในวันประชุมหมู่บ้าน มีหนังสือจากทางอำเภอปะทิว เขียนระบุชัดเจนว่า วุฒิการศึกษา ป.4 สามารถสมัครได้ ถ้าเกิดก่อนปี พ.ศ.2521  นายสัญญา จึงลงสมัคร เวลาต่อมา ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการตรวจสอบว่านายสัญญาไม่ผ่านคุณสมบัติ เนื่องจากการศึกษาภาคบังคับ คือ ป.6 ทำให้น.ส.ศันสนีย์ และผู้ที่มีความประสงค์ในการเลือกผู้ใหญ่บ้านเสียสิทธิ์ในการเข้าแข่งขัน จึงเดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรเพื่อขอความเป็นธรรม

ด้าน น.ส.พัชราภรณ์ ดำวิสัย และ น.ส.นิภาวรรณ ทองสง่า เปิดเผยอีกว่า หนังสือการบันทึกการประชุมมีเจ้าหน้าที่อำเภอไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน โดยในข้อ 14 มีพื้นฐานความรู้ไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับ หรือที่กระทรวงศึกษาธิการเทียบไม่ต่ำกว่าการศึกษาภาคบังคับฯ ผู้ที่เกิดก่อนปี 2521 (ภาคบังคับ ป.4 )  ผู้ที่เกิดระหว่างปี 2521-2545 (ภาคบังคับ ป.6)  ผู้ที่เกิดปี 2545 ถึงปัจจุบัน(ภาคบังคับ ม.3 ) เปิดรับสมัครวันที่ 7-9 พ.ค.68 ตอนแรกทางอำเภอรับเอกสารสมัครและให้เอาวุฒิการศึกษามาแสดงด้วย หลังจากรับวุฒการศึกษาไปแล้วทางเจ้าหน้าที่อำเภอกลับมาบอกทางผู้สมัครในชั่วโมงสุดท้ายของวันที่ 9 พ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายเวลาประมาณ 4 โมงเย็นว่า วุฒิการศึกษาอาจจะไม่ผ่าน เอกสารนั้นเป็นเพียงกระดาษใบหนึ่งเชื่อถือไม่ได้ พูดมาว่าเป็น “กฎหมายปิดปาก” ซึ่งทางชาวบ้านก็ไม่เข้าใจว่ากฎหมายปิดปากคืออะไร

หลังจากนั้นได้ประสานไปยังปลัดอำเภอเพื่อหารือ แต่อย่างไรก็ตามถึงจะหาผู้สมัครที่มีความพร้อมอย่างไรก็ไปสมัครใหม่ไม่ทัน ซึ่งถ้าดูในเอกสารที่ทางอำเภอปะทิว นำมาแจกในวันประชุมหมู่บ้านนั้น นายสัญญาฯจบการศึกษา ป.4 มีคุณสมบัติตามข้อ 14 ผู้เกิดก่อน 2521 (ภาคบังคับ ป.4) แต่ทางอำเภอปะทิวกลับมาในวันสุดท้ายว่าต้องจบ ป.6  ชาวบ้านออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเรื่องหนังสือออกมาจากทางอำเภอกรณีนี้เกิดปัญหาขึ้น ข่าวว่าหลังจากนายสัญญาถูกตัดสิทธิ์เรื่องวุฒิการศึกษาฝ่ายคู่แข่งก็สามารถถูกแต่งตั้งขึ้นมาได้เลย 

ถึงแม้ว่าทางอำเภอแจ้งว่าจะขยายเวลา 30 วัน ชาวบ้านมองว่าไม่มีผลอะไรในเมื่อไม่เปิดโอกาสรับสมัครเลือกใหม่เพียงรอการตรวจสอบ คือตอนนี้อยากให้อำเภอปะทิวออกมาชี้แจงรับผิดชอบว่าเอกสารมีความผิดพลาดยังไง ให้ชาวบ้านได้รับความเป็นธรรมบ้าง สำหรับนายสัญญา ผู้สมัครฯ เป็นที่รักของชาวบ้าน มีจิตอาสาช่วยเหลือ ทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด ขนาดผู้ที่มีคุณสมบัติจบ ป.โท ยังเปิดโอกาสให้นายสัญญาฯก่อน เนื่องจากเป็นผู้อาวุโสกว่าด้วย  

น.ส.พัชราภรณ์ ดำวิสัย และ น.ส.นิภาวรรณ ทองสง่า เผยอีกว่า หลังจากนี้ ชาวบ้านคงจะไม่มีความเชื่อถือทางอำเภอปะทิวและคงจะไม่ให้ความร่วมมืออะไรแล้ว  เอกสารอะไรที่มาแจกให้ก็คงจะเชื่อถืออะไรไม่ได้ ชาวบ้านเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งไม่ให้มีการแต่งตั้ง” ตัวแทนชาวบ้าน เผย

ผู้ว่าฯจ.ชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมคุณสมบัติผู้สมัครของคณะกรรมการตรวจสอบฯและทางอำเภอปะทิวได้ประสานขอขยายเวลาเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครทุกคน  และให้ผู้ร้องทำหนังสือด้วยลายมือลงตรงที่ตนเองเพื่อขอความเป็นธรรมให้มีการตรวจสอบข้อมูลควบคู่กันไปหากผู้ร้องจะยื่นอุทธรณ์ต่อตนเองเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวและทำหนังสือในเรื่องเดียวกันร้องศาลปกครองตามครรลองตามกระบวนการ