สำหรับธุรกิจโรงแรม และท่องเที่ยวบนเกาะภูเก็ตเติบโตกันแบบก้าวกระโดด ตั้งแต่ระดับ บูติกโฮเทล โฮเทลระดับ 3 ดาว 4 ดาว 5 ดาว ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ทั้งหน้าหาดและในเขตเมืองเก่า โรงแรมที่เปิดให้บริการเป็นเวลาหลายปี เริ่มปรับปรุง เพิ่มเติม รีโนเวทปรับโฉมรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งในเรื่องนี้ นาย ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ดีวาน่า กรุ๊ป ได้สะท้อนแผนการดำเนินงานทางการตลาดได้อย่างน่าสนใจ เสริมทัพด้วยโรงแรมใหม่ โดย นาย ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีวาน่า กรุ๊ป กล่าวว่า ได้บริหาร ดีวาน่า โฮเทลแอนด์รีสอร์ท ที่มีทั้งหมด 8 โรงแรม ประกอบด้วย ดีวาน่า ป่าตอง รีสอร์ท แอนด์ สปา ดีวาน่า พลาซ่า ภูเก็ต ป่าตอง รามาด้า ภูเก็ต ดีวาน่า ดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง ดีวาน่า กระบี่ รีสอร์ท รีเซนต้า สวีท ภูเก็ต สวนหลวง รีเซนต้า ภูเก็ต สวนหลวง และรีเซนต้า เอ็กเพรส ภูเก็ตทาวน์ และในช่วงเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมาได้เปิดบริการ ดีวาน่า ป่าตอง รีสอร์ท แอนด์ สปา และดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง หลังจากรีโนเวทด้วยงบลงทุนรวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาทเสร็จเรียบร้อย ซึ่งได้กลับมาเสริมทัพให้ผลประกอบการของดีวาน่า กรุ๊ปในปีนี้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในปี 2562 ได้เตรียมปรับปรุงพื้นที่ส่วนรวมของ ดีวาน่า พลาซ่า ภูเก็ต ป่าตอง ให้ดูทันสมัยขึ้น ตั้งแต่ห้องอาหาร คิดส์คลับ ฟิตเนส เว็ดดิ้งรูม กับบอลรูมทั้งหมดประมาณ 5 ห้อง รวมไปถึงภูมิทัศน์โดยรอบ และชั้นที่จัดฟังก์ชั่นบริเวณรูฟท็อป บนพื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตรทั้ง 2 ฝั่งรวมกันประมาณ 800 ตารางเมตร จากเดิมเป็นสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ได้เตรียมปรับปรุงให้สวยขึ้น เพื่อรองกิจกรรมอื่นๆ ได้มากขึ้น คาดว่าน่าจะเปิดบริการได้ประมาณเดือนพฤษภาคม โดยใช้เวลาปรับปรุงประมาณ 3 เดือน ขณะที่ใส่วนการลงทุนเพิ่มในปีนี้ ทาง ดีวาน่า กรุ๊ป เตรียมสร้างเฟสสองรีเซนต้า ภูเก็ต สวนหลวง ด้วยงบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยปี 2562 ยื่นขออนุญาติก่อสร้างอาคาร ก่อนจะเริ่มก่อสร้างเต็มรูปแบบในช่วงเดือนเมษายน 2563 ด้วยจำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้นประมาณ 80 ห้อง จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 66 ห้อง ซึ่งจะมีการรีโนเวทในลำดับต่อไป เพื่อให้สอดรับกับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนภูเก็ต แบบโมเดิร์น เน้นโลคอลสไตล์ เนื่องจากทำเลที่ตั้งของโรงแรมนี้ อยู่ในอำเภอเมือง โดยทำตลาดแบบผสม หรือ มิกซ์ มาร์เก็ตเช่นเดิม เพื่อต้องการสร้างความสมดุลให้กับกลุ่มลูกค้าโรงแรมในเครือดีวาน่า กรุ๊ป เป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เมื่อตลาดใดตลาดหนึ่งเจอภาวะวิกฤติแบบควบคุมไม่ได้ ขยายโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่ง นาย ศึกษิต ยังกล่าวต่อว่า เป็นครั้งแรกที่ ดีวาน่า กรุ๊ป ได้รุกขยายธุรกิจโรงแรมไปทำตลาด 5 ดาว โดยในปีนี้จะเป็นการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับโครงการระดับ 5 ดาว โดยใช้งบลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องพักประมาณ 120-150 ห้อง มีห้องประชุมรองรับจำนวนคนได้ประมาณ 200-500 คน ในพื้นที่ 6 ไร่ น่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2565 และแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2567 เจาะกลุ่มลูกค้านระดับลักชูรี่ กลุ่มลูกค้าคุณภาพ เน้นสร้างรายได้มากกว่าปริมาณ รองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพตามนโยบาบรัฐบาล พร้อมปรับแผนการตลาดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวด้วยตัวเอง หรือ เอฟไอที เพิ่มมากขึ้น "โครงการระดับ 5 ดาวดังกล่าวนี้ ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มไมซ์ ลูกค้าคุณภาพ กลุ่มลักชูรี่ เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้เชนอินเตอร์เนชั่นแนลเข้ามาช่วยบริหาร เพื่อดึงงานไมซ์ที่มีคุณภาพ ดำเนินงานทางการตลาดของโรงแรมที่จะมุ่งเน้นลูกค้าคุณภาพ มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดภูเก็ตเริ่มเปลี่ยนไปสู่ตลาดคุณภาพ ซึ่งสังเกตจากการที่มีสายการบินจากทั่วทุกภูมิภาคของโลกบินเข้าสู่เมืองภูเก็ต ทั้งโลว์คอร์ส และสายการบินปกติ รวมไปถึงชาร์เตอร์ทั้งจากประเทศจีน รัสเซีย และอินเดียที่กำลังเป็นนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้เป็นอันดับต้นในปีนี้" ธุรกิจโรงแรมปีหมูไม่คึกคัก อย่างไรก็ตาม นาย ศึกษิต ยังกล่าวถึงอัตราการเข้าพักของโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตโดยรวมในปี 2561 ว่า ในระดับ 3-4 ดาว มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 77-78 % ในระดับ 5 ดาว มีอัตราการเข้าพักอยู่ 76-77 % ลดลงประมาณ 4% ของปี 2560เนื่องจากวิกฤตเรือล่ม เมื่อช่วงเดือนกรกฏาคม 2561 จนทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงไปกว่า 15% เพราะหวั่นในเรื่องความปลอดภัย และในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 89-90% ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 4-5%เพราะในปี 2561 ช่วงไตรมาสแรกมีอัตราการพักถึง 90-95% โดยเฉลี่ย แต่ในส่วนของโรงแรมในเครือดีวาน่า กรุ๊ป ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป็นมิกซ์มาร์เก็ต โดยมีตลาดจีนประมาณ 20-25% ซึ่งก็จะลดลงในส่วนของตลาดจีนเท่านั้น "ในการทำตลาดของ ดีวาน่า กรุ๊ป จะวางจำนวนกลุ่มนักท่องเที่ยวแต่ละภูมิภาค หรือประเทศไว้ไม่เกิน 15% เพื่อต้องการทำเป็นมิกซ์มาร์เก็ต โดยส่วนใหญ่จะมาจากประเทศออสเตรเลีย จีนอินเดีย ส่วนยุโรปจะมีหลายประเทศรวมๆ กันประมาณ 20% มีทั้งชาวอังกฤษ สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน สแกนดิเนเวีย เกาหลี และญี่ปุ่นที่มักนิยมใช้บริการดีวาน่า ป่าตอง รีสอร์ท แอนด์ สปาติดอันดับ 1 ใน 5 ของลูกค้าที่เข้าพักนอกจากอินเดีย จีน เป็นต้น" สำหรับภาพรวมของธุรกิจโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตปี 2562 นี้ ไม่คึกคักเท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งเวลานี้วิเคราะห์ได้เพียงไตรมาสแรก เพราะถ้าเป็นไตรมาสที่สอง และสามจะมีหลายปัจจัยที่จะเข้ามาเป็นส่วนประกอบการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว ทั้งเหตุการณ์ก่อนการเลือกตั้ง หรือหลังเลือกตั้ง ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจออกมาฟันธงว่า เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น รวมไปถึงสงครามการค้าระหว่างประเทศจีน และสหรัฐอเมริกาที่อาจจะมาเป็นตัวแปรทางด้านเศรษฐกิจ ถ้าสามารถเจรจากันได้ด้วยดี ก็จะทำให้ตลาดท่องเที่ยวในเอเชียมีกำลังซื้อสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่เวลานี้ ถ้าอ่อนตัวลงภายในเร็ววัน ก็จะส่งผลดีต่อการส่งออก และสามารถดึงนักท่องเที่ยวเดินทางกลับเข้ามาประเทศเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง