ผบช.ภ.8 สั่งเอาผิด "สาวแสบ" หลอกขายตั๋วเครื่องบินราคาถูก เหยื่อ 50 รายบินไม่ได้
วันที่ 6 พ.ค.68 ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการ ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ให้เร่งรัดจับกุมตัวผู้ต้องหาผู้ต้องหา นางสาวแก้วตา อายุ 32 ปี อยู่ ม.5 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชนโดยกรณีดังกล่าวเหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. ถึง 20.00 น. มีผู้เสียหาย กลุ่มบุคคลประมาณ 20 คน และคาดว่าอาจจะมีผู้เสียหายถึง 50 คน นั้น
ล่าสุดได้รายงานจาก พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุขผกก.สภ.บ่อผุด ถึงความคืบว่าคดีดังกล่าวว่า ได้รายงานความคืบถึง พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานีและ ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และได้สั่งการให้เร่งสืบสวน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า “เป็นการหลอกขายตั๋วเครื่องบิน”พนักงานสอบได้รับแจ้งความใว้เมื่อเวลา 14.55 น. ลง 21 เมษายน 2568 ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. ถึง 20.00 น.มีผู้เสียหาย กลุ่มบุคคลประมาณ 20 คน และคาดว่าอาจจะมีผู้เสียหายถึง 50 คน
สำหรับรายละเอียด ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ขณะที่ ร.ต.อ.ศิรชัช กามูณี รอง สว.(สอบสวน)สภ.บ่อผุด ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน ได้มีกลุ่มคนประมาณ 20 คน ได้เข้ามา สภ.บ่อผุด พบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวแก้วตา ที่ได้หลอกลวงเงินของพวกตนไป โดยแจ้งว่าพวกตนได้ติดต่อกับนางสาวแก้วตา เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษ ทั้งสายการบินในประเทศและต่างประเทศ (โดยพวกตนไม่ได้รู้จักกันแต่แรกแต่อย่างใด) ซึ่งการซื้อตั๋วในช่วงแรกสามารถซื้อได้จริงและสามารถขึ้นเครื่องได้จริง และราคาจะถูกว่าปกติประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยนางสาวแก้วตา แจ้งว่าเป็นตั๋วราคาพิเศษของพนักงานในสนามบิน ซึ่งนางสาวแก้วตา รู้จักสนิทสนมกับคนในสนามบิน จึงสามารถสั่งซื้อตั๋วดังกล่าวได้ โดยนางสาวแก้วตา จะให้ผู้สั่งซื้อตั๋ว โอนเงินเข้าบัญชีของตนก่อนตามจำนวนที่ระบุเป็นกรณีไป โดยแจ้งว่าสามารถใช้บริการตั๋วดังกล่าวเมื่อไหร่ก็ได้ ภายในปี 2569 และมีข้อแม้ว่า จะต้องไม่ใช่วันที่เป็นช่วงวันเทศกาลและต้องแจ้งวันที่ต้องการใช้ตั๋วก่อนประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งพวกตนได้หลงเชื่อเนื่องจากมีบุคคลที่รู้จักแจ้งว่าเคยใช้บริการกับนางสาวแก้วตา แล้วสามารถใช้ตั๋วได้จริง จึงได้สั่งซื้อตั๋วไป
ต่อมา เมื่อพวกตนต้องการใช้ตั๋วดังกล่าว ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อ นางสาวแก้วตา ได้ และมีหลายคนได้โพสต์ในเฟสบุคคลชื่อเพจรวมพลคนเกาะสมุย เนื้อความว่า”ได้สั่งซื้อตั๋วเครื่องบินกับนางสาวแก้วตาฯ แต่ไม่สามารถใช้ได้จริง” พวกตนจึงเชื่อได้ว่าถูกหลอกลวง จึงได้รวมกลุ่มกันและมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ด าเนินคดีตามกฎหมายกับนางสาวแก้วตา ที่ได้หลอกลวงให้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ในความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
จากการสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายเบื้องต้น สรุปได้ว่า นางสาวแก้วตา ได้หลอกลวงกลุ่มผู้เสียหายว่าสามารถสั่งซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษ ทั้งสายการบินภายในประเทศและต่างประเทศ กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินให้นางสาวแก้วตา ไป แต่เมื่อต้องการใช้ตั๋วที่สั่งซื้อ ปรากฏว่าไม่สามารถใช้งานได้จริงสิ่งที่ดำเนินการแล้ว ได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้เบื้องต้น และได้นัดหมายให้ผู้เสียหายให้มาสอบปากคำเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และคาดว่ากรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายประมาณ 50 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายโดยประมาณ 3,672,890 บาท พนักงานสอบสวนจึงได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว และจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจาก สน.โคกคราม ให้ไปพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 ในวันเดียวกันได้ส่งหมายไปยังที่อยู่ตามภูมิลำเนาผู้ต้องหา ปรากฏว่าไม่มีผู้รับหมาย วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 จึงรายงานการส่งหมายให้ สน.โคกคราม ทราบ เบื้องต้น สภ.บ่อผุด ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 2 ครั้ง แต่ไม่มีผู้รับหมาย ซึ่งครบกำหนดหมายครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 สิ่งที่ดำเนินการต่อไป ขออนุมัติศาลจังหวัดเกาะสมุยออกหมายจับ นางสาวแก้วตา ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 มีพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ร.ต.อ.ศิรชัช กามูณี รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ่อผุด ตนได้สั่งเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการ