"กทม."ทำบุญใหญ่! สวดบำเพ็ญส่วนกุศล แด่ผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม ด้าน "ผู้ว่าสตง." ลั่นยอมรับผลการตรวจสอบทุกเรื่อง ขณะที่ทีมกู้ภัยส่งมอบพื้นที่คืนให้ สตง. และแถลงปิดภารกิจอย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณชั้น 3 ภายในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิต จากอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่า กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. รวมถึงอาสาหน่วยกู้ภัยและผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือตลอดทั้ง 45 วันของปฏิบัติการ โดยพบว่า มี นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมพิธีด้วย
จากนั้นทีมงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงทีมจากศูนย์บัญชาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมสุนัขกู้ภัย k9 และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันยืนสงบนิ่ง ไว้อาลัยให้กับผู้ประสบเหตุรวมถึงผู้เสียชีวิตทุกราย โดยที่จุดศูนย์บัญชาการมีการประชุมผลการปฏิบัติงานหลังยุติภารกิจการค้นหาอย่างเป็นทางการในวันนี้ พร้อมส่งมอบพื้นที่คืนให้กับ สตง.ดำเนินงานต่อไป
ขณะที่ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เดินทางมาเข้าร่วมพิธี พร้อมยืนยันว่า ยอมรับผลการตรวจสอบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลการสอบสวนทางวิทยาศาสตร์ หรือจากส่วนอื่น แต่กฎแห่งกรรม ใครทำอะไรไว้ก็จะต้องรับผลของการกระทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้ถือเป็นวันสิ้นสุดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายแ ละรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่ม รวมระยะเวลากว่า 48 วัน โดยในช่วงเช้าได้มีพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศให้กับผู้เสียชีวิตและสูญหายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนการส่งมอบพื้นที่คืนให้ สตง. และแถลงปิดภารกิจอย่างเป็นทางการ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายหน่วยงานได้ร่วมยืนสงบนิ่งล้อมรอบบริเวณอาคารที่ถล่มเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต
ปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากเหตุการณ์อาคาร สตง. ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ติดค้างภายในซากอาคาร บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก นำมาซึ่งการระดมกำลังครั้งใหญ่จากกรุงเทพมหานคร (กทม.) หน่วยทหาร หน่วยกู้ภัย มูลนิธิอาสาต่างๆ และภาคเอกชน ที่ร่วมสนับสนุนทั้งกำลังคน เครื่องมือหนัก อาหาร และสิ่งของจำเป็น ตลอดระยะเวลา 48 วันของการค้นหาและรื้อถอนซากคอนกรีตเหล็กเส้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ไม่พบร่างผู้สูญหายเพิ่มเติม ทำให้ต้องยุติการค้นหาในพื้นที่และรอกระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์ชิ้นส่วนร่างกายที่พบโดยสถาบันนิติเวชวิทยาต่อไป