ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล ทั่วประเทศ 2,463 แห่ง ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้อดีตนายกเทศมนตรี หลายพื้นที่สามารถรักษาเก้าอี้ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ก็มีอดีตนายกอีกจำนวนมากที่ต้องสอบตก
ที่น่าผิดหวังมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น พรรคประชาชน ที่กระโดดลงไปเล่นในสนามการเลือกตั้งเทศบาลในครั้งนี้อย่างเต็มตัว โดยได้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยทีมงานได้ลงไปช่วยผู้สมัครตัวแทนของพรรคหาเสียงในหลายพื้นที่ แต่ผลการเลือกตั้งกลับไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วยนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งเทศบาลอย่างไม่เป็นทางการ โดยยอมรับผลการเลือกตั้ง ว่า ได้มาเพียง 5 เทศบาลเมือง กับอีก 9 เทศบาลตำบล
โดยที่จังหวัดนครราชสีมา มีการเลือกตั้งทั้งสิ้น 90 เทศบาล ปรากฏว่ามีอดีตนายกสอบตกไป 42 แห่ง ภาพรวมมีผู้มาใช้สิทธิเฉลี่ย 65% จากจำนวน 90 แห่ง มีจำนวน 8 แห่ง ไม่มีการเลือกตั้งนายก เป็นนายกใหม่ 42 แห่ง และนายกเก่า 40 แห่ง รวมทั้งเทศบาล 14 แห่ง ประกอบด้วยเทศบาลเมือง (ทม.) สีคิ้ว อ.สีคิ้ว เทศบาลตำบล (ทต.) บึงสำโรง อ.แก้งสนามนาง ทต.ขามทะเลสอ อ.ขามทะเลสอ, ทต.อรพิมพ์ อ.ครบุรี ทต.วังหิน อ.โนนแดง ทต.บัลลังก์ อ.โนนไทย ทต.ประทาย อ.ประทาย ,ทต.สระพระ อ.พระทองคำ ,ทต.เสิงสาง อ.เสิงสาง, ทต.ศาลเจ้าพ่อ อ.วังน้ำเขียว ทต.หัวทะเล อ.เมือง ต.มะค่า อ.โนนสูง และ ทต.ขุย ทต.หนองบัววง อ.ลำทะเมนชัย มีผู้สมัครนายกคนเดียวทั้งหมดผ่านเงื่อนไขได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งและมีคะแนนมากกว่าคะแนนโหวตโน ผลรวมคะแนนเลือกตั้งนายก
นายสุรพงษ์ ผอ.กกต.จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ไทม์ไลน์ก่อนถึงเวลาปิดหีบบัตรมีการแจ้งเบาะแสซื้อเสียงเข้ามาเรื่อยๆ ขณะนี้มีการร้อง 9 เรื่อง ฝ่าฝืนกฎหมาย มาตรา 65 ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครผู้อื่น ฯ โดยจัดทำ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้หรือจัดเตรียม เพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมเกี่ยวกับการซื้อเสียง ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่แสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อมาประกอบสำนวนตามกระบวนการร้องกล่าวหา
ทั้งนี้ผู้สมัครของพรรคประชาชนไม่มีผู้สมัครนายกเทศมนตรีชนะการเลือกตั้ง มีเพียง สท.สามารถเข้ามาสภาได้ดังนี้ อ.เมือง ทต.เมืองใหม่โคกกรวด 5 คน ทต.บ้านใหม่ 3 คน ทต.ไชยมงคล 1 คน ทต.จอหอ 3 คน ทต.ตลาด 5 คน และ ทม.ปากช่อง อ.ปากช่อง 5 คน
ที่จังหวัดบุรีรัมย์มีการเลือกตั้ง 61 แห่ง เป็นการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) จำนวน 55 แห่ง และเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) จำนวน 61 แห่ง ใน 23 อำเภอ ของ จ.บุรีรัมย์ อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า บุคคลมีชื่อเสียง เป็นเครือญาตินักการเมือง ต่างพาเหรดคว้าเก้าอี้นายกเทศมนตรี ตามคาดหมาย
เริ่มที่ เทศบาลเมืองประโคนชัย อ.ประโคนชัย นายเพิ่มพูน ทองศรี อดีต สส.บุรีรัมย์ และอดีต สว.บุรีรัมย์ พี่ชาย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่หวนคืนสนามการเมืองอีกครั้ง ด้วยการลงสมัครนายกเทศมนตรีเมืองประโคนชัย ได้คะแนน 4,709 คะแนน ชนะ นายวรณัฐ ศรีสุริยชัย อดีตนายกเทศมนตรีตำบลประโคนชัย สมัยที่ผ่านมา ได้คะแนน 1,964 คะแนน และ นายจำรัส เวียงสงค์ อดีต สส.บุรีรัมย์ ได้คะแนน 1,545 คะแนน ส่งผลให้ นายเพิ่มพูน ทองศรี คว้านายกเทศมนตรีเมืองประโคนชัย คนแรก หลังยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองประโคนชัย
เทศบาลเมืองชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ร.ต.ต.สมชาย ภิรมย์ชาติ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองชุมเห็ด สมัยที่ผ่านมา หัวหน้าทีม “กลุ่มภูมิใจพลังชุมเห็ด” ได้คะแนน 5,884 คะแนน ชนะ นายพยุงรัฐ ชาเรืองเดช อดีตรองประธานสภา อบจ.บุรีรัมย์ หัวหน้าทีม “กลุ่มชุมเห็ดบ้านเรา” ได้คะแนน 3,897 คะแนน ซึ่งคะแนน ห่างกัน 1,987 คะแนน ทำให้ ร.ต.ต.สมชาย ภิรมย์ชาติ ได้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองชุมเห็ดต่ออีกสมัย พร้อมสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) “กลุ่มภูมิใจพลังชุมเห็ด” ชนะยกทีมทั้ง 3 เขต
ขณะที่ เทศบาลเมืองลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี เพียงคนเดียว คือ นางอารีญาภรณ์ ซารัมย์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลลำปลายมาศ สมัยที่ผ่านมา เป็นภรรยา นายโสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าทีม “กลุ่มรักศรัทธา” ได้คะแนน 5,919 คะแนน ซึ่งได้คะแนนมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาล ได้นั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองลำปลายมาศ ต่ออีกสมัย ส่วนสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) “กลุ่มรักศรัทธา” ชนะยกทีมทั้ง 3 เขต
และที่ เทศบาลตำบลโกรกแก้ว อ.โนนสุวรรณ นายเฉลิม วาวิลัย อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโกรกแก้ว สมัยที่ผ่านมา ได้คะแนน 1,535 คะแนน ชนะ นายบุญล้อม วงษ์สุวรรณ ผู้สมัครในนาม พรรคประชาชน ได้คะแนน 817 คะแนน
ขณะเดียวกัน เทศบาลที่มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี เพียง 1 คน จำนวน 16 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลเมืองบ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ , เทศบาลเมืองลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ , เทศบาลตำบลโคกม้า อ.ประโคนชัย , เทศบาลตำบลกระสัง อ.กระสัง , เทศบาลตำบลหนองเต็ง อ.กระสัง , เทศบาลตำบลอุดมธรรม อ.กระสัง , เทศบาลตำบลดอนอะราง อ.หนองกี่ , เทศบาลตำบลโคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย , เทศบาลตำบลตลาดนิคมปราสาท อ.บ้านกรวด , เทศบาลตำบลบ้านกรวด อ.บ้านกรวด , เทศบาลตำบลบึงเจริญ อ.บ้านกรวด , เทศบาลตำบลหนองหงส์อ.หนองหงส์ , เทศบาลตำบลห้วยหิน อ.หนองหงส์ , เทศบาลตำบลตาจง อ.ละหานทราย , เทศบาลตำบลละหานทราย อ.ละหานทราย และ เทศบาลตำบลห้วยราช อ.ห้วยราช ผู้สมัครนายกเทศมนตรี ก็ล้วนได้คะแนนมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แทบทั้งสิ้น
ส่วนผลเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) ทั้ง 61 เทศบาล ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับเลือกตั้ง จะอยู่ในกลุ่มทีมงานของผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี เกือบทั้งหมด ขณะที่มีบางเทศบาลที่ผู้ได้รับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี แต่สมาชิกสภาเทศบาล ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเพียงไม่กี่คน และมีบางเทศบาลที่ สท.ได้รับเลือกตั้งเข้ามาไม่ถึงครึ่ง
ที่จังหวัดสมุทรสาครนายกเก่ากลับเข้ามาพรึบ พรรคประชาชนเบียดเข้าป้ายมาได้พร้อมอุ้ม สท.เข้ามาแบบยกทีม โดยผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีอย่างไม่เป็นทางการของจังหวัดสมุทรสาครทั้ง 14 แห่งปรากฏว่าอดีตนายกได้รับความไว้วางใจจากประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งให้กลับมานั่งนายกอีกสมัยถึง 9 คนขณะที่ได้นายกหน้าใหม่มาเพียง 5 คนหนึ่งในนั้นได้แก่พรรคประชาชนได้เฮเบียดเข้าป้ายมาได้ 1 คน
1.เทศบาลนครสมุทรสาคร นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา เฉือนหวิวคู่แข่งไม่กี่คะแนนกลับมานั่งนายกต่ออีกสมัย 2.เทศบาลนครอ้อมน้อย นายบุญชู นิลถนอม กำนันหลอ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาครและอดีตนายกเก่าได้กลับมานั่งนายกต่ออีกหนึ่งสมัย 3.เทศบาลเมืองกระทุ่มแบน นายอนิวัตน์ ขวัญบุญ นายกเก่าที่ ทีแรกกะจะวางมือให้ลูกชายรับไม้ต่อแต่เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้ายลงต่ออีกสมัยก็ยังคงกลับเข้ามาได้อีก 4.เทศบาลเมืองคลองมะเดื่อ นายบัญชา ฤทธิศาสตร์ยังคงรักษาพื้นที่ไว้ได้เหนียวแน่นชนะคู่แข่งพรรคส้มมาได้แบบไม่ยากเย็น 5.เทศบาลเมืองพันท้ายนรสิงห์ นายวัฒนา แตงมณี นายกคนดังระดับประเทศยุคโควิดระบาดชาวบ้านยังไม่ลืม เทคะแนนให้ถล่มทลาย 6.เทศบาลตำบลท่าจีน นายรังสรรค์ เจียระนัย อดีตนายกคนเดิม 7.เทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก นายพิฑูร สุวรรณชัย ล้มนายกเก่าเข้ามาได้ 8.เทศบาลตำบลดอนไก่ดี นายวิชัย แตงเอี่ยม นายกเก่า 9.เทศบาลตำบลแคราย นายสมบูรณ์ สุขผล กำนันบูร เจ้าของพื้นที่มานานนั่งนายกต่อ 10.เทศบาลตำบลหลักห้า นายพงศธร ลิมปนเวทย์สกุล ได้นั่งเก้าอี้นายกคนใหม่ 11.เทศบาลตำบลบ้านแพ้ว นายเทพรัตน์ ศรีนิเวศน์ นายกคนเดิม 12.เทศบาลตำบลเกษตรพัฒนา นางสาวธิภัทรณิชา รัศมี เป็นผู้หญิงแค่สองคนที่ฝ่าด่านมานั่งนายกคนใหม่ได้สำเร็จ 13.เทศบาลตำบลคอกกระบือ นายกนกศักดิ์ ด้วงสงค์นายกคนใหม่ และสุดท้ายที่สร้างความฮือฮาลำดับที่14.เทศบาลตำบลนาดีนางสาวจุไรวรรณ เผือกเล็ก พรรคประชาชนได้เฮดังๆสามารถ เบียดเข้าป้ายปักธงได้หนึ่งเดียวในจังหวัดสมุทรสาคร แถมหอบหิ้วเอาสมาชิกมาได้ครบแบบยกทีมชนิดหักปากกาเซียนเหนือความคาดหมาย
ที่จังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่นนายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย ผู้สมัครหมายเลข 5 หัวหน้ากลุ่มขอนแก่นมหานคร สามารถเอาชนะ น.ส.เบญจมาภรณ์ สีละบุตร ผู้สมัครจากพรรคประชาชน โดยนายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย นำสมาชิกสภาของกลุ่มขอนแก่นมหานคร ชนะแบบยกทีมทั้ง 24 คน เป็นประวัติศาสตร์การเมืองใหม่ของคนขอนแก่น ที่ผู้สมัครหน้าใหม่และสมาชิกสภาฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
นายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย ว่าที่ นายก ทน.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนชาวนครขอนแก่นที่ไว้วางใจเลือกผมหัวหน้าทีมขอนแก่นมหานคร เป็นนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นจากผลการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงที่ได้รับ 16,499 คะแนน เอาชนะคู่แข่งจากพรรคประชาชนที่ได้ 8,716 คะแนน ซึ่งก็จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามที่ทุกท่านและทีมได้เลือกตนเองและทีมเข้ามาทำหน้าที่เพื่อคนขอนแก่น โดยเฉพาะกับการเลือกทีมขอนแก่นมหานครยกทีม
"ยอมรับว่าเหนือความคาดหมายที่เราได้ยกทีมทั้ง 4 เขต ผมพูดเสมอว่าจะเข้ามาเพื่อสร้างความสามัคคี อันดับแรกคือเราเข้ามาได้ทั้งทีม เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าความสามัคคีนั้นเกิดขึ้นแล้ว ทุกนโยบายที่ได้นำเสนอต่อประชาชนเป็นนโยบายที่รับฟังมาจากประชาชนทั้ง 95 ชุมชน นอกจากนี้เราก็ต้องเข้าไปดูว่าความต้องการแต่ละชุมชนนั้นมีอะไรบ้างและอะไรคือความจำเป็นเร่งด่วน"
นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณคนขอนแก่นทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ โดยเฉพาะผลคะแนนที่ออกมาห่างจากคู่แข่งจากพรรคประชาชนเป็นเท่าตัวซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่คนขอนแก่นเลือกทีมขอนแก่นมหานครแบบยกทีม ให้ได้มารับใช้พี่น้องประชาชนทุกชุมชน อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ของการดำรงตำแหน่ง รอง นายก อบจ.ขอนแก่น มา 4 ปี เคยบริหารราชการงานที่หลากหลายมาแล้ว อย่างไรก็ดีครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนสนาม ซึ่งโชคดีที่ได้ทีมงานที่ดี ได้รับความไว้วางใจจากคนนครขอนแก่นเลือกนายกและสมาชิกสภาฯเข้ามาทำงานแบบยกทีม
ส่วนที่เทศบาลตำบลศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ปรากฎว่านายไพรัตน์ ทวีวาร ผู้สมัครหมายเลข 1 อดีตนายกเทศมนตรีเมืองศิลา สมัยที่ผ่านมา เอาชนะนายจรูญ อ่วยนอก ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคประชาชน ไปได้อีกสนาม
สำหรับนายไพรัตน์ ทวีวาร อดีตกำนัน ต.ศิลา ว่าที่ นายก ทม.ศิลา สมัยที่ 2 ติดต่อกัน เรียกได้ว่าครองใจคนศิลาได้อย่างเหนียวแน่นมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยบุคลิกของการเป็นคนเข้าถึงง่าย อัธยาศัยไมตรีดี ไม่ถือตัว กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ และได้รับแรงหนุนจากบ้านใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคกล้าธรรม และนายวัฒนา ช่างเหลา นายก อบจ.ขอนแก่น จึงทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้คว้าชัยชนะทิ้งห่างผู้สมัครจากพรรคประชาชน ที่หมายมั่นปั้นมือจะคว้าชัยเก้าอี้ นายกฯที่ไปอย่างขาดลอย