สลดฟ้าผ่าชาวบ้านดับคาหนองหาน-กุมภมวาปี 2 ศพ ขณะออกไปสร้างแพยกยอบริเวณหนองหานกุมภวาปี  กู้ภัยฯพายเรือฝ่าฟ้าร้องฟ้าผ่าช่วยออกมาได้ ญาติๆ ช็อคสุดเศร้าร้องไห้ใจจะขาด ขอชีวิตคนตายกลับมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.68  กู้ภัยมูลนิธิประชาพัฒนาธรรมกุมภาวาปี รับแจ้งจากกู้ชีพกุมภวาปีว่า มีชาวบ้านถูกฟ้าได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่จำนวน 2 ราย ขณะไปสร้างแพสะดุ้งในหนองหาน-กุมภวาปี บ้านแชแล ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ขอกำลังไปช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึงผู้บาดเจ็บทั้งสอง 2 รายได้เสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อต่อมา คือ นายวิรัน อายุ 68 ปี ชาวบ้านเมืองพรึก ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี กับนายธนาวุฒิ อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ทีมกู้ภัยฯ จึงต้องพายเรือฝ่าฝนและฟ้าร้องฟ้าผ่าเข้าไปบริเวณหนองหาน-กุมภวาปี เพื่อนำร่างทั้ง 2 รายออกมาจากที่เกิดเหตุ และสามารถนำออกมาได้ก่อนนำส่งไปยังรพ.กุมภวาปี ก่อนแจ้ง พ.ต.ต.ชัยโรจน์ ธีระวรรณวัชร์ พนักงานสอบสวนเวรได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพไว้ดำเนินการต่อไป   

โดย นายภูธเนศ นาบุญ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิประชาพัฒนาธรรมกุมภาวาปี เล่าว่า ช่วงเย็นวานนี้ฝนตกหนักมาก มีทั้งฟ้าร้องฟ้าผ่า ก็ได้รับคำสั่งการจากกู้ชีพโรงพยาบาลกุมภวาปี ว่า มีคนถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต 2 รายที่บริเวณโขงต้นน้ำหนองหานกุมภวาปี บ้านหนองแวงใต้ ต.แชแล  ตนพร้อมทีมกู้ภัยฯพร้อมอุปกรณ์ จึงรีบออกไปช่วย ระหว่างทางนั้นเกิดมีฝนตกหนักน้ำท่วมขังเส้นทางกว่าจะไปถึงที่เกิดเหตุก็ใช้เวลาพอสมควร จุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่บริเวณโขงน้ำหนองหาน-กุมภาวปี บ้านหนองแวงใต้ ต.แชแล แต่พอไปถึงญาติได้นำร่างผู้เสียชีวิตกลับขึ้นมาจากฝั่งแล้ว 1 คนท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ ส่วนศพอีกคนยังอยู่ที่แพยกยอ (สะดุ้ง)กลางหนองน้ำ ทีมกู้ภัยจึงลงเรือพายออกไปรับศพผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งออกไปอีกหลายเมตร ตอนไปได้เกิดพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เมื่อไปถึงกู้ภัยจึงรีบนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นเรือแล้วรีบพายกลับมาอย่างทุลักทะเลเพราะต้องพายเรือไป พอมาถึงฝั่งเรือล่มพอี จึงรีบนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายส่งโรงพยาบาลกุมภวาปีเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่งานศพของทั้งสองคน บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยรายแรกเป็นชาวบ้านที่บ้านเมืองพรึก ต.แชแล อ.กุมภวาปี ซึ่งเป็นบ้านที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายวิรัน สงคราม อายุ 68 ปี พบว่ามีญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวมาให้กำลังใจและร่วมงานจำนวนมาก ส่วนญาติซึ่งเป็นภรรยาที่อยู่ในเหตุการณ์ยังอยู่ในอาการเศร้าสลดเสียใจไม่พร้อมให้ข่าวกับนักข่าว นอนหมดเรี่ยวหมดแรงไม่พูดไม่จาอยู่หน้าโลงศพ มีญาติสนิทนั่งอยู่ข้าง ๆ ค่อยเป็นกำลังใจอยู่ไม่ห่าง

ด้าน นายไพรี อายุ 75 ปี ญาตินายวิรันฯ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุุผู้เสียชีวิตกับภรรยาออกจากบ้านไปสร้างแพสะดุ้งเพื่อเตรียมจะยกยอหาปลาในช่วงฝนตกน้ำหลากช่วงนี้ เมื่อไปถึงผู้เสียชีวิตกับชาวบ้านอีกคนที่เสียชีวิต ได้พายเรือออกไปสร้างแพสะดุ้งที่กลางหนองหานกุมภวาปี ส่วนภรรยานั้นเขาก็นั่งรออยู่ฝั่ง จากนั้นก็เกิดฟ้าคะนองแต่ฝนยังไม่ตก จู่ๆ เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียวผ่ามาตรงกลางที่ทั้งสองคนกำลังสร้างแพเพื่อยกยอ ก็ตายทั้งสองคนคน ส่วนการไปยกยอช่วงฝนตกปกติชาวบ้านก็ไปทุกปีแต่ปีนี้ฟ้าร้องหนักมากน่ากลัว การไปสร้างแพเพื่อยกยอ (ยกสะดุ้ง) ก็เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน พอถึงเวลาฝนมาหรือก่อนหน้าฝนก็จะมีการไปสร้างแพยกยอเพื่อเตรียมหาปลา สำหรับนิสัยของผู้เสียชีวิตก็เป็นคนร่าเริงสนุกสนานลูกหลานรักมากชาวบ้านแถวนี้ก็รู้จักดี ทั้งนี้ศพของผู้เสียชีวิตนั้นคาดว่าวันพุธนี้ (21 พฤษภาคม) จะมีพิธีฌาปนกิจ

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปต่อยังบ้านคอนสาย ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายธนาวุฒิ  อายุ 46 ปี พบว่าญาติกำลังเคลื่อนศพนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดใกล้บ้านตายเมื่อวานเผาเลยวันนี้ โดยมีชาวบ้านจำวนมากต่างมาร่วมงานศพจำนวนมาก ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติๆ  สอบถามญาติทราบว่าที่รีบเผาเพราะเป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ ชาวบ้านแถวนี้เขามีความเชื่อหากตายแบบนี้ต้องรีบเผาทันที

โดย นางรินนา  อายุ 43 ปี  น้องสาว เล่าว่า คนที่เสียชีวิตเป็นพี่ชาย ก่อนที่พี่ชายจะถูกฟ้าผ่าตายเมื่อวานนี้ ได้เข้าไปบริเวณโขงหนองหานกุมภวาปี เพื่อไปช่วยคนรู้จักสร้างแพเอาไว้สำหรับยกยอ หรือยกสะดุ้ง โดยออกจากบ้านไปตั้งแต่บายโมง ซึ่งพี่ชายก็สนิทสนมกับนายวิรันฯ ผู้เสียชีวิตอีกคน พี่ชายเป็นคนที่อัธยาศัยดี ขยันทำมาหากินไม่เคยผิดหรือทะเลาะกับใคร ซึ่งล่าสุดวานนี้ก่อนเกิดเหตุก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไรว่าพี่ชายจะไม่กลับมาอีกแล้ว  พี่ชายเขาเป็นคนที่ตัวคนเดียวใช้ชีวิตหนุ่มโสดไม่มีลูกไม่มีเมีย อาศัยอยู่กับตนเองและหลานสาว หากดวงวิญาณพี่ชายรับรู้น้องสาวคนนี้อยากบอกว่า ส่วนตัวก็เสียใจพูดไม่ออก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากให้เกิดหากเลือกได้อยากได้พี่ชายคนนี้กลับคืนมาอยู่น้องและหลานเหมือนเดิม น้องสาวพูดไปร่ำไห้ไป เพราะเหตุฟ้าพิโรธฟ้าผ่าตายกลางหนองหานกุมภวาปี

ทั้งนี้ได้มีการเตือนชาวบ้านช่วงนี้ถ้าหากเกิดฝนตกฟ้าร้องอย่าออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเพราะอาจจะเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่าได้