ในหลวง-พระราชินี ทรงรับปธน.อินโดนีเซีย ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกทรงรับนายปราโบโว  ซูบียันโต (Mr. Prabowo  Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit)

วันนี้ (๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘)  เวลา  ๐๙.๓๘  น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงรับนายปราโบโว  ซูบียันโต (Mr. Prabowo  Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) 
ประเทศไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๔๙๓ 


โดยมีความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินเยือนเกาะชวา ๓ ครั้ง ระหว่างปี ๒๔๑๔ - ๒๔๔๔ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยือนเกาะชวา เมื่อปี ๒๔๗๒ และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล
อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๘ - ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๓ เพื่อทอดพระเนตรสถานที่สำคัญและกิจกรรมต่างๆ อันเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้น

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซีย 
ระหว่างวันที่ ๒๒ มิถุนายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๒๙ เพื่อทอดพระเนตรกิจการอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการปกครอง การทหาร ตลอดจนวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม หัตถกรรม และศิลปวัฒนธรรมของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งการเสด็จพระราชดำเนินเยือนของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ช่วยกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ ในโอกาสครบ ๗๕ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๘ ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตที่มีมาอย่างยาวนาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ทั้งในระดับทวิภาคีและในบริบทของอาเซียน ได้แก่ ด้านการค้า การลงทุน  การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเกษตร และการแลกเปลี่ยนทางการศึกษา ให้งอกงามแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อสร้างเสริมประโยชน์สุขเป็นอเนกประการแก่ประเทศและประชาชนทั้งสองประเทศ