เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 15 พ.ค.68 ภายใต้การอำนวยการของ นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต. มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย นายสุพจน์ แสนมี ปลัดจังหวัดเชียงราย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย และ พ.ต.อ. ศันย์ชัย พานิชกุล ผกก.สภ.บ้านดู่ ได้สั่งการให้ กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย นำโดย นายวิศิษฐ์ ทวนชีพ ป้องกันจังหวัดเชียงราย ร่วมกับอำเภอเมืองเชียงราย และสถานีตำรวจภูธรบ้านดู่ ดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เช่าห้องพักภายในหอพักแห่งหนึ่งย่านมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง  เป็นสถานที่ทำการของร้านในการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และต่างจังหวัด 

จากการเข้าตรวจสอบและจับกุมพบผู้กระทำความผิด จำนวน 2 ราย คือ นางสาวฎาริณีย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี และนายปรมินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ทั้ง 2 คน ทำหน้าที่เป็น Admin สนทนาซื้อ-ขาย กับผู้ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และทำหน้าที่จัดส่งบุหรี่ไฟฟ้าให้กับผู้ซื้อ ขณะเดียวกันพบชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารที่รับชำระเงินในการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าของร้าน โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบได้ จำนวน 383 ชิ้น 

ในเบื้องต้นผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ให้การว่าตนถูกว่าจ้างเป็น Admin ของร้านในอัตราค่าจ้างชั่วโมงละ 30 บาท ทำงานวันละ 15 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00 น. มีหน้าที่สนทนาซื้อ-ขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และทำหน้าที่จัดส่งสินค้า (บุหรี่ไฟฟ้า) ให้กับลูกค้าทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และต่างจังหวัด โดยจัดส่งบุหรี่ไฟฟ้าให้กับผู้ซื้อที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียง โดยวิธีการนัดรับบริเวณหน้าหอพักที่ใช้เป็นที่ทำการ และจัดส่งบุหรี่ไฟฟ้าให้กับผู้ซื้อที่อยู่ต่างจังหวัดหรือพื้นที่ห่างไกลผ่านช่องทางสถานประกอบการขนส่งสินค้าเอกชน 

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่ากลุ่มผู้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้าของร้านส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กนักเรียนและเยาวชนในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย โดยรายได้เฉลี่ยของร้านอยู่ที่วันละประมาณ 20,000 บาท 

เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย และส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตั้งข้อกล่าวหา จำนวน 2 ฐานความผิด คือ 1) ร่วมกัน ได้มีการซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และ 2) ร่วมกัน ผลิตเพื่อขาย ขาย หรือบริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือ บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขาย หรือบริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือ บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ