ป.ป.ช.พิจิตร-ป.ป.ท.เขต6 รุมตรวจกรมน้ำซื้อเรือดูดโคลนสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกมูลค่านับร้อยล้านใช้งานไม่คุ้มค่าจอดทิ้งนานนับปี      

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นายวราพงษ์  อินต๊ะโมงค์  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.พิจิตร ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับ นายณรงวิทย์ สุวรรณสิทธิ์ ผอ.ปปท. เขต 6 ที่มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการ ปปท. เขต 6  ซึ่งนำโดย พ.ต.ท.ธนาชัย เวศอุไร ผอ.กลุ่มงานปราปปราม 2  , นายนนทพัฒน์ สิงห์ประยูร ผอ.กลุ่มงานป้องกันการทุจริตในภาครัฐ และ นางสาวชุติมน แปงคำเรือง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรณีที่ได้มีการนำเสนอข่าวเรื่องเครื่องจักรเรือดูดโคลนสะเทินน้ำสะเทินบกของกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน 2 ลำ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถูกจอดทิ้งไว้ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร(มจร.พิจิตร)  อ.เมือง จ.พิจิตร ไม่ได้ใช้งานและอาจไม่เกิดความคุ้มค่ากับเงินงบประมาณที่มาจากเงินภาษีของประชาชน  ที่ดำเนินการโดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่หนองหันตรา ซึ่งเป็นที่ตั้งของ (มจร.พิจิตร)  

ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า กรมทรัพยากรน้ำ ได้จัดซื้อเรือดูดโคลนสะเทินน้ำสะเทินบก จำนวน 8 ลำ งบประมาณ 464 ล้านบาท จากนั้นได้ส่งมอบเรือดูดโคลนดังกล่าวให้สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 3,5,7 และ 9 จำนวนหน่วยงานละ 2 ลำ ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 ได้รับมอบเรือดูดโคลนสะเทินน้ำสะเทินบก จำนวน 2 ลำ ราคาประมาณลำละ 57 ล้านบาท จากกรมทรัพยากรน้ำ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เพื่อนำไปใช้งานดำเนินโครงการปรับปรุงฟื้นฟูหนองหันตรา (งานดำเนินการเอง) บ้านบุ่ง หมู่ที่ 2 ต.บ้านบุ่ง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร งบประมาณปี 2565 งบก่อสร้างจำนวน 7.4 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเก็บกักน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค

โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ซึ่งมีข้อมูลว่าพื้นที่หนองหันตราดังกล่าวไม่ใช่ดินโคลน ดินทราย แต่เป็นดินดานที่มีสภาพแข็งทำให้เรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของกรมทรัพยากรน้ำ ไม่สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ จึงทำให้การพัฒนาแหล่งน้ำหนองหันตรา (มจร.พิจิตร)  จึงได้ใช้รถแบ็กโฮทำงานเสียมากกว่า ซึ่งโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หลังจากนั้นเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกทั้ง 2 ลำ ที่มีมูลค่า 114 ล้านบาท  จึงได้จอดตากแดดตากฝนทิ้งไว้ยาวนานกว่า 2 ปี 

โดย นายธนเดช แก้วสุวิบูลย์ รักษาการ ผอ.ส่วนเครื่องกล สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 ซึ่งได้รับมอบหมายจาก  นายนิมิตร โคตรบัว  ผอ.สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 ให้เป็นผู้ชี้แจงในการตรวจสอบครั้งนี้ว่าเนื่องจากหลังเสร็จสิ้นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำหนองหันตรา (มจร.พิจิตร) งบปี 65/66 จากนั้นไม่มีงบทำงานเครื่องจักรจึงได้จอดทิ้งไว้ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ไปดูแลตรวจเช็คเครื่องจักรเดือนละครั้ง โดยได้ทำการติดเครื่องทดสอบเครื่องจักรให้ดูก็ปรากฏว่ายังใช้งานได้ดี โดย ป.ป.ช.พิจิตร-ป.ป.ท.เขต 6 ได้ตรวจจำนวนชั่วโมงการใช้งานของเครื่องจักรทั้ง 2 ลำ ดังกล่าวมีการใช้งานจำนวนน้อยมาก

นายวราพงษ์  อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้พิจารณาและฟังจากข้อมูลงบประมาณที่จัดซื้อกับชั่วโมงของการใช้งานอาจไม่คุ้มค่าและเป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง ประกอบกับหากมีการขนย้ายเครื่องจักรไปยังพื้นที่ใหม่ต้องใช้งบประมาณในการขนย้ายประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมากต้องรองบประมาณจาก  กรมทรัพยากรน้ำจัดสรรให้ ทั้งนี้ คณะตรวจสอบได้เน้นย้ำให้หน่วยงานดำเนินการบริหารจัดการใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรโดยประสานงานจัดทำแผนงานโครงการบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ในการใช้ประโยชน์ร่วมกันให้เกิดความคุ้มค่าและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งได้ขอเอกสารพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป นอกจากนี้ตามที่มีข้อมูลว่า กรมทรัพยากรน้ำได้จัดซื้อเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเพื่อใช้ดูดโคลนดูดทราย 8 ลำ มูลค่า 462 ล้านบาท ให้กับพื้นที่อื่นๆด้วยนั้นก็จะให้  สนง.ป.ป.ช. ในส่วนกลาง และในส่วนภูมิภาคให้ช่วยตรวจสอบขยายผลว่า เครื่องจักรดังกล่าวมีการใช้งานคุ้มค่าหรือไม่อีกด้วยเช่นกัน

ในส่วนของ นายนิมิตร โคตรบัว  ผอ.สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 ก็ได้ส่งเอกสารชี้แจงมาให้ผู้สื่อข่าวว่า เรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกทั้ง 2 ลำนี้ ที่อยู่ใน (มจร.พิจิตร)  ในช่วงเดือน พฤษภาคม 68 นี้ มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำตามโครงการทุ่งหนองฝา จ.พิษณุโลก ก็จะย้ายเครื่องจักรดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ต่อไป