วันที่ 15 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีรองผู้บังคับกองพันนายหนึ่ง ในสังกัด กองบิน 23 จ.อุดรธานี ถูกกล่าวหาว่าใช้ทหารกองประจำการจากจังหวัดอุดรธานีไปขับรถรับส่งผู้โดยสารชื่อดังที่กรุงเทพฯ โดยจะแบ่งส่วนแบ่งให้ แต่เจ้าตัวทุกข์ใจอยากมาเป็นทหารรับใช้ชาติ แต่กลับถูกนายสั่งมาขับรถหารายได้
โดยทางกองทัพอากาศได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีดังกล่าว แจ้งว่า กองทัพอากาศตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีรองผู้พันให้ทหารขับแกร็บส่วนตัวสั่งย้ายพ้นตำแหน่งทันที ย้ำหากผิดจริง ลงโทษทั้งวินัยและอาญา ไม่ปกป้องคนทำผิด ตามที่มีรายงานข่าวกรณีรองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานีถูกกล่าวหาว่าใช้ทหารกองประจำการจากจังหวัดอุดรธานีไปขับรถรับส่งผู้โดยสาร เพื่อประโยชน์ส่วนตนนั้น
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศมีนโยบายชัดเจนในการดูแลสวัสดิภาพ สิทธิ และศักดิ์ศรีของทหารกองประจำการอย่างดีที่สุด โดยกำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความรับผิดชอบและจริยธรรม มิให้มีการละเมิดสิทธิหรือเอารัดเอาเปรียบกำลังพลในทุกกกรณีกองทัพอากาศขอยืนยันในความมุ่งมันที่จะรักษามาตรฐานคุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใสและความถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและสังคมว่ากองทัพอากาศจะไม่ละเลยต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และพร้อมดำเนินการอย่างจริงจังต่อทุกการกระทำผิด
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางสาย วัย 67 ปีแม่ของพลทหารดังกล่าว เล่าว่า แม่และพ่อก็นอนไม่หลับ ตอนนี้ห่วงลูกชายอยากให้ติดต่อกลับมาหาพ่อและแม่บ้าง ตั้งใจให้เป็นทหารรับใช้ชาติ แต่ถูกนายใช้ไปทำแบบนี้ ตอนที่ติดต่อลูกชายได้ ลูกชายก็บ่นว่า แม่ผมก็ไม่มีเงินเหมือนกัน ต้องเช่าบ้านอยู่ เราก็สงสัยอยู่ ทำไมไปเป็นทหารถึงไม่มีเงิน อยากบอกลูกชายได้ฟังแม่ติดต่อกลับมาทางบ้านด้วย และตอนนี้ครอบครัวก็เป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวด้วย
ด้าน นายแต้ม อายุ 28 ปี พี่ชายของพลทหาร บอกว่า ผมไม่ได้ติดต่อน้องชายนานแล้ว รู้แต่ว่าเขาสมัครไปเป็นทหาร ก็ดีใจกับน้องชายเพราะเขามีลูกน้อยวัย 5 เดือน ตอนนี้ก็เป็นห่วงน้องชาย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายให้ไปขับรถทำยอดหารายได้ให้นาย ตอนนี้ก็เป็นห่วงน้องชาย รู้ว่าไปลำบากอยู่กรุงเทพฯ