เครดิตบูโรรายงานสถานะหนี้ครัวเรือนล่าสุด-แนะแนวทางแก้ไข

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า

ขอรายงานภาวะหนี้สินครัวเรือนที่จัดเก็บข้อมูล​ในระบบเครดิตบูโร​ สิ้นสุดไตรมาสที่​ 1/2568​ ดังนี้นะครับ

หนี้สินครัวเรือนในภาพใหญ่ของประเทศอยู่ที่​ 16.2 ล้านล้านบาท

หนี้สินครัวเรือนที่มีการจัดเก็บในระบบเครดิตบูโรที่มาจากสถาบันการเงินกว่า​ 160 แห่งมีอยู่เท่ากับ​ 13.5 ล้านล้านบาท

หนี้เสีย,NPLs มีจำนวน​ 1.19 ล้านล้านบาทลดลงจากเดือนมกราคม​ 2568 จำนวน​ 3 หมื่นล้านบาท​ หนี้เสียนี้ครอบคลุมจำนวนลูกหนี้​ 5.15 ล้านคน, ​9.13ล้านบัญชี

เจาะลงมาในหนี้เสียตั้งแต่​ 1 แสนบาทลงมาพบว่า​มีอยู่เป็นจำนวนเงิน 1.2 แสนล้านบาทหรือประมาณ​ 10%ของยอดหนี้เสียนั้นครอบคลุมจำนวนรายของคนที่เป็นลูกหนี้​ 3.28ล้านคน, 4.44ล้านบัญชี​ ถ้าเรามีมาตรการแก้หนี้ตรงนี้แบบเบ็ดเสร็จ​ก็จะช่วยคนได้เป็นจำนวนหลายล้านคน​ หนี้ส่วนใหญ่คือหนี้ไม่มีหลักประกัน, เจ้าหนี้มีการกันสำรองเต็มร้อยไปแล้วตามมาตรฐาน​การบัญชี​ ที่สำคัญคือเจ้าหนี้ติดต่อไม่ค่อยจะได้​ แต่ลูกหนี้เหล่านั้นยังอยู่ในสังคมเรา ยังมีชีวิต​ ยังดิ้นรน​ฟันฝ่าอยู่​ ช่วยเขาตรงนี้ให้กลับมาเป็นกำลังในการทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ​ดีกว่าหรือไม่​ ฟ้องร้องบังคับคดี​ 10ปีมันคุ้มหรือไม่

...นี่คือคำถาม​ แน่นอนครับท่านที่ไม่เห็นด้วยก็จะบอกว่ามันจะบ่มเพาะนิสัย,วัฒนธรรม​ เป็นหนี้ไม่ใช้หนี้​ แต่ต้องเข้าใจความจริงของชีวิตในเศรษฐ​กิจยามนี้ว่า​ การเป็นหนี้เสีย​ ถูกตามหนี้เข้มข้น​ ถูกดำเนินคดี​ กู้เงินไม่ได้​ มันคือการลงโทษในหลายปีมานี้​ ไม่นับว่าช่วงโรคระบาดก็ไม่มีการรอลงอาญา​น่าจะมีสัดส่วนกับความผิดหลงที่ไม่จ่ายหนี้ของมูลหนี้ต่ำกว่าแสนบาทหรือไม่​ ขณะที่เจ้าหนี้ถ้าจะตัดสูญตัดใจก็ไม่น่าจะกระทบกำไรของท่านเท่าใดแล้ว​

อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการสำรองหนี้สูญก็น่าจะได้ประโยชน์​ทางภาษีอากรไปแล้วหรือไม่​ อัตราเปอร์เซ็นต์​ในการขายทิ้งให้กับ​ AMC ก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงมากมายอะไรหรือไม่... เราๆ ท่านๆลองคิดดูนะกันครับ​

หนี้กำลังจะเสียหรือ​ SM.ก็อยู่ในระดับที่​ 5.75 แสนล้านบาท​ เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนก็อยู่ที่​ 6.44 แสนล้านบาทลดลงมา​ yoy 10.8%

การเร่งปรับโครงสร้างหนี้หลังเป็นหนี้เสียหรือทำ​ TDR. นั้นมียอดคงค้าง​ 1.08 ล้านล้านบาทเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนก็อยู่ที่​ 1.07 ล้านล้านบาท​ yoy.แทบไม่ขยับ

แต่การทำ​ DR.หรือปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน, การปรับโครงสร้างหนี้ก่อนไหลมาไปเป็น​ NPLs.นั้นตอนนี้มาอยู่ที่​ 1.12 ล้านล้านบาทแล้ว​ ตัวเลขที่เพิ่ม​ QoQ. เพิ่มสูงถึง​ 31.7% สิ่งนี้มันสะท้อนได้บ้างว่า​ คนเป็นหนี้, ไปไม่ไหว, ผ่อนติดขัด​ เจ้าหนี้ถูกกติกาบังคับให้ต้องยื่นข้อเสนอให้ลูกหนี้ทำ​ DR.ตัวเลขมันขึ้นเร็วมากจากการรายงานครั้งแรกเมื่อเมษายน​ 2567 เขื่อนยักษ์​ DR.มันจึงยกสูงกั้นการไหลมาเป็น​ NPLs.อย่างที่เห็นกัน​

ประเด็นเล็กๆ คือ​ ลูกหนี้ที่ทำ​ DR. แล้วผ่อนได้ตามสัญญา​ DR.​ เขาคือคนที่มีแผล​ รบกับหนี้แล้วไม่ค่อยชนะ​ เขาควรได้ยาสมานแผลช่วย "ยี่ห้อ​ คุณสู้​ เราช่วย" เพราะเขาสู้ไงครับ​ เขาไม่ยอมแพ้จนไหลไปเป็น​ NPLs. ทำไมเราไปมองว่า​ เขาผ่อนได้ดีแล้ว​ จึงไม่ให้เขาเข้าร่วมโครงการ​ คุณสู้​ เราช่วย​

อยากให้มีมือที่เมตตา​ ใจที่เป็นธรรม​ ลดลงมาช่วยกันตรงนี้ดีมั้ย​ มันรมณีย์กว่าการไปพูดเอาหล่อเอาสวยมั้ย เพราะตอนนี้โครงการที่ตั้งใจไว้มันยังห่างเป้าทั้งจำนวนราย​ จำนวนเงินไม่ใช่เหรอครับ​ เงินที่เตรียมมาช่วยก็เหลือบานนี่ครับ​

จะเก็บถุงยังชีพ​ ห่วงยาง​ ยามเกิดภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลากเวลานี้​ เพื่อให้หนูแทะในโกดังเอาไว้รอเหตุแผ่นดินพิโรธ​ในครั้งหน้า... เพราะอะไร(ถามเป็นชื่อเพลงของพี่ป้าง จะได้ดูสุภาพเรียบร้อย)​

สุดท้ายต้องขออภัยนะครับที่ไม่เขียนรายงานเป็นภาษาอังกฤษ​ หรือพูดไทยคำอังกฤษ​คำตามวัฒนธรรม​นิยมของท่านๆนะครับ​ เรามันสำนึกตัวว่าเป็นเด็กบ้านนอกคอกนา ไม่ได้ร่ำเรียนสูงส่ง​ บ้านอยู่บนดอยครับ​ ไม่ได้อยู่บนหอคอย​ ก็ได้แต่โก่งคอขันเป็นไก่ทุกโมงยาม​ที่ข้อมูล​ใหม่ออกมา เผื่อเทวดาท่านๆจะได้สดับตรับฟัง​บ้าง..

รูปที่เหลือก็คือสิ่งสะกิดใจให้เราครวญ​คึดคำนึงว่าเราทำอะไรกันอยู่..

#การตัดสินใจไม่ทำอะไร, kick the can down the road, No Action Talk Only, มันคือนิยามของ​ moral hazard อย่างที่ท่านชอบพูดเหมือนกันนะครับผม

#เครดิตบูโร #หนี้ครัวเรือน #ข่าววันนี้ #หนี้เอ็นพีแอล #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์