“สุชาติ” รับนายกฯ “แพทองธาร” ร่วมคณะลงพื้นที่จันทบุรี รุกช่วยเกษตรกรผลไม้ เร่งแผนผลักดันตลาดใน-นอกประเทศ ร่วมลิ้มชิมรสอาหารไทยจากร้าน Thai SELECT …ชื่นชมทำถึงรสชาติอาหารไทยแท้ เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมพิสูจน์ความอร่อยมองหาป้าย Thai SELECT พร้อมมอบป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารในจันทบุรี

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้การต้อนรับ และร่วมคณะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก ณ จังหวัดจันทบุรี  ทั้งนี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า “นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยเกษตรกรชาวสวนจันทบุรี จึงได้ลงพื้นที่เพื่อมาติดตามสถานการณ์พร้อมเตรียมมาตรการช่วยเหลือผลผลิตของชาวสวนผลไม้อย่างเต็มที่ ทั้งการจำหน่ายในประเทศ และการส่งออกไปต่างประเทศ เพื่อให้ชาวสวนผลไม้จ.จันทบุรี ได้ขายผลไม้ในราคาที่ดี มีรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยกิจกรรมที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้เร่งขับเคลื่อน ซึ่งเป็นความร่วมมือกับภาคเอกชนในการระบายผลผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลผลิตล้นตลาด เพื่อพยุงราคาผลไม้และเสริมสร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกร โดยมีภาคเอกชน 27 ราย จาก 9 กลุ่มธุรกิจ เข้าร่วมรับซื้อผลไม้จากเกษตรกรรวมกว่า 103,760 ตัน อาทิ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด, ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด, ห้างค้าปลีกอย่างเซ็นทรัล บิ๊กซี โลตัส และยังมีองค์กรสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น ไปรษณีย์ไทย ตู้เต่าบิน และกรมราชทัณฑ์ ซึ่งร่วมจัดซื้อผลไม้ไปใช้ในกิจกรรม CSR และสนับสนุนภายในหน่วยงาน

“นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ”ในด้านนวัตกรรมการตลาด กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด (เต่าบิน) ลงนาม MOU รับซื้อผลไม้จากเกษตรกรจำนวน 1,000 ตัน เพื่อแปรรูปเป็นเครื่องดื่มผลไม้ปั่นสด พร้อมจำหน่ายผ่าน “ตู้เต่าปั่น” เริ่มในกรุงเทพฯ เดือนมิถุนายนนี้ และขยายทั่วประเทศ 7,500 ตู้ภายในเดือนกรกฎาคม ถือเป็นช่องทางใหม่ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง

อีกหนึ่งความร่วมมือสำคัญ คือการร่วมกับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด รับซื้อผลไม้จากเกษตรกร 1,000 ตัน เช่น ลำไย มังคุด และสับปะรดภูแล เพื่อนำไปแปรรูปจำหน่ายบนเที่ยวบิน ใน Snack Box และร้านค้าในสนามบิน เริ่มดำเนินการตั้งแต่สิงหาคม 2568 ถึงสิงหาคม 2569 เพิ่มมูลค่าและสร้างตลาดใหม่ให้ผลไม้ไทยในกลุ่มผู้เดินทาง

นอกจากนี้ในด้านการส่งออก รัฐบาลตั้งเป้าดันผลไม้ไทยสู่ตลาดต่างประเทศ 4.13 ล้านตัน มูลค่ากว่า 308,000 ล้านบาท โดยเน้นตลาดศักยภาพ เช่น จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ CLMV และตะวันออกกลาง ผ่านมาตรการตรวจรับรอง GAP การตั้งศูนย์ “Set Zero” และ War Room เพื่อผลักดันการส่งออกเร่งด่วน รวมถึงกิจกรรมเจรจาการค้าในต่างประเทศ

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า “ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอของเกษตรกรและผู้ประกอบการโดยตรง และสั่งการให้เร่งแก้ปัญหาเชิงระบบ เช่น การจัดตั้ง One Stop Service ด้านเอกสารส่งออก ลดขั้นตอนที่ล่าช้า การควบคุมคุณภาพผลผลิต และการบังคับใช้กฎหมายควบคุมการจำหน่ายทุเรียนอ่อน รวมถึงการส่งเสริมการบริโภคในประเทศและการใช้ Soft Power เช่น อินฟลูเอนเซอร์ระดับโลก เพื่อโปรโมทผลไม้ไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในแผนการสื่อสารการตลาดของกระทรวงพาณิชย์”

“กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการเร่งด่วนทั้งในเรื่องคุณภาพผลผลิต ราคาที่เป็นธรรม และการผลักดันการส่งออกอย่างเต็มที่ ตามแผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 มีเป้าหมายรวม 950,000 ตัน ครอบคลุมการตลาดภายในประเทศ การส่งออก การแปรรูป และการยกระดับคุณภาพผลไม้ไทยอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม มั่นคง และยั่งยืนตลอดฤดูกาล” นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย

และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร 3 แห่ง และเยี่ยมชมบูธร้านอาหารทั้ง 3 ร้าน ที่ได้นำเมนูที่เป็นไฮไลท์ของแต่ละร้าน รวมทั้งเมนูเด่นที่ใช้วัตถุดิบเป็นผลไม้ ในพื้นที่มาจัดแสดงและให้ชิมรสชาติอาหารไทยของแต่ละร้านด้วย เช่น * ร้านครัวมณีจันท์ โชว์เมนู ยำสละสุมาลี มัสมั่นทุเรียน ทุเรียนเชื่อม * ร้านจันทรโภชนา โชว์เมนู ส้มตำทุเรียน ยำมังคุด แกงเผ็ดเป็ดย่างเงาะ ผัดกระวานปลากะพง และ * ร้านรัตนะบุรี จันทบุรี เมืองแห่งความอร่อย โชว์เมนู แกงหมูชะมวง ข้าวเหนียวทุเรียน โดยระหว่างพบปะผู้ประกอบการ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรณรงค์ทานผลไม้ไทยในฤดูกาล และขอความร่วมมือร้านอาหาร Thai SELECT ทั้งในประเทศและต่างประเทศนำผลไม้ไทยและผลไม้ตามฤดูกาลไปประกอบเป็นเมนูพิเศษหรือเมนูหลักของทางร้าน พร้อมทั้งขอให้เป็นแหล่งจำหน่ายผลไม้แปรรูปเพื่อเป็นช่องทางให้ผลไม้ไทยสร้างมูลค่าการค้าและส่งออกไปต่างประเทศได้ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโครงการเที่ยวฟินกิน Thai SELECT ต่อเนื่อง โดยเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองเพื่อกระตุ้นทั้งภาคการท่องเที่ยวและผลักดันให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT

หลังจากนั้น ได้รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านครัวมณีจันท์ ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท อ.เมือง โดยเมนูอาหารของนายกรัฐมนตรี อาทิ ยำมังคุด มัสมั่นไก่ทุเรียน ปลาเก๋าต้มกะวานระกำ เส้นจันท์ผัดปู และของหวานทุเรียนเชื่อม พร้อมชวนชิมอาหารทะเลสดๆ ซึ่งเป็นอาหารจานเด่นและอาหารพื้นเมืองรสเด็ดที่ใช้วัตถุดิบจากผลไม้ในพื้นที่ ที่มี ‘ความอร่อย’ และ ‘ทำถึงรสชาติอาหารไทยแท้’ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญของร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT พร้อมทั้งเชิญชวนนักชิมและนักท่องเที่ยวร่วมพิสูจน์ความอร่อยอาหารไทยแท้ โดยมองหาป้าย Thai SELECT ที่มีอยู่ 496 ร้าน ทั่วประเทศ พบป้าย Thai SELECT ที่ไหน แวะรับประทานอาหารที่นั่น รับรองอาหารอร่อยถูกปากถูกใจแน่นอน ทั้งนี้ สามารถค้นหาร้านอาหาร Thai SELECT หรือ Thai SELECT Guide 2024 ได้ทาง Line Official Account: @thaiselect หรือ เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th >> DBD e-Magazine >> Thai SELECT Guide


ทั้งนี้ การนำผลไม้ไทยและผลไม้ตามฤดูกาลไปประกอบเป็นเมนูพิเศษหรือเมนูหลัก นอกจากจะได้เพิ่มผลไม้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร เป็นการเพิ่มความหลากหลายในเมนูอาหารแก่ผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือ/สนับสนุนเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในจังหวัดให้สามารถขยายช่องทางการตลาดและช่วยกระจายผลไม้ในแต่ละช่วงฤดูกาลด้วย โดยมีสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นผู้ประสานงานในการกระจายและจำหน่ายผลไม้ของจังหวัด ซึ่งในจังหวัดจันทบุรีมีร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 5 ร้าน ได้แก่ * ร้านครัวมณีจันท์ อ.เมือง  * ร้านจันทรโภชนา สาขามหาราช อ.เมือง * ร้านฉุย จันทบุรี อ.เมือง * ร้านอาหารซีทรู (โรงแรมเจ้าหลาวทอแสงบีช) อ.ท่าใหม่ และ *ร้านรัตนะบุรี น้ำตกพลิ้ว จันทบุรี อ.แหลมสิงห์ ซึ่งทั้ง 5 ร้านล้วนมีรสชาติอาหารที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว มีมาตรฐานตามคุณภาพอาหารไทยแท้ และได้รับการโหวตให้เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในจังหวัดจันทบุรี  

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai SELECT ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ ‘อาหารไทย’ เป็นซอฟท์พาวเวอร์อันดับ 1 ของประเทศ โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งกระตุ้นการบริโภคอาหารไทยผ่านร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT พร้อมส่งเสริมให้เป็นธุรกิจเรือธงที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ ก่อให้เกิดการปฏิรูปมาตรฐานอาหารไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอาหารระดับภูมิภาคและต่อเนื่องสู่ระดับโลก รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยที่ทรงคุณค่า ซึ่งคนไทยมีศักยภาพสูง และเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักและนิยมแก่ผู้บริโภคชาวไทย/ชาวต่างชาติ รวมถึงเป็นแหล่งสร้างรายได้และแหล่งจ้างงานที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากอาหารไทยสะท้อนถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้ดีที่สุด แสดงถึงความละเมียดละไมและความใส่ใจในการประกอบอาหารของคนไทยที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นับเป็นความภาคภูมิใจและมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทยถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2568) มีร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 496 ร้าน แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 82 ร้าน ภาคเหนือ 96 ร้าน ภาคกลาง 107 ร้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 87 ร้าน ภาคใต้ 87 ร้าน และ ภาคตะวันออก 37 ร้าน

ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยและผู้สนใจกิจกรรมส่งเสริมร้านอาหารไทยผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ติดตามความคืบหน้าการดำเนินกิจกรรมหรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจบริการ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 5954 e-Mail: [email protected], www.dbd.go.th และ Call Center 1570