สารพัดจะเรียกขาน กับสถานการณ์ภายใน “เฮติ” ประเทศในหมู่เกาะอินดิสตะวันตก ย่านทะเลแคริบเบียน ทวีปอเมริกา ณ เวลานี้
ที่บ้างก็ว่า เป็นรัฐล่มสลายบ้าง ประเทศที่มีภาวะไร้ขื่อแป บ้านป่าเมืองเถื่อนบ้าง ประเทศที่มีสภาพนรกบนดินบ้าง ซึ่งแต่ละวลีที่เรียกขาน ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ สภาพของประเทศเฮติ มีความปั่นป่วน ในระดับเลวร้ายอย่างสุดขั้วเพียงไร เพราะถึงขั้นที่กลุ่มอาชญากรรม หรือแก๊งอันธพาล มีอิทธิพลในเฮติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ล้วนตกอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มวายร้ายเหล่านี้
สาเหตุปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ก็คือ แก๊งอันธพาล หรือกลุ่มอาชญากรรม ที่มีอำนาจบาตรใหญ่ จนกลายเป็นแก๊งอันธพาลครองเมืองไปในที่สุด อันเป็นผลทั้งจากการที่ทางการปล่อยปละละเลย และนักการเมือง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร หรือแม้กระทั่งนักธุรกิจต่างๆ ก็ใช้แก๊งอันธพาลเหล่านั้นเป็นมือเป็นไม้ สร้างอำนาจมืดให้แก่ตน ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มนักรบรับจ้างต่างชาติ หรือทหารรับจ้างต่างชาติต่างๆ ในเฮติ ก็สร้างเครือข่ายกลุ่มอาชญากรรมในเฮติเอาไว้ใช้งาน ซึ่งมีรายงานด้วยว่า นักการเมืองระดับนายกรัฐมนตรีครั้งอดีตของเฮติ และบิ๊กตำรวจใหญ่บางนายในเฮติ ก็เป็นหัวหน้าขบวนการแก๊งอาชญากรรมในเฮติกันเลยก็มี
ยกตัวอย่างนักการเมืองที่ใช้แก๊งอาชญากรรมกลุ่มหนึ่งเป็นมือไม้ จนถูกทางการของเหล่าประเทศตะวันตก เช่น แคนาดา คว่ำบาตร หรือแซงก์ชัน อาทิ นายฌอง อองรี ซองต์ นายกรัฐมนตรีคนที่21 ของเฮติ ซึ่งนายฌอง เฮนรี ซองต์ ผู้นี้ก็ถูกม็อบประท้วง และ ชแก๊งอาชญากรรมอีกกลุ่มหนึ่งเข้าผสมโรงกับม็อบ ชุมนุมกดดัน จนต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป
นอกจากนักการเมืองแล้ว ก็ยังมีบิ๊กนายตำรวจ อย่าง “นายจิมมี เชริซิเยร์” วัย 47 ปี เจ้าของฉายา “บาร์บีคิว” ก็เป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากรรม ที่กล่าวกันว่า เป็นแก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดแก๊งหนึ่งในเฮติเลยทีเดียวก็ว่าได้ เพราะมีแก๊งอาชญากรรมอื่นๆ มาร่วมเป็นพันธมิตรถึง 9 แก๊งด้วยกัน เรียกว่า แก๊ง “จีไนน์” หรือ “จี9” (G9) ซึ่งเข้ามาผนวกรวมตัวกันตั้งแต่ปี 2020 (พ.ศ. 2563)
ส่งผลให้เฮติ กลายสภาพมิคสัญญีในเวลาต่อมา ถึงขนาดที่เกิดเหตุมือปืนบุกเข้าไปสังหารประธานาธิบดี ผู้นำประเทศ ถึงในบ้านพักจนเสียชีวิต ส่วนภริยาของประธานาธิบดีได้รับบาดเจ็บ ก็เคยมีมาแล้ว
อย่างกรณีของประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส ถูกคนร้ายบุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงภายในบ้านพัก ที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศ จนเสียชีวิต ส่วนนางมาร์ทีน โมอิส ภริยาของประธานาธิบดีโฌเนแวล ก็ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2021 (พ.ศ. 2564)
ตามการสันนิษฐานเบื้องต้น ก็ระบุกันว่า แก๊งอาชญากรรมโดยกลุ่มทหารรับจ้าง หรือนักรบรับจ้างต่างชาติ น่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุสังหารประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส
กล่าวถึงประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส แห่งเฮติ ผู้ล่วงลับไปแล้วจากกระสุนปืนสังหารของคนร้ายนั้น ก็ต้องบอกว่า “มิใช่ย่อยเหมือนกัน” เพราะ “พรรคเทตเคล” ที่เขาเป็นหัวหน้าพรรคด้วยนั้น ก็มีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม “จีไนน์” หรือ “จี9” แก๊งอาชญากรรมที่นายจิมมี เชริซิเยร์ อดีตนายตำรวจใหญ่เป็นหัวหน้าแก๊ง และด้วยเหตุนี้ ก็มีเคยมีการวิเคราะห์กันด้วยว่า ทำให้แก๊งจีไนน์ หรือจี9 เติบใหญ่ขยายตัวมีอำนาจแทบจะคับฟ้าในเฮติ เพราะมีพรรคเทตเคล ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลให้การหนุนหลัง
ความยิ่งใหญ่คับฟ้าประเทศเฮติ ก็ถึงขนาดก่อม็อบ บุกยึดท่าอากาศยานนานาชาติเพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นในการขับไล่ “นายอาเรียล อองรี” ต้องกระเด็นตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของเฮติมาแล้ว เมื่อช่วงต้นปี 2024 (พ.ศ. 2567) ที่ผ่านมา ชนิดที่ “สหรัฐอเมริกา” ซึ่งให้การสนับสนุนต่อ “นายอาเรียล อองรี” ก็ได้แต่ทำตาปริบๆ คือ ช่วยอะไรนายอาเรียล อองรี ไม่ได้
มิใช่แต่พรรครัฐบาลเฮติเท่านั้น ที่มีแก๊งอาชญากรรมเป็นมือเป็นไม้ แม้แต่ทางพรรคฝ่ายค้าน ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะมีแก๊งอาชญากรรมไว้ใช้งานทั้งในแบบเทาๆ หรือลามเลยไปถึงด้านดำๆ มืดๆ กันไปเลย เป็นแก๊งอาชญากรรมที่มีชื่อว่า “แก๊งเป๊ป” ซึ่งถือเป็นคู่แข่งสำคัญของแก๊งจีไนน์ หรือจี9
ทั้งนี้ จากการที่เหล่านักการเมือง และบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย ไปเกี่ยวข้องสนับสนุนกับพวกกลุ่มอาชญากรรม แก๊งอันธพาลเหล่านั้น ก็ถึงขนาดทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ต้องจัดประชุม หยิบยกประเด็นปัญหาแก๊งอาชญากรรมในเฮตินี้ขึ้นมาถกบนโต๊ะประชุมกันมาแล้ว
นอกจากสองแก๊งฯใหญ่ดังกล่าวแล้ว เฮติก็ยังแก๊งอันธพาล กลุ่มอาชญากรรมอื่นๆ ที่มีความยิ่งใหญ่จากความโหดร้ายอันน่าสะพรึง
อาทิกลุ่ม “วิฟ อองซองม์”และกลุ่ม “กรานกริฟ”เป็นต้น
โดยทั้งสองกลุ่มอาชญากรรมข้างต้น ต้องถือว่า มีความโหดเหี้ยมร้ายกาจ จากการก่ออาชญากรรมสารพัดอย่างน่าสะพรึง
อย่างแก๊ง “วิฟ อองซองม์” เคยสร้างความสะเทือนขวัญให้แก่ชาวเฮติ ด้วยการเข่นฆ่าผู้เฒ่า ผู้สูงอายุทั้งหลาย หากต้องสงสัยว่าเป็นพ่อมด แม่มด หลังเกิดเหตุบุตรชายของหัวหน้าแก๊งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ก็ทึกทักเอาว่า เพราะถูกพ่อมด แม่มด ผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านี้ ใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำจนทำให้บุตรชายหัวหน้าแก๊งจนล้มป่วย
เช่นเดียวกับแก๊ง “กรานกริฟ” ก็สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่วงการตำรวจ จนทางแวดวงสีกากีเอง ต่างพากันขยาดกันเป็นแถว เมื่อแก๊งวายรายแก๊งนี้ สังหารตำรวจไปถึง 18 ศพ
ความร้ายกาจของทั้งแก๊งอาชญากรรมทั้งสองนี้ ก็ถึงขนาดทำให้ “กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ” ระบุให้เป็น “กลุ่มก่อการร้าย” กันเลยทีเดียว
โดยกำหนดให้ “องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ” หรือ “เอฟทีโอ” (FTO : Foreign Terrorists Organizations) และ “ผู้ก่อการร้ายระดับโลกที่ได้รับการกำหนดเป็นพิเศษ” หรือ “เอสดีจีที” (SDGT : Specially Designated Global Terrorists)
เรียกว่า ความร้ายกาจของแก๊งอันธพาลเหล่านี้ เลยคำว่ากลุ่มอาชญากรรม แต่เป็นกลุ่มก่อการร้ายไปแล้ว ซึ่งแม้แต่ทางสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ก็ยังยอมรับว่า สถานการณ์แก๊งอาชญากรรม ถลำเข้าไปสู่จุดที่ไม่อาจหวนกลับ หรือพอยน์ ออฟ โน รีเทิร์น (point of no return) ไปแล้ว