วันที่ 8 พ.ค. 68  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอให้มีการทำประชามติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ว่า มีการเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ว่า ยังไม่มีการพูดถึง และหากจะทำประชามติ ครม. จะต้องมีมติ เพราะเกี่ยวกับการใช้งบประมาณ ซึ่งทำครั้งหนึ่งประมาณ 3 - 4 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ร่างกฎหมายประชามติที่มีการแก้ไข ถูกพักไว้ 180 วัน ซึ่งจะครบในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อให้สภายืนยัน 

 

เมื่อถามว่า เมื่อสภาเปิดประชุมร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในระเบียบวาระเป็นลำดับแรกใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ยังอยู่ในลำดับที่หนึ่งเหมือนเดิม

 

เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอแนวทางการทำประชามติร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนตัดสิน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยกันใน ครม. เพราะ ครม. มอบหมายเพียงแค่ให้ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน

 

เมื่อถามว่า เสียงตอบรับจากการที่สส. พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ชี้แจงเป็นอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ประชาชนไม่มีอะไรขัดข้อง ส่วนใหญ่จะบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี อยากให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะสอดคล้องกัน

 

เมื่อถามว่า รัฐบาลพยายามทำความเข้าใจว่า สิ่งที่ทำคือเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ไม่ใชกาสิโน  ดังนั้นมีแนวคิดจะตัดกาสิโนออกไปหรือไม่ เพื่อที่จะให้ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านอย่างราบรื่น นายชูศักดิ์ ย้ำว่า แนวคิดดั้งเดิมของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์มีหลายสิ่งหลายอย่าง รวมถึงเรื่องนี้ด้วย ผู้ที่ทำกิจการเรื่องนี้ก็จะรวมกันไป เพราะแต่ละอย่าง แต่ละประเภทจะดึงดูดการลงทุน หากตัดส่วนนี้ไปจะกระทบต่อผู้มาลงทุน ซึ่งในกฎหมายระบุว่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ต้องมี 9 ประเภท ถ้าจะทำอย่างน้อยต้องทำ 4 ประเภท ซึ่งรวมถึงกาสิโน และอื่นๆด้วย

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการพูดคุยเรื่องการทำประชามติเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนี้ แล้วแต่แนวคิด ตอนนี้ตนคิดว่าเขาก็เปิดรับฟังกันถ้วนทั่วแล้ว

 

เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นว่าควรทำประชามติก่อนหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ควรทำ เพราะเราพูดเรื่องนี้กันมาช้านานแล้ว และก็มีความเห็นกันโดยทั่วไปอยู่แล้ว 

 

เมื่อถามว่า เสียงที่ประชาชนตอบรับมาเป็นอย่างไรบ้าง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เสียงส่วนใหญ่เขาก็โอเค เพียงแต่ว่ามีความเข้าใจผิดในเชิงว่า เป็นเรื่องของกาสิโนเพียงอย่างเดียว แต่พออธิบายแล้วเขาก็เข้าใจ เราก็ไปฟังกันมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้ว ถ้าจะทำประชามติโดยคิดว่า ทำแล้วจะจบ แต่สมมติว่าประชาชน 70% เห็นด้วยแล้วคุณคิดว่า ประชาชนอีก 30% เขายังโวยอยู่หรือไม่ เขาก็ยังปั่นอยู่