วันที่ 14 พ.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2568 ภายหลังจากที่  น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน แถลงข่าวที่รัฐสภา ประกาศยุติบทบาทการทำงานกับพรรคประชาชน  พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากพรรค เพราะจะส่งผลทำให้พ้นจากสถานะสส.ไปด้วย

ในวันเดียวกัน ปรากฏว่า มีคลิปเสียงพูดคุยระหว่าง น.ส.กฤษฎิ์ กับนายณัฐพงษ์  เรืองปัญญาวุฒิ  สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ถึงสาเหตุที่ไม่สามารถทำงานกับพรรคต่อไปได้ และการตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม เนื่องจากที่ผ่านมาเคยสะท้อนปัญหาและได้รับการช่วยเหลือจากร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม สมัยที่เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์

สำหรับในคลิปเสียง น.ส.กฤษฎิ์ ระบุถึงประเด็นการเอาคนมาลงสมัครแทนว่า เรื่องก็นานมาแล้ว ก็ฟังหูไว้หู แต่การดิสเครดิตก็มีมาเรื่อย ๆ แม้จะตั้งใจทำงานแต่โดนตลอด วินาทีสุดท้ายต้องตัดสินใจเผาสติกเกอร์ 5 หมื่นแผ่น ที่ตั้งใจหาเสียงเลือกตั้งทิ้ง ทั้งทีตั้งใจทำเพื่อพรรคทุกอย่างสุดท้ายก็เป็นแบบนี้

ส่วนเหตุผลที่อยากไปร่วมงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมนั้น น.ส.กฤษฏิ์บอกว่า ไปขอร้องให้เขาช่วย 2 ครั้ง สมัยที่เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งแรกให้ช่วยทำอ่างเก็บน้ำ ครั้งที่ 2 ให้เขามาดูปัญหาให้ชาวประมง พอบอกปุ๊บเขาทำให้ปั๊บ 

ขณะที่นายณัฐพงษ์ สอบถามว่า แล้วจุดแตกหักคืออะไร น.ส.กฤษฎิ์บอกว่า มันสะสมมาตั้งแต่แรกก่อนหน้ายุบพรรคอีก เรื่องของจังหวัดเป็นตั้งแต่ยุคแรก ๆ พูดมาตลอดแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้รับยุติธรรม บางคนเป็นหนอนเป็นงูเห่ารับเงินจากต่างพรรคมาแล้วเอาเรื่องของพรรคไปขาย แต่ยังหน้าลอยตาทำงานอย่างมีความสุข แต่พี่ทำงานให้พรรคทุกอย่าง แต่โดนบูลลี่ทุกอย่างชัดเจนว่าความยุติธรรมไม่มี

"ตอนนี้พี่จะทำให้จบสมัย แต่สมัยหน้าก็เป็นเรื่องของพรรคอื่นแล้วว่าเขาจะรับพี่ไหม แต่บอกเลยว่าคนอย่างพี่ไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงิน ใจล้วน ๆ แต่พี่หมดใจให้กับพรรคแล้ว อย่างสุรเชษฐ์ล่อพี่มาตลอดทำเหมือนเด็ก ไปนินทาลับหลังว่าวางตัวไม่ดีดูซิมันคบกับกรรมาธิการคนอื่น เด็กก็ไม่กล้าคุยกับเรา สุดท้ายได้ยินจากปากของคนในกรรมาธิการคมนาคมว่า เป็นแบบนั้นจริง เขาว่าพี่วางตัวไม่ดี ถามหน่อยวางตัวไม่ดียังไง เรานำเสนอนักวิชาการระดับประเทศนั่งกรรมาธิการแลนด์บริดจ์ สุรเชษฐ์บอกว่าใครก็ไม่รู้ ใช่พวกเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ อ่าวแล้วผมไม่ใช่พวกคุณหรือ ในเมื่อผมเป็นคนเสนอ เพราะรู้ว่าให้นักวิชาการนั่งจะได้ประโยชน์กว่า สุดท้ายสุรเชษฐ์ก็ไม่เอา เอาใครมานั่งก็ไม่รู้ จนสุดท้ายเขาก็ยืนยันว่าผมไม่ใช่พวกด้วยการกระทำของเขา" น.ส.กฤษฎิ์กล่าว

นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวว่า ตอนนี้เข้าใจปัญหาที่พี่เจอแล้ว แต่พยายามเข้าใจโจทย์ เพื่อหาทางออกทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าพี่อยากเป็นสส.ให้จบสมัยมี 2 ทางคือ อยู่กับพรรคโดยที่สร้างบรรยากาศที่ไม่อึดอัด หรือถ้าอยากย้ายพรรคก็คือพรรคต้องขับออก หรือไม่ย้าย แต่ย้ายที่นั่งไปอยู่กับเขาทำงานด้วยกันต่อ

ซึ่ง น.ส.กฤษฎิ์ ตอบโต้ว่า ถ้าทำแบบนั้นตนก็เป็นงูเห่าสิ แล้วจะทำอย่างนั้นทำไม ในหนังสือชัดเจนว่าต้องการให้ขับออก ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด และไม่ทำให้พรรคเสียหาย แต่ถ้าไม่ขับออกต้องมีเรื่องราวตามมา ซึ่งไม่อยากทำอย่างนั้นอยู่แล้ว

นายณัฐพงษ์ จึงระบุว่า ถ้าขับออกก็มีเรื่องที่ต้องคุยกันต่อ เช่นการแถลง ผมออกแบบว่าอาจมีตัวแทนพรรคเป็นคนไปแถลงด้วยแล้วบอกว่า ทำงานร่วมกันด้วยไม่ได้ แต่ตามวินัยพรรคการที่จะขับออกต้องทำผิดวินัย เพราะฉะนั้นเรื่องที่ทำผิดวินัยคือเรื่องอะไร ผมยืนยันว่าสิ่งที่พี่หารือในสภาที่เป็นประเด็นก็ไม่เคยเอาเข้าวินัยพรรค ถ้าพี่ไม่มีประเด็นเรื่องการหารือในสภาจะง่ายต่อพรรคเยอะ ตอนนี้สื่อจับจ้อง สังคมออนไลน์จับจ้อง หรือกระทั้งฝ่ายตรงข้าม อยากจะเล่นว่าไอ้พรรคนี้ไง สส. หารือในสภาเรื่องอยากเข้าเฝ้าเลยถูกขับออก ไม่ตรงกับอุดมการณ์พรรค พรรคล้มเจ้า นี้คือสิ่งที่พรรคจะโดนพี่เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเรื่องขับออกก็ต้องมานั่งคุยกันให้ตกผลึกว่าเป็นข้อหาอะไร ผมก็ยังคิดไม่ออกเรื่องนี้มันยาก ทางออกที่ดีที่สุดคือเราทำงานร่วมกันถ้ามีอะไรที่พี่ไม่สบายใจ เดี๋ยวผมทำตัวเป็นนักเลงช่วยเคลียร์ให้

น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวยืนยันว่า พี่ไม่ได้ต้องการแบบนั้น พี่ต้องการออกไปเป็นตัวของตัวเอง พี่ไม่ได้เป็นเด็กที่ต้องคอยให้ใครอุ้มหรือโอบ ซึ่งนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีอีกทางหนึ่งไม่รู้จะตอบโจทย์พี่ไหมแต่จะทำให้สังคมเชื่อพี่พูดแล้วโคตรหล่อเลย สำหรับการทำแบบนี้ พรรคอาจจะเสียหายนิดหน่อย คือพี่แถลงไปเลยว่าไม่ถูกจริตกับการทำงานของพรรค แล้วพี่ก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ทำให้ น.ส.กฤษฎิ์ โต้ทันทีว่า พี่ก็หมดสภาพ สส.สิ นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวว่า ผมถึงบอกไงว่าตอบโจทย์นั้นหนึ่งของพี่รักษาชื่อเสียง หากพี่ไม่ได้คิดถึงสมัยหน้าเพราะเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเทอม

"พี่เลือกแถลงยุติบทบาทกับพรรค สำหรับผมไม่มีทางที่จะจบสวย เพราะสื่อจ้องอยู่แล้ว ต้องแถลงร่วมกันแล้วให้พรรคเป็นผู้นำในการแถลง ซึ่งต้องมาคุยกันในเนื้อหาว่าขับออกเพราะอะไร พี่พิจารณาทางออกผมใหม่ดีไหม พี่ลาออกเลือกตั้งใหม่พี่ลงในนามธรรมนัส พรรคก็ส่งคนใหม่ในนามของพรรค ให้ประชาชนตัดสินไม่มีใครด่าพี่ด้วย" หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุ 

น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวยืนยันว่า ยังไงก็ต้องแถลงให้ประชาชนพี่เข้าใจ พี่จะขึ้นข้อความในเพจพรรคก็กลัวจะเสียชื่อเสียงพี่ก็ไม่ทำเลยรอแถลงหลังเลือกตั้งทีเดียว แต่ตอนนี้มาบอกไม่ให้แถลง ไม่มีความยุติธรรมสำหรับพี่เลยใช่ไหม ซึ่งนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผมไม่ได้รู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในพรรค ถ้ารู้คงมาคุยกับพี่ก่อนที่มันจะระเบิด