“หอการค้าไทย” ชี้มาตรการภาษีสหรัฐกระตุ้นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI ทะลักเข้าไทยและอาเซียน  ดันดีมานด์โลจิสติกส์พุ่ง! เตรียมผนึกพันธมิตรระดับโลกจัดใหญ่ “LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025”  15-17 ตุลาคมศกนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โชว์ศักยภาพไทยศูนย์กลางระดับภูมิภาค ขับเคลื่อนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผงาดฮับอินทราโลจิสติกส์แห่งอนาคต ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าจากเอเชียและยุโรป 350 บูธ ผู้ชมงานกว่า 7,000 ราย 

นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะพันธมิตรร่วมสนับสนุนการจัดงาน LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025 เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวท่ามกลางความไม่แน่นอนจากมาตรการกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐและมาตรการตอบโต้ของประเทศคู่ค้าที่เป็นทั้งความท้าทายและโอกาส โดยหากมองในเชิงบวกจะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้บริษัทต่างชาติมองหาประเทศทางเลือกในการผลิตและส่งออก ซึ่งประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ในกลุ่มที่มีศักยภาพและจะส่งผลให้เกิดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้นทั้งในภาคการผลิตและระบบโลจิสติกส์ ถือเป็นโอกาสสำคัญของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

“ประเทศที่มีความพร้อมด้าน Digital Infrastructure และมีความเป็น Smart Logistics ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในระบบโลจิสติกส์ เช่น เทคโนโลยี AI, Robotics และ Smart Warehouse จะมีความได้เปรียบในการดึงดูด FDI ให้เข้ามาลงทุน ซึ่งงาน LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025 จะเป็นเวทีที่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์จะได้อัปเดตเทคโนโลยีและเทรนด์ใหม่ ๆ รวมถึงพบปะและจับคู่ธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีระดับสากล” นายสุเมธ กล่าว                           

จากรายงานของ Custom Market Insights ระบุว่า อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2024 ตลาดโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่า 243.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยสนับสนุนด้านการขยายตัวของภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในเทคโนโลยีโลจิสติกส์อัจฉริยะ เช่น IoT และ AI รวมถึงการลงทุนจากต่างประเทศ และคาดการณ์ว่าปี 2025 ตลาดโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีมูลค่าประมาณ 258.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มเป็น 476.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034มาณ 258.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มเป็น 476.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034

นายฮานส์ สโตเตอร์ กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เมสเซ่ สตุ๊ตการ์ท (Messe Stuttgart) กล่าวว่า เมสเซ่ สตุ๊ตการ์ท ได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกาศความพร้อมจัดงาน LogiMAT Southeast Asia 2025 มหกรรมสินค้าชั้นนำด้านอินทราโลจิสติกส์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แนวคิด “Passion for Solutions” มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยเน้น Specialist–AI–Sustainability พร้อมกันกับ LogiFOOD Southeast Asia 2025 มหกรรมสินค้าและนวัตกรรมโลจิสติกส์อาหารและห่วงโซ่ความเย็น โดยระดมทัพผู้ประกอบการชั้นนำ 350 บูธ มาจัดแสดงสินค้าและเทคโนโลยีโลจิสติกส์ รวมถึงเป็นเวทีพบปะและสร้างเครือข่ายธุรกิจ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 7,000 คน

“งาน LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025 ตอกย้ำความมุ่งมั่นขับเคลื่อนการยกระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่การเป็นศูนย์กลางอินทราโลจิสติกส์แห่งอนาคต ด้วยความร่วมมือจากนานาชาติ เสมือนยก LogiMAT จากเยอรมันมาไว้ที่ประเทศไทยซึ่งมีศักยภาพเป็นฮับการจัดงาน LogiMAT ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งคาดหวังว่าจะทำให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ได้รับแรงบันดาลใจและข้อมูลที่ช่วยให้ปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ เสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีระดับโลก” นายฮานส์ กล่าว

นายภูษิต ศศิธรานนท์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด ตัวแทนโคโลญเมสเซ่ ประเทศไทย กล่าวว่า LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025 เป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการบริหารจัดการคลังสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งมีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ โดยภายในงานได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในการจัดกิจกรรม Logistics Clinic คลินิกให้คำปรึกษาแนะนำด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแก่ผู้ประกอบการ พร้อมด้วยการสนับสนุนด้านงบประมาณการเข้าร่วมออกบูธจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและ   ขนาดย่อม (สสว.) 

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจาก LogiSYM ซึ่งเป็นผู้จัดงาน Symposium ด้านโลจิสติกส์และสื่อแนวหน้าในวงการ    โลจิสติกส์ โดยจะเปิดตัว LogiSYM Thailand 2025 เวทีสัมมนาแบบเข้มข้นตลอด 3 วัน กว่า 20 หัวข้อ วิเคราะห์เจาะลึกเทรนด์ล่าสุด ความท้าทาย รวมทั้งโอกาสในอุตสาหกรรมด้านระบบควบคุมอุณหภูมิ และโลจิสติกส์ ซึ่งไฮไลต์พิเศษของงานในปีนี้ คือ ASEAN Intralogistics Panel การเสวนาระดับภูมิภาคซึ่งรวบรวมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และประเทศไทย มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านอินทราโลจิสติกส์ภายในอาเซียน และเซสชันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Embodied Intelligent Robotics) ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ธีมหลัก “AI for Logistics” โดยภายในเซสชันจะมีหัวข้อพิเศษ “Cobotic” หรือหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ (Collaborative Robotics) ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในวงการโลจิสติกส์ยุคใหม่

ดร.อาทิตย์ พัฒนพงศ์ชัย ผู้อำนวยการกองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ซึ่งรัฐบาลไทยได้เริ่มเจรจากับสหรัฐเพื่อหาแนวทางลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ด้วยการส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เช่น การนำเข้าเอทานอลเพื่อปรับสมดุลการค้าระหว่างประเทศ การเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย และกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว 

ส่วนความท้าทายและแนวโน้มของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ประกอบด้วย 1. ต้นทุนที่สูงขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนเชื้อเพลิงและค่าแรงงาน 2. ความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทาน จากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเส้นทางการขนส่งและความผันผวนของอัตราค่าขนส่ง 3. แรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวให้สอดรับกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม 4. ปัญหาด้านแรงงาน จากการขาดแคลนแรงงานในบางสาขา เช่น พนักงานขับรถบรรทุก ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์ต้องปรับปรุงกระบวนการและใช้เทคโนโลยีเพื่อทดแทน และ 5. ความปลอดภัยทางไซเบอร์ เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในระบบโลจิสติกส์เพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งต้องมีแนวทางการป้องกันและการจัดการอย่างเหมาะสม

“โอกาสและความท้าทายของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์แห่งอนาคตคือ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านนโยบาย การสนับสนุนงบประมาณ การพัฒนาองค์ความรู้ และการส่งเสริมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผลักดันธุรกิจโลจิสติกส์ให้มีศักยภาพ ทันสมัย เพื่อให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยสามารถปรับตัวให้เติบโตได้ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน โดยในปีนี้กองโลจิสติกส์ ได้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025 ผ่านกิจกรรม Logistics Clinic คลินิกให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน รวมถึงกิจกรรม Logistics Mini Class Room ให้ความรู่ด้านการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ในรูปแบบห้องบรรยาย 15-20 นาที และกาประชาสัมพันธ์ เผยแพร่องค์ความรู้ด้านการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ในกิจกรรม Logistics Showcase by DIPROM อีกด้วย”ดร.อาทิตย์กล่าว 

สำหรับงาน LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2568 ณ ฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค มีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย อาทิ
-Innovations on Logistics: นวัตกรรมด้านโลจิสติกส์สุดล้ำ! ที่รวบรวมจากทั่วโลกมาไว้ในงานนี้งานเดียว!
-Product Demonstration: โซนสาธิตกระบวนการโลจิสติกส์ครบวงจร โดยสมาคมการจัดการระบบ
คลังสินค้าไทย (TIA)
-Business Matching Program: พบปะและสร้างเครือข่ายกับผู้นำในวงการที่มากด้วยประสบการณ์
-LogiSYM Symposium:  เวทีเสวนาด้านโลจิสติกส์ของอาเซียน (ASEAN Logistics Panel) โดยวิทยากรชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ 
-DIPROM Logistics Clinic: คลินิกให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน จากกองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
-กิจกรรมที่น่าสนใจจากสมาคมและหน่วยงานต่างๆที่ร่วมสนับสนุนการจัดงาน อาทิ สถาบันอาหาร สมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย (TARA) สมาคมเครื่องทำความเย็นไทย (TRA) สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สมาคมธุรกิจคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น (WSCBA) และ
สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI)

โดยผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงาน “LogiMAT & LogiFOOD Southeast Asia 2025” สุดยอดเทรดโชว์โลจิสติกส์แห่งอนาคตและซัพพลายเชนระดับโลก! สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และจองบูธ ได้ที่โปรแกรมสนับสนุนผู้ชมงานจากต่างประเทศ (Hosted Buyer Program) email: [email protected] อัปเดตข่าวสารและกิจกรรมต่างๆได้ที่ www.logimat-sea.com