เมื่อ"Hidden gems" ในบริบทของการท่องเที่ยว คือ  สถานที่เร้นลับหรือการท่องเที่ยวนอกกระแสของเหล่านักเดินทาง แต่กลับเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และความน่าสนใจซ่อนอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งคำให้ความหมายนี้ คงไม่ไกลเกินสำหรับ หาดบางหลุด เขาหลัก จังหวัดพังงา ชายฝั่งภาคใต้ของประเทศไทยที่ยังคงความบริสุทธิ์ สามารถเดินทางไปยังจุดดำน้ำระดับโลกอย่างหมู่เกาะสิมิลันและหมู่เกาะสุรินทร์ได้อย่างง่ายดาย และเป็นที่ตั้งของ เขาหลัก แมริออท บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่แฝงเร้นไปกับธรรมาติอย่างกลมกลืน

มอบประสบการณ์ที่พิเศษ

นาย แบรด เอ็ดแมน รองประธานกรรมการประจำประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมในจังหวัดพังงา และภูเก็ตในระยะสั้นนี้ มั่นใจว่า ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี โดยเฉพาะในพังงาบริเวณเขาหลักมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการรักษาตลาดในระยะยาว คือ ธรรมชาติที่สวยงามจะต้องไม่หายไป  จะต้องรักษาวัฒนธรรมของเขาหลักไว้ให้ได้ ก็ยิ่งจะทำให้กลายเป็นเดสติเนชั่นที่จะได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น

 

ด้านนายเดบดิวตี้ "เดฟ" แดสกุปต้า   ผู้จัดการทั่วไป ของ เขาหลัก แมริออท บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา กล่าวว่า ป้าหมายของแมริออท คือการสร้างจุดหมายปลายทางที่ไม่เพียงแต่มอบการบริการที่เหนือชั้น แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์และความงามตามธรรมชาติของเขาหลักด้วย เป็นการมอบประสบการณ์พิเศษที่จะทำให้ทุกคนประทับใจไม่รู้ เพื่อทำให้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นอัญมณีที่แท้จริงของภูมิภาค

สำหรับ เขาหลัก แมริออท บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมของเมืองเขาหลัก บนหาดบางหลุด มองเห็นทะเลอันดามันสีฟ้าคราม ประกอบด้วยห้องพัก สวีท และพูลวิลล่า จำนวน 283 ห้อง ห้องอาหารและบาร์ 7 แห่ง สระว่ายน้ำ คิดส์คลับริมชายหาด ควาน สปา (Quan Spa) ศูนย์ออกกำลังกาย 24 ชั่วโมง และกิจกรรมริมชายหาดมากมาย อาทิ โยคะและกีฬาทางน้ำ รวมถึงห้องแกรนด์บอลรูมอันดามัน ห้องประชุมที่ปรับเปลี่ยนได้ และพื้นที่กลางแจ้งอย่างชายหาดและสนามหญ้า

 กระตุ้นท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

ขณะที่ นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. สํานักงานพังงา กล่าวว่า ข้อมูลใน ช่วงไฮซีซั่นของที่นี่จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงกว่า 80% ขณะที่ในช่วงกรีนซีซั่นซึ่งเป็นฤดูที่ผลไม้ของพังงาเริ่มออกสู่ตลาด ระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ก็จะมีการผลักดันแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

ส่วน นายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น  นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังง กล่าวว่า การที่มีนักลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่นำเชนระดับสากลเข้ามาบริหาร ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักเดสติเนชั่นของเขาหลักมากขึ้น  ซึ่งทำให้พื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงมีการกระจายการรับรู้ และ มีการพัฒนายกระดับเพิ่มมากขึ้นโดยจะได้อานิสงส์ในการสร้างงานต่างๆ ทั้งการขนส่งสินค้า และรับ-ส่งบริการนักท่องเที่ยว ร้านค้า-ร้านอาหารที่จะเปิดเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาสัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมในพื้นที่

 

ดังนั้นในการดำเนินงานของสมาคมในการรองรับความเจริญดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ ปัญหาขยะ ที่เกิดจากอาหารที่ทิ้งเกินกว่า 50% จะต้องหาวิธีจัดการ ส่วนอีกประเด็น  คือ วัตถุดิบที่จะจัดส่งไปยังโรงแรมน้อยใหญ่ที่อยู่ในบริเวณเขาหลัก และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของพังงา ด้วยการเข้าไปพูดคุยกับเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อรองรับความต้องการของโรงแรมในส่วนของวัตถุดิบ เช่น ปลา ผัก ไข่ ซึ่งในพื้นที่สามารถดำเนินการได้เลย ตอนนี้พยายามพูดคุยกับคนในพื้นที่เพื่อให้มีการพัฒนาในเรื่องของขบวนการวัตถุดิบดังกล่าว

ทำงานร่วมกันเป็นองค์รวม

โดยนายเลิศศักดิ์  กล่าวว่า มีแผนดำเนินงานในการพูดคุยระหว่างโรงแรม และเกษตรกรในพื้นที่ช่วงประมาณเดือนมิถุนายน เพื่อร่างขอบเขต และมาตรฐานในการทำงานร่วมกันในแต่ละสินค้า ในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งเวลานี้ทางสมาคมจะอยู่ในช่วงของการเก็บข้อมูล เพื่อนำไปหารือกับทั้งสองฝ่าย เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่และทุกคนได้มากที่สุด 

นอกจากจะมีการนำผลิตผลในพื้นที่ส่งเข้าโรงแรมแล้ว อาจจะมีการหารือในเรื่องของการจัดโปรแกรมร่วมกันระหว่างสมาคม ชุมชน และโรงแรม เพื่อนำนักท่องเที่ยวลงพื้นที่ไปยังแหล่งของผลไม้บางชนิดที่ไม่สามารถนำเข้าในโรงแรม เช่น ทุเรียน หรือ  ผักเหมียง ซึ่งเป็นผักของจังหวัดมาคิดเป็นเมนูที่จะหาซื้อจากที่อื่นไม่ได้ นอกจากซื้อที่พังงาเท่านั้น ซึ่งก็จะเป็นการช่วยยกระดับสินค้าอีกทางหนึ่ง

 สุดท้ายการที่แบรนด์ระดับโลกอย่างแมริออทเข้ามาลงทุนในพื้นที่ นับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศว่า เขาหลักเป็นจุดหมายปลายทางที่มีคุณภาพระดับสากล และเชื่อว่ารีสอร์ทแห่งนี้จะกลายเป็น แรงดึงดูดสำคัญ สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่รีสอร์ทแห่งนี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างธุรกิจท่องเที่ยวกับชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้ทุกคนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน