เปิดใจ “นนท์ อินทนนท์” นักแสดงและ Tiktoker สายฮา ในรายการ เบิ้ล AM ยอมรับเคยคบผู้หญิงทั้งที่รู้ตัวว่าไม่ใช่ เพราะกลัวทำพ่อแม่เสียใจต้องปิดบังตัวตน และครั้งหนึ่งเคยมีความรักกับศิลปินแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เจ็บสุดในชีวิต! ที่ปรึกษาเรื่องรักกลายเป็นคนที่แย่งแฟนไปต่อหน้าต่อตา จากอดีตที่ต้องใช้ชีวิตภายใต้แรงกดดันมาตลอด จนวันนี้กล้าก้าวข้ามกำแพง เพื่อเป็นตัวเองอย่างแท้จริง
มีความรัก ?
นนท์ อินทนนท์ : ช่วงนี้มีแฟน มีความรัก มีเบบี้
เราแพ้ท้องแทนแฟนหรือว่าอะไร ?
นนท์ อินทนนท์ : แพ้จริงๆ
กี่เดือน ?
นนท์ อินทนนท์ : ตามฟีลแล้วแต่คนจะถาม ถ้าถามช่วงนี้ ออนแอร์ช่วงไหนล่ะ ตอบไม่ได้ให้คนหาคำตอบกันเอง คือเราถือเคล็ดจริงๆ ชอบดูดวงอย่างที่บอกไป แล้วก็จะมีผลต่อความรักเลยถ้าพูดว่ามีลูกกี่เดือน สามีคือใคร ถ้าเปิดหน้าจะเลิกกัน
ได้ปรึกษาหมอไหมพวกจิตเวช ?
นนท์ อินทนนท์ : เขาดูแล้วๆ เขาบอกว่ามันอยู่ที่จิต
ได้ข่าวว่าชอบ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก จริงไหม ?
เบิ้ล ปทุมราช : ชอบมากตั้งแต่เด็กแล้วครับ ชอบที่พี่เขาเป็นผู้หญิงห้าวๆ แล้วก็ตลก
ตอนนี้คิดว่าเราเป็นอะไรระหว่าง ดารา พิธีกร อินฟูลฯ หรือว่าคนที่อยุ่ในวงการเฉยๆ ?
นนท์ อินทนนท์ : เป็นคนที่ชอบทำงาน ชอบให้คนยิ้ม เป็นคนที่รู้สึกว่าอยากมอบ Positive ให้กับทุกคนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการทำงานหรือว่าลงคลิป คนที่เขาคอมเมนต์กลับมา หรือคนที่เป็นซึมเศร้า ทักเรามาหลายคนว่าเขาหายและรู้สึกดีขึ้น อย่างมีเคสหนึ่งที่เขากำลังจะปลิดชีพเขาแล้ว แล้วมีช่วงบังเอิญที่มือไปโดยหรืออะไรที่คลิป TikTok เด้งขึ้นมา เป็นคลิปที่เรากำลังแซวเพื่อนหรืออะไร แล้วเขาก็ขำคลิปนั้น แล้วเขาก็ดูคลิปของเราไปจนถึงอันสุดท้าย แล้วเขาก็รู้สึกว่าความสุขของเขาไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับใครเลย ซึ่งตอนนั้นเขาน่าจะอกหัก พอคนมีรอยยิ้ม หรือตลกในสิ่งที่เราทำ มันกลายเป็นความสุขของเรา
ถ้าเกิดคอมเมนต์ที่เราอ่านเป็นเรื่องดราม่า ?
นนท์ อินทนนท์ : มีคอมเมนต์ดราม่า ก็จะมีบอกว่าเพื่อนดาราเยอะจัง ไปเกาะหรือเปล่า คือคนจะติดภาพอินฟูลฯ อยู่ เขาก็จะรู้สึกว่าแบบพอเรามีเพื่อนดาราเยอะเหมือนเราไปเกาะดาราหรือเปล่า แต่ ณ ตอนนี้คนเข้าใจแล้ว พอเราเข้ามาอยู่ในวงการนี้ เราก็ต้องมีเพื่อนที่อยุ่ในวงการนี้ บางคนคือเรารู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว
แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งที่รู้สึกเศร้าทำยังไงเพื่อฮีลใจตัวเอง ?
นนท์ อินทนนท์ : มีช่วงหนึ่งที่เราจัดการตัวเองไม่ได้เหมือนกัน พอเรามอบความสุขให้คนอื่นเยอะ คนคาดหวังจะได้เสียงหัวเราะ ไปนั่นไปนี่คนจะคาดหวังว่าทุกอย่างจะตลกหมด กลายเป็นว่าเรากดดันกับตัวเอง จนเราต้องไปหาที่พึ่ง คือเราต้องไปหาหมอเพื่อดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ซึ่งเราเป็นคนเป็นแพนิก ซึ่งเกิดจากการที่เราเป็นคนขี้กังวล ขี้เกรงใจ คุณหมอก็เลยให้ทานยาอยุ่ช่วงหนึ่ง แต่ ณ ตอนนี้โอเคแล้ว รู้สึกว่าการออกกำลังกายช่วยได้ เพราะเราจะโฟกัสเรื่องกล้ามเนื้อนั่นนี่ แล้วก็ไปทำบุญ สวดมนต์ เราจะเป็นคนชอบให้ตัวเองฮีลตัวเอง ไม่ชอบเอาเรื่องไปให้ใคร
แสดงว่ามีปมเป็นคนซีเรียสไหม ?
นนท์ อินทนนท์ : ซีเรียส ยิ่งเรื่องงานซีเรียสมาก รวมถึงเรื่องชีวิตคู่ด้วย
จริงไหมที่เคยคบผู้หญิงเพื่อทดแทนความรู้สึก ?
นนท์ อินทนนท์ : ตอนนั้นไม่ได้คบทดแทน คบเพราะว่าเราชอบเขาจริงๆ คือตอนนั้นก็เริ่มน่าจะรู้ตัวว่าเป็น LGBTQ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับเพราะลึกๆ เรามีกำแพง เพราะไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่เสียใจ ก็เลยปิดบังตัวเองมา ใช้ชีวิตในความกดดัน ใช้ชีวิตแบบที่เราต้องเป็นแบบที่คนอื่นอยากให้เป็นมาโดยตลอด พอมองย้อนกลับไปรู้สึกว่าเราสามารถเป็นตัวเองได้ เด็กๆสมัยนี้ที่ยังปิดบัง กดดัน ต้องทำเพื่อคนอื่นมากขนาดนั้นบางทีก็อยากให้แคร์หัวใจตัวเองบ้าง เพราะเราสามารถมีความสุขได้เลยไม่ได้เดือดร้อนใคร เราไม่ได้ทำอะไรผิด พอเราได้เป็นตัวเองรู้สึกว่ามีความสุขมากขึ้น เราสามารถทำอะไรทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ มอบความสุขให้กับทุกคนได้อย่าง 100% พอเรามาทำงานตรงนี้ มาอยู่หน้ากล้อง มาเป็นแบบอย่างบางอย่างให้กับเด็กๆ หรือคนที่เขาดูเรา สามารถทำตัวของเราได้ดีขึ้นไปอีกโดยที่เป็นตัวเรา
ตอนที่คบผู้หญิงเป็นยังไง ?
นนท์ อินทนนท์ : เดี๋ยวไล่ Timeline ให้ฟัง คบผู้หญิงก่อน แล้วก็มีแฟนเป็นผู้ชาย 3 คน แล้วหลังจากแฟนผู้ชายก็มาคบกับผู้หญิงอีก 3 คน คือเราไม่ได้หาตัวเองไม่เจอนะ แต่เรารู้สึกดีกับเขา คุยเป็นเพื่อนเป็นอะไรคือฝั่งผู้หญิงเขาคิดกับเราเพราะเราเท่ห์มากครับช่วงนั้น แต่หลังจากที่บอกเลิกเขาไปผู้หญิงทุกคนเราโทรไปขอโทษ แล้วบอกเขาว่าไม่ได้ตั้งใจจะหลอก ไม่คิดจะหลอก ขออโหสิกรรม ซึ่งเขาก็บอกเราว่าก็ไม่ได้คิดว่าเราจะหลอก เพราะเขาก็รู้สึกดีกับเรา และคิดว่าเรารู้สึกดีกับเขาจริงๆ แต่หลังจากนี้ไม่ได้แล้วชายล้วน
เคยมีความรักที่เปิดเผยไม่ได้ ?
นนท์ อินทนนท์ : มี คือหลังจากคบผู้หญิงคนแรกไป มาอยู่ มศว. มีแฟนเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรายังปิดบังทุกคนอยู่มีแค่เพื่อน 2-3 ที่รุ้ว่าเราคุยกับคนนี้ คุยกันไปมาทุกอย่างแฮปปี้มาก แล้วมีช่วงหนึ่งที่เขาคนนี้กำลังจะเข้าไปเป็นนักร้องในสังกัดหนึ่ง แล้วเขาก็ต้องเก็บตัว แล้วสมัยก่อนยังไม่เปิดเรื่อง LGBTQ มาก แล้วก็มีช่วงที่เราพยายามที่จะเข้าใจ เพราะรู้ว่าสิ่งนี้คือการเจริญเติบโตของเขา ถึงแม้ว่าตอนนั้นเราจะเด็กมาก เพื่อนก็เป่าหูว่ารู้สึกว่าเขาไม่เหมือนเดิมกับเรา แต่เราก็พยายามที่จะไม่ตัดสินเขา แล้วก็มีโมเมนต์หนึ่งที่เราเดินกันที่ห้างสรรพสินค้า แล้วจะมีจุดหนึ่งที่คนเยอะมาก เขาก็หันมาบอกว่าเดี๋ยวไปเจอกันข้างหน้านะแล้วก็เดินออกไปเลย แล้วก็เลยรู้สึกไม่ดี เราก็มีความน้อยเนื้อต่ำใจเล็กๆ ด้อยค่าตัวเอง ตอนนั้นก็ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ ก็เสียใจมาก จากนั้นความรักมันก็เริ่มมีคำถาม หาคำตอบไม่ได้กลายเป็นว่าทุกอย่างไม่มีความสุข พ่นสิ่งไม่ดีใส่กัน แล้วเขาก็ไปมีคนอื่น การมีคนอื่นของเขาในวันนั้นทำให้รู้สึกว่าเราไว้ใจคนยากขึ้นมาจนถึงวันนี้ เพราะว่าเขาไปคบกับคนที่ให้คำปรึกษาเรา คือเราขอคำปรึกษาจากคนๆหนึ่ง เรื่องแฟนของเรา ดีจังเลยเขาน่ารักกับเรามาก พาไปกินข้าวดูแลเขาเหมือนคนในบ้าน พอวันหนึ่งเรารู้จากพี่ที่สนิทมากๆ แล้วมีคลิปให้เราเห็นว่าแฟนเรากับคนนี้ที่เราไว้ใจขึ้นคอนโดไปด้วยกัน
สามารถติดตาม “เบิ้ล AM” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันพฤหัสบดี เวลา 19.00 น.
คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=AotM9HBzu-Q&ab_channel=WEDO