ดนตรี / วรรณากร
ก่อนหน้าจะมีอัลบั้มอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จีจี เปเรซ มีเพลงที่คุ้นหูคนฟังอย่างมากหลายเพลง เช่น “Celene”, “Sometomes (Backwood)”, “Sailor Song” ทั้งหมดนั้นคงต้องขอบคุณพลังของโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะช่องทางติ๊กต็อก
เกิดที่นิวเจอร์ซีย์ แต่ไปลงหลักปักฐานที่ฟลอริดา เปเรซ เป็นยูทูเบอร์ควบคู่กับการทำงานในฐานะศิลปินเพลง สาววัย 25 ปีที่เปิดเผยว่าเป็นหญิงรักหญิงรายนี้เริ่มเขียนเพลงตั้งแต่อายุสิบห้า เคยเข้าเรียนที่เบิร์คลี คอลเลจ ออฟ มิวสิค แต่ลาออกในช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด
เปเรซ เริ่มเป็นที่สนใจจากผลงานเพลง “Celene” ที่เธอแต่งให้พี่สาวผู้ล่วงลับเมื่อปี 2563 และอัปโหลดขึ้นแพลตฟอร์มติ๊กต็อกในปีถัดมา ควบคู่กับคลิปวิดีโออื่นๆ ที่เธอโพสต์เพื่อแก้เบื่อ เหงาและเศร้าเพราะสูญเสียทั้งพี่สาวและแฟนสาวไปในเวลาไล่เลี่ยกัน
At The Beach, In Every Life เป็นอัลบั้มเปิดตัวของ เปเรซ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมไม่น้อย เธอสร้างบทเพลงอินดี้-ป๊อป/อินดี้-โฟล์กที่มีเนื้อหาลื่นไหลราวบทกวี ถ่ายทอดความเศร้าโศกจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และแง่มุมที่เธอมองชีวิตที่ผ่านมา
ในแง่หนึ่ง At The Beach, In Every Life อาจเป็นวิธีที่เธอปลดปล่อยความเศร้าจากการสูญเสียพี่สาว นอกเหนือจาก “Celene” ที่เป็นเพลงของพี่สาวเธอโดยตรงแล้ว เธอยังมี “Sugar Water” ที่สะท้อนความโหยหาวัยเยาว์ของพี่น้องสองสาว และ “Crown” ที่บรรยายความรู้สึกหม่นหมองเมื่อโลกนี้ไม่มีพี่สาวของเธออีกแล้ว
นอกเหนือจากนี้แล้ว ก็ยังมีเพลงที่โดดเด่นอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น “Sailor Song”, “Sleeping”, “Chemistry” หรือเพลงที่มาในจังหวะคึกคักอย่าง “Please Be Rude”
เปเรซ ปิดท้ายอัลบั้มด้วยเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม เป็นเพลงรักที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ลึกซึ้งและเนื้อเพลงงดงาม (They say if my dreams come up empty/ And I wash up on the shore/ You would find me at the beach/ In every life, through every door) และเสียงพูด “ฉันรักเธอ” ส่งท้ายที่ทำให้อัลบั้มจบลงอย่างสมบูรณ์
แม้จะตั้งต้นจากความเศร้า แต่ At The Beach, In Every Life เป็นอัลบั้มแห่งความรักอย่างไม่ต้องสงสัย และเป็นความรักที่ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างลึกซึ้งอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก : http://www.facebook.com/IslandRecords