กกต.แถลงเปิดทุกหน่วย เลือกตั้งเทศบาล เรียบร้อย สั่งชุดไต่สวนลงพื้นที่สอบปมซื้อเสียงกาฬสินธุ์หัวละ 3,000 บาท เตือน 10 ข้อห้ามใช้สิทธิ์ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ตัดสิทธิ์การเมือง เผย ร้องทุจริต‘เลือกตั้งเทศบาล’แล้ว 352 เรื่อง

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.68 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าสังเกตการณ์หน่วยเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี ที่โรงเรียนหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

นายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ว่า จากเมื่อวานนี้(10พ.ค.)ที่ให้ข้อมูลว่า มีคำร้องเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 338 เรื่อง ขณะนี้มีรายงานเพิ่มเติมอีก 14 เรื่อง เป็น 352 เรื่อง แต่ในการเลือกตั้งครั้งก่อน มีเรื่องร้องเรียน 1,743 เรื่อง ซึ่ง กกต.ไม่ต้องการให้เพิ่มขึ้น และพยายามทุกวิถีทางในการป้องกันป้องปราม ปลูกฝังค่านิยมอย่าซื้อสิทธิ์ขายเสียง ส่วนใน ช่วง 3 วันสุดท้าย โดยเฉพาะเมื่อคืน (10 พ.ค.) ถึงขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน 

“ขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งกรณีมีการรับเงิน ถือว่าเป็นการทำผิดกฏหมาย ผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ นอกจากรับโทษทางอาญาแล้วยังต้องรับโทษทางการเมือง ชี้ว่าไม่คุ้มกับการเสี่ยง”

นายอิทธิพร กล่าวถึงการตั้งเป้าผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในภาพรวมทั่วประเทศ ร้อยละ 70 โดยอ้างอิงจากตัวเลขการใช้สิทธิ์ในปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 66.8 จึงหวังว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเลือกตั้งที่ใกล้ตัวมากที่สุด มากกว่าการเลือกตั้ง สส. ในแง่ที่ว่าท้องถิ่นเป็นผู้จัดการทุกอย่าง ส่วนผลการเลือกตั้งในวันนี้ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ คาดว่าอย่างเร็ว คือ 20.00 น. และอย่างช้าไม่น่าจะเกิน 22.00 น. ประชาชนสามารถดูรายงานผลการเลือกตั้งในเฟซบุ๊กของเทศบาลแต่ละแห่ง หรือแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวตของ กกต.

ด้าน พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. แถลงว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์เกี่ยวกับการเปิดหน่วยลงคะแนน 76 จังหวัด จำนวน 34,818 หน่วย จากจำนวนเทศบาล ที่มีการเลือกตั้ง 2,463 แห่งทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ได้รับรายงานจาก กกต. จังหวัดว่า การเปิดเหตุเลือกตั้งทั่วประเทศดำเนินการเปิดหีบได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เรียบร้อยครบทุกแห่ง แม้ว่าบางแห่งจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง 


นอกจากการเลือกตั้งเทศบาลในทุกจังหวัดแล้วบางจังหวัดนอกเขตเทศบาลมีการเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหลายพื้นที่ซึ่งไม่ได้ซ้ำซ้อนกัน

พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเลือกตั้งเทศบาลครั้งนี้มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 34,818 หน่วย ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น 29,936,705 คน ซึ่งจะเห็นได้เป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประเทศ สะท้อนว่าเลือกตั้งเทศบาลเป็นเขตชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งในการเลือกตั้ง อบต. ครั้งต่อไปกว่า 5,000 แห่งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก็จำนวนใกล้เคียงกัน

ส่วนข้อควรระวังของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง 1. ห้ามผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งพยายามออกเสียงลงคะแนน ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี 2.ห้ามใช้บัตรอื่นแทนบัตรเลือกตั้งที่ได้รับจากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ฝ่าฝืนจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี 3. ห้ามนำบัตรเลือกตั้งออกจากที่เลือกตั้ง ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 4. ห้ามทำเครื่องหมายอื่นบนบัตรเลือกตั้งนอกจากเครื่องหมายที่ลงคะแนน ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 5. ห้ามใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพในคูหาเลือกตั้งโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 6.ห้ามนำบัตรเลือกตั้งใส่ในหีบบัตรเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจ หรือปลอมรายชื่อ / เพิ่มจำนวนบัตร ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี 7. ห้ามแสดงบัตรที่ลงคะแนนแล้วให้ผู้อื่นทราบว่าเลือกใคร ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 8. ห้ามรับเงินหรือผลประโยชน์เพื่อเลือกหรืองดเลือกผู้สมัครผู้ใด ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

แต่มีข้อยกเว้นว่า หากแจ้งกกต.ก่อนถูกจับ จะไม่ต้องรับโทษและไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 9. ห้ามทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุดโดยเจตนา ฝ่าฝืนมีโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท (ไม่ถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์) และ 10. ห้ามทำบัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือทำบัตรเสียให้ใช้ได้ มีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

เมื่อถามถึงการซื้อเสียง หัวละ 3,000 บาทที่จังหวัดกาฬสินธุ์ รองเลขาธิการกกต.กล่าวว่า สำนักงานได้รับข้อมูลจากสำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานเบื้องต้นเข้ามา ปรากฏภาพตามสื่อที่มีการเผยแพร่เรื่องของการแจกเงิน ซึ่งสำนักงานกกต.กาฬสินธุ์ แจ้งว่าได้ส่งชุดสืบสวนไต่สวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมแล้วว่าเป็นผู้ใดที่นำเงินมาแจกและผู้ใดได้รับไป และให้ชุดสืบสวน ชุดหาข่าวลงพื้นที่เพื่อดำเนินการ หากมีความปรากฏก็ปฏิบัติตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้รองเลขากกต.ยังเชิญชวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตเทศบาลทั่วประเทศยกเว้นกรุงเทพมหานครออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งซึ่งถือเป็นการแสดงพลังของประชาชน เพื่อกำหนดการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองเป็นหลักฐานสำคัญของประชาธิปไตยที่ยั่งยืน และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมขับเคลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ให้สุจริตและเที่ยงธรรม ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงเชิญชวนประชาชนติดตามการรายงานผลคะแนนเลือกตั้งในช่องทางต่างๆ หรือสอบถามสายด่วน 1444


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการเปิดหีบลงคะแนน ปรากฏว่า มีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิ์ อย่างคึกคัก แม้จะมีอุปสรรคเรื่องดินฟ้าอากาศก็ตาม