ปลาถือเป็นอาหารหลักของคนไทย และอยู่ในวิถีชีวิตของไทยมาช้านาน และปลาหมอคางดำจากปลาเอเลี่ยนสปีชี่ส์ก็เป็นหนึ่งในฐานะวัตถุดิบที่สามารถแปรรูปเป็นเมนูอร่อยๆ บนโต๊ะอาหารได้หลากหลายและให้คุณค่าทางโภชนาการไม่แพ้ปลาน้ำจืดชนิดอื่น นอกจากนำมาบริโภคได้ ยังช่วยสร้างโอกาสในแปรรูปสู่อาหารจานอร่อยบนโต๊ะอาหาร และช่วยกู้ระบบนิเวศแหล่งน้ำของไทย สู่การสร้างความมั่นคงทางอาหารและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน

ด้วยภูมิปัญญาของคนไทยสามารถนำปลาหมอคางดำที่มีจุดมาสร้างเป็นจุดแข็งเป็นเมนูง่ายๆ ประจำบ้าน เช่น “ปลาแดดเดียว” ที่ได้รับความนิยมในหลายจังหวัด อย่างในจังหวัดนนทบุรีใช้เป็นกลยุทธ์สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนช่วยควบคุมประชากรปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำ โดยจังหวัดแจก “ข่าย” เป็นเครื่องมือดักจับปลาให้แก่บ้านที่อยู่ริมคลองได้ใช้จับปลาหมอคางดำขึ้นมาทำอาหารบริโภคภายในครัวเรือน ช่วยประหยัดค่าครองชีพให้กับประชาชน และปัจจุบันมีชาวบ้านได้ขายปลาแดดเดียวเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ 

นอกจากนี้ บางชุมชนได้ร่วมมือกับสถาบันศึกษาหลายแห่งพัฒนาเป็นเมนูใหม่ ๆ เช่น ปลาหมอคางดำทอดเกลือ และน้ำปลา ภายใต้การนำของเกษตรกรที่มีความชำนาญ การพัฒนานวัตกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับปลาหมอคางดำ แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ในด้านรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกร ชาวบ้าน และวิสาหกิจชุมชน

การแปรรูปหมักเป็น “ปลาร้า”  ซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมทั่วประเทศ ทำให้ปลาชนิดนี้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ โดยเฉพาะจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีส่วนร่วมในการผลิต โดยใช้เทคนิคการหมักที่ทำให้รสชาติถูกปาก เป็นอีกสินค้าที่ช่วยสร้างเม็ดเงินได้ และในระหว่างที่รอการหมักเป็นปลาร้าเข้มข้นประมาณ 8 เดือน ชาวบ้านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนยังได้นำมาต่อยอดแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ปลาหมอแดดเดียว น้ำพริกแจ่วบอง น้ำพริกปลาร้าทรงเครื่อง เป็นต้น  ส่วนหัวปลายังนำมาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพสำหรับใช้ใส่แปลงผักอีกด้วย ที่สามารถนำมาจำหน่ายเป็นรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย

นอกจากปลาร้าแล้ว เกษตรกรจากจังหวัดเพชรบุรียังริเริ่มนำปลาหมอคางดำมาหมักเป็น “น้ำปลา” จากทำกินเองภายในครอบครัว และปรับสูตรทั้งปริมาณเกลือที่ปริมาณเนื้อปลาเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากคนไทย สามารถผลิตออกมาจำหน่ายเป็น “น้ำปลา” ตราชาววัง เป็นสินค้าประจำจังหวัดเพชรบุรีอีกด้วย

ด้านกรมราชทัณฑ์ยังใช้ปลาหมอคางดำเป็นโอกาสให้กับผู้ต้องขัง ไม่เพียงการส่งเสริมการทำงานสาธารณะในกิจกรรมกำจัดปลาหมอคางดำที่จัดขึ้นโดยกรมประมง ขณะเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ยังนำปลาที่จับได้มาทำเป็นอาหารสวัสดิการ สำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังอีกด้วย และยังร่วมมือกับกรมประมงและกรมราชทัณฑ์ถ่ายทอดความรู้การหมักน้ำปลาให้กับผู้ต้องขังได้ฝึกเป็นทักษะอาชีพในอนาคต ซึ่งได้รับความสนใจจากเรือนจำกลางสมุทรสงคราม ผลิตเป็นน้ำปลา ตราหับเผย แม่กลอง ขยายมาที่เรือนจำกลางเพชรบุรี ผลิตเป็น น้ำปลา “ตราหับเผย เขากลิ้ง” และล่าสุด สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงครามให้ความสนใจนำองค์ความรู้ดังกล่าวมาสอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแม่บ้านได้ฝึกหมักน้ำปลาเพื่อบริโภคในบ้าน และจำหน่ายเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวต่อไป

การนำปลาหมอคางดำมาสร้างสรรค์เมนูที่หลากหลายและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทำให้เห็นแล้วว่า ปลาหมอคางดำมีประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านโภชนาการและเศรษฐกิจที่ใช้ เปลี่ยนปัญหาเป็นเมนูอาหารที่จะช่วยกู้แหล่งน้ำ จัดการการแพร่ระบาดประชากรปลาหมอคางดำแบบครบวงจร และประยุกต์ใช้ได้กับทุกพื้นที่