กำลังเป็นกระแสแรง! สำหรับผู้ชมในประเทศเกาหลีใต้ ที่ต่างพากันติดตามเรื่องราวความรักที่ตึงเครียดจาก "ความสัมพันธ์ที่เป็นปฏิปักษ์" ในละครประวัติศาสตร์แฟนตาซีเรื่อง "The Haunted Palace" หรือชื่อภาษาไทย "ปราสาทหลอนวิญญาณ" ที่นำแสดงโดย "คิมจียอน" รับบทเป็น "หมอผียอรี" ที่รู้สึกเคียดแค้น "คังชอล" วิญญาณของ "อิมูกิ" (งูในตำนานหรือมังกรต้นแบบ) ที่สิงสู่ในร่างของ "ยุนกัป" รับบทโดย "ยุกซองแจ" ซึ่งเป็นรักแรกของเธอ
"ยอรี" เชื่อว่าวิญญาณเป็นสาเหตุของการตายของยายของเธอ จึงมองเขาด้วยความเกลียดชังในตอนแรก แต่เมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากับภัยคุกคามเหนือธรรมชาติ ความเป็นปฏิปักษ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นความเข้าใจ และในที่สุดก็กลายเป็นความรัก
โครงเรื่องสะท้อนถึงธีมหลักของซีรีส์เกาหลียอดนิยมหลายเรื่อง ได้แก่ เรื่องราวความรักจากศัตรูที่กลายมาเป็นคนรัก หรือสิ่งที่ผู้ชมชาวเกาหลีเรียกว่า "ฮยมกวัน" (Hyumgwan) ซึ่งแปลว่า "ความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตร"
แม้ว่าคำนี้จะค่อนข้างใหม่ แต่ "ฮยมกวัน" ก็กำลังก้าวขึ้นมาเป็นประเภทซีรีส์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยผู้ชมแห่กันไปดูซีรีส์ที่มีตัวเอกที่เริ่มต้นด้วยความไม่ชอบกัน หรือแม้กระทั่งดูถูกกันเอง "The Haunted Palace" มีเรตติ้งสูงสุดในซีรีส์สุดสัปดาห์ โดยทำเรตติ้งได้เกือบ 9 เปอร์เซ็นต์ และยังคงติดอันดับ 1 ใน 10 ซีรีส์ยอดนิยมของ Netflix เกาหลี
* ความเกลียดชังมาก่อนความรัก
ความตึงเครียดในความรักระหว่างตัวละครนำที่ขัดแย้งกันนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญของการเล่าเรื่องละครมาช้านาน แต่เมื่อไม่นานมานี้ ความตึงเครียดนี้กลับกลายเป็นจุดเด่นของซีรีส์เกาหลีที่มีผู้ชมมากที่สุด ซีรีส์ดังเมื่อปีที่แล้วอย่าง "When the Phone Rings" ซึ่งไต่อันดับขึ้นไปใน Netflix ทั่วโลก และ "Love Scout" ที่ทำเรตติ้งได้เกิน 12 เปอร์เซ็นต์เมื่อต้นปีนี้ ทั้งสองเรื่องเน้นไปที่คู่รักที่ไม่เต็มใจแต่ค่อยๆ ตกหลุมรักกัน
ในซีรีส์เรื่อง "When the Phone Rings" ทางช่อง MBC คู่รักที่ไม่มีความรักซึ่งแต่งงานกันตามแผนได้เริ่มค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงต่อกัน หลังจากเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตไป ซีรีส์เรื่อง "Love Scout" ทางช่อง SBS เล่าเรื่องของซีอีโอของบริษัทจัดหางาน (รับบทโดยฮัน จีมิน) และผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กร (รับบทโดยอี จุนฮยอก) ที่ขัดแย้งกันในอาชีพการงานก่อนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่โรแมนติก
ซีรีส์เรื่องอื่นๆ ที่เพิ่งออกฉาย เช่น "Love Your Enemy" ทางช่อง tvN นำแสดงโดยจอง ยูมี และจู จีฮุน และ "The Trunk" ทางช่อง Netflix นำแสดงโดยซอ ฮยอนจิน และกงยู ก็สำรวจความสัมพันธ์ของศัตรูที่กลายมาเป็นคนรักในลักษณะเดียวกัน
* ทำไมถึงเป็นที่นิยม?
สิ่งที่ทำให้เรื่องรักแบบ Hyumgwan เป็นที่นิยมคือความรู้สึกที่แฝงอยู่หลายชั้น ความตึงเครียดและการหยอกล้อระหว่างตัวละครที่เป็นปฏิปักษ์กันในตอนแรกทำให้เกิดอารมณ์ขันและความระทึกขวัญในช่วงต้นของซีรีส์ ในขณะที่อารมณ์ความรู้สึกในการเอาชนะความขัดแย้งเพื่อเข้าถึงความสนิทสนมก็เพิ่มความลึกให้มากขึ้น
“เรื่องราวของ Hyumgwan ดึงดูดผู้ชมด้วยการเน้นไปที่ความขัดแย้งระหว่างตัวละครหลัก” ยุนซอกจิน ศาสตราจารย์ด้านวรรณกรรมเกาหลีที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัมกล่าว “เรื่องราวเหล่านี้ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมมากขึ้นผ่านการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์”
เรื่องราวเหล่านี้ยังสะท้อนถึงช่วงเวลาทางวัฒนธรรมที่กว้างขึ้น ในละครหลายเรื่อง ตัวละครเริ่มต้นด้วยความเข้าใจผิดหรือการตัดสินก่อนวัยอันควร แต่เติบโตขึ้นจากการรับรู้และยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน
เมื่อการโต้ตอบแบบพบหน้ากันกลายเป็นเรื่องธรรมดาน้อยลงในโลกหลังการระบาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันทางดิจิทัล ผู้ชมจึงระบุตัวตนได้มากขึ้นถึงความยากลำบากในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย
“ตั้งแต่เกิดโรคระบาด การสื่อสารทางไกลกลายเป็นเรื่องปกติ และผู้คนจำนวนมากขึ้นประสบปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล” ยุนกล่าว “ละคร Hyumgwan สะท้อนถึงกระแสสังคมนี้ ในขณะเดียวกันก็นำเสนอเรื่องราวการระบายความเข้าใจผิดผ่านการมีส่วนร่วมโดยตรงและเป็นการส่วนตัว”
ตราบใดที่ผู้ชมยุคใหม่ยังคงแสวงหาทั้งความซับซ้อนทางอารมณ์และละครที่หลีกหนีจากความเป็นจริง ดูเหมือนว่าละครรัก Hyumgwan จะยังคงเป็นสูตรสำเร็จที่น่าดึงดูดบนจอโทรทัศน์ของเกาหลี