วันที่ 7 พ.ค.68 ที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดแถลงข่าวเนื่องในวาระทำงานครบรอบ 3 ปี ของทีมผู้บริหาร กทม. นำโดย นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

นายชัชชาติ กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะพูดคือ 3 ปีที่ผ่านมา เห็นความหวังและโอกาสที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง ยืนอยู่ในภูมิภาคและโลกอย่างมีศักดิ์ศรี ทั้งหมดไม่ใช่ผลงานของผู้บริหาร แต่เป็นผลงานของทุกคนที่ร่วมมือกัน เชื่อว่าความร่วมมือกันอย่างจริงจังจะเอาชนะสิ่งที่ยากได้ ยกตัวอย่างระบบราชการที่ล่าช้าเช้าชามเย็นชาม ไม่สนใจประชาชน ไม่ประสานงาน กทม.แก้ปัญหาด้วยแอปพลิเคชัน Traffy Fondue เพื่อกระจายอำนาจสู่ประชาชน สร้างความโปร่งใส จากข้อมูลล่าสุด (6 พ.ค.68) พบมีประชาชนร้องเรียนผ่าน Traffy Fondue จำนวน 934,961 เรื่อง แก้ไขเสร็จสิ้น 757,354 เรื่อง แก้ปัญหาเฉลี่ยเรื่องละ 1.9 วัน

ด้านการจัดระเบียบหากเร่แผงลอยนอกจุดผ่อนผันมากกว่า 446 จุด ซึ่งมีจำนวนผู้ค้าลดลงกว่า 5,300 ราย ทั้งตลาดโบ๊เบ๊ ถนนหลังสวน ตลาดลาว เป็นต้น โครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น ปัจจุบันปลูกไปแล้ว 1,859,894 ต้น คาดว่าหมดวาระน่าจะถึง 2,000,000 ต้น สวน 15 นาทีดำเนินการไปแล้ว 199 สวน สู่เป้าหมาย 500 สวน พัฒนาทางเท้าดี ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 1,100 กิโลเมตร กรุงเทพฯ ต้องสว่างเปลี่ยนไฟ LED ไปแล้วมากกว่า 115,000 ดวง ตั้งเป้าจะเปลี่ยนอีก 20,000 ดวงในสมัยที่ตนเองเป็นผู้ว่าฯ กทม. ปรับปรุงทางม้าลายไปแล้ว 2,100 แห่ง ปรับลดความเร็วสูงสุดในกรุงเทพเหลือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากสถิติปี 2567 การตายลดลง 9% แต่ในปี 2568 เพียง 3 เดือนแรกของปีพบผู้เสียชีวิตลดลง 16% หรือมีเพียง 193 เคส

ด้านโครงการไม่เทรวม ลดประมาณขยะได้กว่า 1,300 ตันต่อวัน ประหยัดค่าเก็บขน 2,000 ล้านบาทและค่ากำจัดขยะ 1,200 ล้านบาท ทั้งยังปรับปรุงภูมิทัศน์คลองใน กทม.และพัฒนาถนนสวย 50 เขต 57 เส้นทางระยะทาง 130 กิโลเมตร ด้านตรวจสุขภาพล้านคน ยกฐานข้อมูลสุขภาพขึ้นออนไลน์ นำไปสู่การวางแผนด้านสาธารณสุขของ กทม. Health Tech เพิ่มประสิทธิภาพการส่งต่อผู้ป่วยจนจบกระบวนการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกับอบรม AI ให้กับบุคลากร กทม.และตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน AI

นายชัชชาติ กล่าวว่า เทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเมืองได้อย่างรวดเร็ว เช่น โครงการห้องเรียนดิจิทัล พัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนในสังกัด กทม.ด้วย AI  ติดตั้งสัญญาณจราจรแบบอัตโนมัติ 72 จุด ใช้กล้อง AI อ่านป้ายทะเบียนรถบรรทุก ตรวจสอบ Green List เพื่อควบคุม Low Emission Zone เปิดเผยข้อมูลงบประมาณในรูปแบบ Machine readabe การทำ Open data-Open contract เพิ่มความโปร่งใส เปิดการขอใบอนุญาตก่อสร้างแบบออนไลน์ การขอใบอนุญาตทั้งหมดที่สำนักงานเขตต้องเข้าระบบ Online BMAOSS

ด้านโครงการ Food Banks ทั้ง 50 เขต สร้างความเชื่อมั่นด้านการเปิดกว้างและความหลากหลายผ่านกิจกรรม Pride Month และสมรสเท่าเทียม นอกจากนี้ กทม.มีการจ้างงานคนพิการเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีการจ้างงานคนพิการ 415 คน โดยเป้าหมายคือจะต้องจ้างงานคนพิการทั้งหมด 636 คนหรือ 1% ของข้าราชการทั้งหมด

"ปีแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง เกิดสถานการณ์ฝนตกหนัก 800 มม. เดิมมีจุดเสี่ยงน้ำท่วมใน กทม. อยู่ 12 จุด แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวมีจุดเสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มเป็น 737 จุด 3 ปีที่ผ่านมาแก้ไขไปแล้ว 70% เชื่อว่าที่ผ่านมาน้ำท่วมลดลงอย่างชัดเจน เนื่องจาก กทม.เตรียมรับมือน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เหตุการณ์รถบรรทุกน้ำหนักเกินทำถนนชำรุดที่ซอยสุขุมวิท 64/1 กทม.ได้จัดสรรงบประมาณซื้อเครื่อง จับน้ำหนักบนสะพานและตั้งด่านจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน จับได้กว่า 1,200 คัน เพื่อส่งให้ศาลดำเนินคดีต่อ หรือเหตุการณ์ลู่วิ่ง ที่เป็นวิกฤตความโปร่งใส กทม.ขันนอตเข้มงวดกับกระบวนการงบประมาณทั้งขาขึ้นขาลง ร่วมมือกับ ป.ป.ช. ป.ป.ท. และ ป.ป.ง.เพื่อตรวจสอบผู้กระทำผิด จากข้อมูลปี 66-67 กทม. ลงโทษไล่ข้าราชการทุจริตแล้ว 28 คน"

นายชัชชาติ กล่าวว่า ผลงานแสดงถึงความหวังและโอกาสที่ทำให้เมืองได้ดีขึ้น โดยหัวใจของการทำงาน เราเริ่มจากเมืองน่าอยู่ แต่เรามีปัญหาประสิทธิภาพ  ดังนั้น กทม.ต้องเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตและเป็นเมืองที่มีประสิทธิภาพ หัวใจคือ ความไว้วางใจ (Trust) หากเราไม่มีความไว้วางใจก็ยากที่จะหาภาคีเครือข่าย เรายืนตรงนี้ได้ 3 ปี เพราะเขาไว้วางใจว่าเราเอาจริง หลักในการสร้างความไว้วางใจคือ “การคิดดี ทำดี และความเข้าอกเข้าใจ” ยกตัวอย่าง การตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68ภายใน 35 นาที พร้อมกับมีการให้ข้อมูลสื่อสารที่ชัดเจนทั้งคนไทยและแรงงานชาวต่างชาติ มีข้อสั่งการพร้อมกับเปิดสวนสาธารณะ 24 ชั่วโมงเพื่อดูแลประชาชนที่ไม่สามารถกลับบ้านได้ ร่วมมือกับ AirBnb จัดหาที่พักให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวฟรีใช้เครดิตรวม 8,540 คืน พร้อมกับแจ้งปัญหาทางร้าวผ่าน Traffy Fondue กว่า 20,000 เคส ซึ่งมีวิศวกรอาสากว่า 130 คนช่วยตรวจตรวจสอบอาคาร  กทม.ยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยประสานงานแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

"สำหรับโครงการสำคัญในอนาคต มีแผนที่จะใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อนสนับสนุนรถเมล์ให้เข้าถึงในทุกชุมชน  Bangkok Public Square พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อประชาชน แก้ไข พ.ร.บ.กรุงเทพ  Business Lab เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีพื้นที่ขายของทั้งแบบ Online Onsite เจรจาคืนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้รัฐบาลเป็น Single Owner ใช้บัตรใบเดียวให้ได้ สร้างหอศิลป์ฝั่งธนา ซึ่งเริ่มออกแบบไปแล้ว รวมถึง แก้ปัญหาจราจรด้วยระบบสัญญาณไฟอัตโนมัติและศูนย์ควบคุมข้อมูลกลาง เดินหน้าขยายบริการสาธารณสุข เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลในเขตภาษีเจริญ สายไหม และทุ่งครุ Personalize Education เน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาศึกษา แยกขยะทั้งระบบ สวนสาธารณะใหม่ และศูนย์กีฬาใกล้เมือง ขยาย Low Emission Zone ให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพ" นายชัชชาติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลงผู้ว่าฯ กทม.สมัยหน้าหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ขอทำงานให้ครบ 4 ปีก่อน ถึงวันนั้นค่อยว่ากันอีกครั้ง ส่วนเรื่องการให้คะแนนตัวเอง ให้ 5 คะแนน ที่จริงไม่ควรให้คะแนนตัวเอง ต้องให้คนอื่นให้คะแนน ส่วนการปรับทีมรองผู้ว่าฯ กทม.หรือฝ่ายบริหาร กทม.ยังไม่มีแนวคิดตอนนี้

ส่วนด้านการปราบทุจริต การสอบวินัยอาจช้า เพราะเป็นไปตามกระบวนการของคณะกรรมการ อยู่นอกเหนืออำนาจฝ่ายบริหาร จึงต้องร่วมกับหน่วยงานนอกช่วยตรวจสอบ เช่น ป.ป.ช, ป.ป.ท เนื่องจากผู้ทุจริตส่วนใหญ่รู้ช่องว่างกฎหมายในกระบวนการตรวจสอบภายใน เช่น อำนาจจำกัดต่าง ๆ ส่วนโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต มีแนวคิดจัดหาสถานที่แสดงกีฬาและดนตรีขนาดใหญ่ โดยร่วมกับภาคเอกชน เป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ