กลุ่มคนขับรถรับจ้างในเมืองปาย จ.แม่ฮ่องสอน รุมทำร้ายคนขับรถแกรบ ต่างถิ่นที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองปาย กลางดึกส่งผลให้นักท่องเที่ยวขวัญหนีดีฝ่อ

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.68 เวลา 22.10 น. นายธีระชัย บุญมาเปียง คนขับรถแกรบหรือโบลล์ ได้เดินทางไปแจ้งความต่อ พ.ต.ต.อรรถพล บุญทวี พนักงานสอบสวน สภ.ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ว่าได้ถูกกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ในอำเภอปาย รุมทำร้ายร่างกายขณะที่นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหญิงชาวอิสราเอล จาก จ.เชียงใหม่ เข้าไปเที่ยวงานปาร์ตี้ ที่ Pai moonbeach โดยนายธีระชัย บุญมาเปียง คนขับรถแกรบ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนนำรถยนต์ ทะเบียน ขก 6271 พระนครศรีอยุธยา จอดริมถนนฝั่งตรงข้ามก่อนถึง Pai moonbeach ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ระหว่างรอรับลูกค้า ได้พบกลุ่มชายประมาณ 4 คน ยืนอยู่ริมถนน ยืนอยู่หน้า Pai moonbeach แล้วตะโกนมาว่า คุยแล้วไม่ใช่เหรอไม่ให้มารับลูกค้า จากนั้นมีชายร่างใหญ่มาเปิดประตู และจำได้ว่า มีชายรูปร่างผอมอีกคน มาชกต่อย จำนวน 3 ครั้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวหญิง จากนั้นผู้เสียหายพร้อมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้พากันหนีออกจากจุดเกิดเหตุ และในขณะที่ คนนั่งในรถคันดังกล่าว จากนั้นผู้เสียหาย ขณะขับรถหนีอยู่นั้นได้มีชายอีกคนทุบรถยนต์ของตนจนเป็นรอยเสียหาย และทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายธีระชัย ฯ นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลปาย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการเอาผิดกับผู้กระทำผิดต่อไป

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 19 พ.ค.68 เวลา 09.00 น.นายธีระชัย บุญมาเปียง พร้อมด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เมื่อมาถึงพื้นที่อำเภอปาย ได้เดินทางไปพบกับ ผกก.สภ.ปาย เพื่อรายงานงานตัว ว่าจะพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวแห่งไหนบ้าง รวมถึงไปพบ ตำรวจท่องเที่ยวด้วย จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ  10.00 น.ตนได้พบกับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ บริเวณ ถนนคนเดินหน้าศาลแขวงปาย และได้ถูกข่มขู่ไม่ให้รับนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอปายจนมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น จนต่อมาตนได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปายและตำรวจท่องเที่ยวและได้มีการให้ไกล่เกลี่ยกันแบบพบกันคนละครึ่งว่าห้ามคนขับแกรบนำนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในถนนคนเดิน

สำหรับกลุ่มคนขับรถสองแถวในอำเภอปาย ส่วนใหญ่เป็นรถกระบะติดลูกกรงเหล็ก (รถคอก) ที่ได้มีการนำมารับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไปล่องห่วงยางในเมืองปาย โดยทางสำนักงานขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เคยเรียกประชุมและหาแนวทางให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลุ่มคนขับรถดังกล่าว พากันเพิกเฉย ตามหลักรถเหล่านั้นจะไม่สามารถวิ่งรับนักท่องเที่ยวได้เลย เนื่องจากไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีประกันให้กับนักท่องเที่ยว หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ เรื่องที่เกิดขึ้น หน่วยงานในพื้นที่สมควรที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมาย ไม่ใช่ปล่อยให้เรื้อรังและก่อปัญหา คุกคามทำร้ายคนขับรถแกรบและทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตกใจต่อเหตุการณ์ที่ประสบต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหญิงสองคนดังกล่าวเป็นชาวอิสราเอล รวมถึงเป็นอดีตทหารผ่านศึกยังหวาดผวา และถึงกับบอกให้คนขับรถรีบหนีออกจากที่เกิดเหตุทันที