จับตา เลือกตั้งเทศบาลบุรีรัมย์ ชิงนายก 55 แห่ง ส.ท.61 แห่ง คาดแข่งเดือด "พี่ชาย มท.2" เจอศึกหนัก
สนามการเมืองท้องถิ่นของ จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะการเลือกตั้งเทศบาล จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้ง 61 แห่ง ใน 23 อำเภอ เป็นการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี(นายกฯ) และสมาชิกสภาเทศบาล(ส.ท.) จำนวน 55 แห่ง และเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล(ส.ท.) จำนวน 61 แห่ง โดยภายหลังจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดรับสมัครนายกเทศมนตรี(นายกฯ) และสมาชิกสภาเทศบาล(ส.ท.) เมื่อวันที่ 31 มี.ค.- 1 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา โดยกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 11 พ.ค. 2568 ทำให้อุณหภูมิการเมืองท้องถิ่นที่ดูคงที่กลับสูงขึ้นมาอีกครั้ง
สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้สมัครทั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล รวมทั้งสิ้น 1,484 คน แยกเป็น ผู้สมัครนายกเทศมนตรี 108 คน และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล 1,376 คน โดยมีผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล ถูกตัดสิทธิ์รับสมัคร 10 คน เหลือผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล 1,366 คน ส่วนผู้สมัครนายกฯ 108 คน มีคุณสมบัติครบทุกคน รวมยอดรับสมัครทั้งสิ้น 1,474 คน ในจำนวนนี้มีเทศบาล 16 แห่ง มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี เพียงคนเดียว ซึ่งผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง อดีตนายกเทศมนตรี อดีตสมาชิกสภาเทศบาล ข้าราชการบำนาญ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และเกษตรกร
โดยสนามเลือกตั้งที่ถูกจับตามองมากที่สุด คือ เทศบาลเมืองชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ เป็นการแข่งขันกันของสองกลุ่มการเมือง คือ “กลุ่มภูมิใจพลังชุมเห็ด” นำโดย ร.ต.ต.สมชาย ภิรมย์ชาติ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองชุมเห็ด สมัยที่ผ่านมา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองชุมเห็ด หมายเลข 1 หัวหน้าทีม “กลุ่มภูมิใจพลังชุมเห็ด” ซึ่งได้ลงป้องกันแชมป์ อีกสมัย พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ท.“กลุ่มภูมิใจพลังชุมเห็ด” จำนวน 18 คน ครบ ทั้ง 3 เขตๆ ละ 6 คน แข่งกับ “กลุ่มชุมเห็ดบ้านเรา” นำโดย นายพยุงรัฐ ชาเรืองเดช อดีตรองประธานสภา อบจ.บุรีรัมย์ หัวหน้าทีม ซึ่งได้ส่งผู้สมัคร ส.ท.“กลุ่มชุมเห็ดบ้านเรา” จำนวน 18 คน ครบ ทั้ง 3 เขตๆ ละ 6 คน เช่นกัน ซึ่งซึ่งทั้งสองคน ล้วนแต่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ และเคยอยู่กลุ่มการเมืองเดียวกันมาก่อน ที่จะมาแยกตัวตั้งทีมกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ลงสมัครรับเลือกตั้งเทศบาลเมืองชุมเห็ด ครั้งนี้ ทำให้การเลือกตั้งมีการแข่งขันเข้มข้นขึ้นมาทันที
ไปที่ เทศบาลเมืองประโคนชัย อ.ประโคนชัย ที่มีการแข่งขันเข้มข้นเช่นกัน มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี 3 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายวรณัฐ ศรีสุริยชัย อดีตนายกเทศมนตรีตำบลประโคนชัย สมัยที่ผ่านมา หมายเลข 2 นายจำรัส เวียงสงค์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ และหมายเลข 3 นายเพิ่มพูน ทองศรี อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ และ อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ พี่ชาย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย โดยสนามนี้คาดว่ามีการแข่งขันดุเดือด ต่างฝ่ายแพ้ไม่ได้ด้วยศักดิ์ศรีทางการเมือง
ส่วนที่เทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี 3 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายวีระเกียรติ รัมณีย์รัตนากุล อดีตผู้อำนวยการกองการสื่อสาร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ข้าราชการเกษียณ หมายเลข 2 นายธนะพัฒน์ จึงเรืองสิทธิ์ และหมายเลข 3 นายวินัย จีนโน อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 8 พรรคก้าวไกล
ขณะที่ เทศบาลตำบลสตึก อ.สตึก มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี 2 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายอภิชาต เจริญรัมย์ อดีตที่ปรึกษานายก อบจ.บุรีรัมย์ และ หมายเลข 2 นายวีรวิชญ์ พีรยศพัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลสตึก สมัยที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่ง ที่มีการแบ่งขั้วการเมืองชัดเจน ทำให้การแข่งขันเข้มข้นอย่างแน่นอน
และที่ เทศบาลตำบลโกรกแก้ว อ.โนนสุวรรณ มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี 2 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายเฉลิม วาวิลัย อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโกรกแก้ว สมัยที่ผ่านมา และ หมายเลข 2 นายบุญล้อม วงษ์สุวรรณ ผู้สมัครในนาม พรรคก้าวไกล
สำหรับการหาเสียงของผู้สมัครแต่ละคน เริ่มคึกคัก ทั้งผู้สมัครนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล พบว่าส่วนมากจะใช้วิธีการแนะนำตัวผ่านโซเชียล และจัดทีมงานออกไปติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ และมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปทั่วในเขตเลือกตั้งตลอดทั้งวัน ซึ่งยอมรับว่ามีการจัดตั้งทีมงานที่ไว้ใจได้ นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่ออกพบปะตามหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อขอคะแนนเสียงอีกด้วย
สนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล จ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษว่า จะมีการแข่งขันค่อนข้างเข้มข้น คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง จะการส่งทีมงานเข้าไปเจาะหาผู้นำในชุมชน หมู่บ้านให้ช่วยเป็นหัวคะแนน เพื่อพยายามเจาะฐานเสียงคู่แข่งโดยอาศัยญาติพี่น้อง และผู้ใกล้ชิด แบบน้ำซึมบ่อทราย ซึ่งจะเป็นคะแนนจัดตั้งมากกว่า
ท้ายที่สุดแล้ว ผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปใด คงต้องรอในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้ จะเป็นเครื่องชี้วัดได้ว่า พี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ จะเลือกใครเป็นนายกเทศมนตรี 55 แห่ง เข้ามาทำงาน และเลือกสมาชิกสภาเทศบาล ทั้ง 61 แห่ง เข้ามาเป็นปากเสียงในสภาเทศบาล ครั้งนี้