วันที่ 9 พ.ค. 2568 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom ระบุว่า
#ไขคำตอบว่าใครเป็นใครและข้อกังวลใจชั้น14
ผมได้รับการถามจากสื่อว่า คาดเดาได้ไหม แพทยสภาลงมติฟันหมอ 3 คนมีใครบ้าง และอีกคำถามคือถ้ารัฐมนตรียับยั้งมตินี้จะเกิดอะไรขึ้น และทำไมมีแค่หมอ 3 คน
ในฐานะที่เป็นแพทย์ ผมเชื่อว่าแม้จะไม่มีการประกาศรายชื่อ ผู้ที่ถูกลงโทษ แต่วิเคราะห์จากคำแถลงของกรรมการแพทยสภา น่าจะพอคาดเดาได้ว่ามีใครบ้าง
รายแรกที่ถูกลงโทษตักเตือน โดยเหตุผลการออกใบส่งตัวนักโทษ เมื่อนักโทษถูกส่งตัวจากเรือนจำ แพทย์ท่านนี้ ต้องเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ น่าจะเป็นแพทย์เวรด้วย เพราะเกี่ยวข้องกับการส่งตัว คนเป็นผอ.คงไม่ได้มาเกี่ยว เรื่องการรักษาพยาบาล
ส่วนอีกสองท่าน ที่ถูกพักใบประกอบวิชาชีพ กรรมการแพทยสภา ระบุชัดเพราะเรื่อง ออกเอกสารไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ก็คือออกเอกสารเท็จ เพื่อช่วยเหลือนักโทษให้อยู่ชั้น14
ถ้าไปดูรายชื่อแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ ที่ป.ป.ช.ไต่สวน แม้จะมีแพทย์หลายท่านถูกไต่สวน แต่จะมีสองท่าน ที่เป็นผู้ออกใบรับรองแพทย์ ซึ่งน่าจะออกใบรับรองแพทย์ที่เป็นเท็จ คงจะคาดเดาได้ทันทีว่าเป็นใคร แพทย์2ท่านนี้เป็นใคร
ส่วนข้อกังวลว่าเรื่องนี้จะถูกส่งต่อรัฐมนตรีสาธารณะสุข เกรงว่าจะยับยั้ง ผมขออธิบายว่า ตามพรบ.วิชาชีพฯนั้น การพักใบประกอบวิชาชีพนั้น สูงสุดไม่เกิน 2 ปี รัฐมนตรีอาจหาเหตุมายับยั้งขอปรับลด ระยะเวลา การพักใบอนุญาต แต่ที่เขาจะยับยั้งไม่ได้เลยคือข้อเท็จจริง
ดังนั้นข้อเท็จจริงที่แพทย์ ออกใบรับรองแพทย์อันเป็นเท็จ เพื่อช่วยนักโทษ ที่ไม่ได้ป่วยวิกฤติ ให้นอนเล่นชั้นที่14 รัฐมนตรีไม่สามารถยับยั้งได้ เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
หลายคนถามผมว่า ทำไมคนถูกลงโทษน้อยจัง ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ผลของแพทยสภาเป็นแค่สารตั้งต้น ที่ลงโทษเฉพาะแพทย์ทางด้านจริยธรรม ส่วนการลงโทษอาญา ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าป.ป.ช.จะสาวถึงใครบ้าง ผมคิดว่าน่าจะตายยกรังครับ
ส่วนตัวการใหญ่ ที่เป็นนักโทษ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น่าจะใช้ประโยชน์จากผลสอบ ของแพทยสภาได้มาก เพราะเขายังไม่ติดคุก มีขบวนการช่วยเหลือเขา สุดท้ายผมเชื่อว่าหนี"