ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ให้การต้อนรับคณะอาสาสมัครชลประทาน โครงการชลประทานเชียงราย ศึกษาดูงานการบริหารจัดการน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล
เมื่อวันที่ 6 พ.ค.68 นายอัธยา อรรณพเพ็ชร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล พร้อมด้วย นายธีรัตน์ พันธุประกิจ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม นายปฎิพล รอดบุญฤทธิ์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน และเจ้าหน้าที่โครงการ ให้การต้อนรับคณะอาสาสมัครชลประทาน โครงการชลประทานเชียงราย ในโอกาสเดินทางมาศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ในหลักสูตร การพัฒนาทักษะการบริหารจัดการน้ำให้แก่อาสาสมัครชลประทาน หลักสูตร 1 วัน ของฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานเชียงราย ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ ตำบลช่อแล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับการศึกษาดูงานในครั้งนี้ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ได้บรรยายความเป็นมาของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ซึ่งเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ในพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีลักษณะเป็นเขื่อนดินประเภทดินหลายชนิดถมบดอัดแน่น (Zoned Embankment) แห่งแรกที่ออกแบบและก่อสร้างโดยกรมชลประทาน โดยเริ่มก่อสร้างโครงการเต็มรูปแบบ ใน พ.ศ. 2520 จนแล้วเสร็จ พ.ศ. 2528 มีความจุที่ระดับเก็บกัก 265 ล้านลูกบาศก์เมตร ความยาวสันเขื่อน 1,950 เมตร สูง 59 เมตร ส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรกรรม การอุปโภคบริโภค และการรักษาระบบนิเวศน์ ในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนบน (จังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน) ตั้งแต่ อ.แม่แตง อ.สันทราย อ.แม่ริม อ.เมือง อ.หางดง อ.สารภี อ.สันป่าตอง อ.ดอยหล่อ อ.จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ และ อ.เมือง อ.ป่าซาง อ.เวียงหนองล่อง อ.บ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน รวมพื้นที่ 280,000 ไร่ จากนั้นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและหัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน ร่วมนำเสนอข้อมูลภาพรวมของสถานการณ์น้ำในปัจุบันและมาตรการในการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล
ต่อมา ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล พร้อมหัวหน้าฝ่าย นำคณะศึกษาดูงานเยี่ยมชมภูมิทัศน์และระบบการระบายน้ำบริเวณสันเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ซึ่งนับได้ว่าการศึกษาดูงานในวันนี้คณะอาสาสมัครชลประทาน จากโครงการชลประทานเชียงรายและโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ในการบริการจัดการน้ำชลประทานร่วมกัน เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการบริหารจัดการน้ำชลประทานให้แก่ให้พื้นที่เกษตรกรรมของเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ต่อไป


