วันที่ 19 พ.ค. 2568 เวลา 13.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สภ.เมืองขอนแก่น นายชนะวุธ อุทโท หรือ อ.ลิ้ง อายุ 38 ปี เซียนพระชื่อดัง เจ้าของโรงแรม เดอะกราเซียร์ โฮเต็ล และกรรมการผู้จัดการ บริษัท คชาวุธ 4289 อมูเลท จำกัด พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ ประสมศรี ทนายความและฝ่ายกฎหมายของบริษัทคชาวุธฯ นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.สันติ เชื้อหมอดู รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่น หลังถูกเพจเฟซบุ๊กชื่อดังเพจหนึ่ง ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 1.4 ล้าน โพสต์ภาพและข้อความกล่าวหาว่าไปยุ่งเกี่ยวธุรกิจสีเทา สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับตัวเองและครอบครัว อีกทั้งยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่มีการโพสต์ในลักษณะกล่าวหาเชื่อมโยงข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับเพจดังกล่าวอีก 1 คน
โดยนายชนะวุธ ได้แจ้งความเรียกค่าเสียหายที่จะต้องชดใช้เยียวยาเป็นเงิน 10 ล้านบาท รวมไปถึงผู้ที่เข้ามาคอมเมนต์ให้เกิดความเข้าใจผิดสร้างความเสียหายให้กับ อ.ลิ้งและครอบครัวอีกรายละ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายสุรเชษฐ์ ประสมศรี ทนายความและฝ่ายกฎหมายของบริษัทคชาวุธ ฯ กล่าวว่า เพจดังกล่าวนำภาพมาโพสต์ข้อความได้สร้างความเสียหายให้กับ อ.ลิ้ง เป็นอย่างมาก ในฐานะทนายความจึงได้ทำการรวบรวมหลักฐานมอบให้กับทางตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น และให้อ.ลิ้ง เข้าแจ้งความเอาผิดเพจดังกล่าว และบุคคลอีก 1 คน ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ พร้อมตั้งทีมทนายความมาร่วมดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินกับทางเพจและตัวบุคคล รายละ 10 ล้านบาท และจะทำการเอาผิดกับคนที่คอมเม้น และ คนที่แชร์สร้างความเสียหายให้กับ อ.ลิ้งและครอบครัวอีกรายละ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตามขณะนี้ทีมทนายความทำการตรวจสอบโดยดูที่เจตนา หากใครมีเจตนาสร้างความเสียหายชัดเจนก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด
ขณะที่ นายชนะวุธ กล่าวว่า เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวและคนที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงกับตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะการที่เพจดังกล่าวมีการระบุข้อความสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้ตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้ลูกไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนเพราะมีประเด็นนี้เกิดขึ้น และที่เพจดังกล่าวโพสต์นั้นไม่ได้มีการตรวจสอบและไม่รู้ความจริง ยืนยันว่าตนเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา ส่วนเส้นทางการเงินก็สามารถตรวจสอบได้ แต่เขาไม่เคยส่งเรื่องถึงหน่วยงาน หรือส่งเรื่องถึงตำรวจให้มาตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนเองแต่ก็มาโพสต์ลอยๆโดยไม่มีหลักฐานเพื่อกล่าวหาเช่นนี้ ทำให้ตนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ลูกก็ไปโรงเรียนไม่ได้เพราะถูกคนพูดถึงพ่อในทางที่ไม่ดี เหมือนพ่อเป็นอาชญากร
พร้อมกันนี้ นายชนะวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองสู้ชีวิตมาตลอด ค้าขายมาหลายอย่าง จนกระทั่งเข้าสู่วงการพระเครื่อง ช่วงแรกๆตลาดพระเครื่องไม่บูม การบูชาพระก็ไม่ค่อยดี แต่ในช่วงปี 2567 วงการพระเครื่องบูมมาก ทำให้มีการซื้อขายเช่าบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลเป็นไปด้วยดี ทำให้ตนมีเงินมีทอง มีบ้าน ซึ่งในเรื่องนี้ตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ที่คนทำมาหากินด้วยอาชีพสุจริตจะมีบ้าน มีรถยนต์ได้ ไม่ใช่จะมองว่าคนที่มีบ้านหลังใหญ่ มีรถหลายคันต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาเท่านั้น ตนไม่เข้าใจว่าเพจดังกล่าวเอาข้อมูลมาจากไหนมาโพสต์สร้างความเสียหายให้ตนเช่นนี้
ซึ่งตนเองพร้อมที่จะให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ ในการที่จะตรวจสอบที่มาของเงินและรายได้ของตน อีกด้านตนเป็นคนที่เสียภาษีมากเป็นอันดับ 2 ของจังหวัดขอนแก่น และยังต้องผ่อนจ่ายให้สรรพากรทุกเดือน จึงขอยืนยันว่าตนทำอาชีพสุจริต เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์สุริยันต์ ที่มีแต่ทำคุณประโยชน์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา ซึ่งเมื่อมีเงินก็ต้องการซื้อทรัพย์สิน จึงซื้อกิจการโรงแรมในจังหวัดขอนแก่น 1 แห่ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะนักธุรกิจจำนวนมากเขาก็ทำกัน