กรณีผู้ใช้ติ๊กต๊อกรายหนึ่ง ออกมาเล่าเรื่องราวของตัวเอง เป็นเรื่องราวการสูญเสียคุณแม่ ผ่านคลิปวิดีโอทั้งหมด 4EP. โดยเผยว่าแม่ป่วย ถูกสแกนพบก้อนเนื้อในสมอง ต้องกินยาลดสมองบวมทุกวัน เข้ารักษาในรพ.ได้ไม่นาน น้องสาวของแม่ได้พาตัวแม่ไปรักษาด้วยสมุนไพร ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แต่หลังจากผ่านไป 5 วัน ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าแม่หมดสติ และถูกนำตัวส่งรพ.เป็นการด่วน เข้ารับการรักษาในห้อง ICU ได้เพียง 9 วัน แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจาก “สมองตาย” เรื่องดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ มีการบุกไปพิสูจน์สำนักสงฆ์ พบภาพสุดตะลึงอยู่ไม่น้อย
รายการ โหนกระแส วันที่ 5 พ.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 ได้สัมภาษณ์ แพร ลูกสาวผู้เสียชีวิต ,ไปป์ สามีคุณแพร , ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข, รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว.
เหตุการณ์เกิดเมื่อไหร่?
แพร : เดือนธ.ค. ปีที่แล้วค่ะ หนูตัวคนเดียวไม่ได้ร้องอะไรเลย หนูทำอะไรไม่ได้ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เสียใจมาก
ทำไมตอนนี้เป็นข่าวขึ้นมา?
แพร : พอผ่านระยะเวลามาสักพัก ความที่หนูเป็นอินฟลูฯ พอเราตั้งสติได้ เราอยากโพสต์เก็บไว้ดูว่าทำไมแม่เราถึงเป็นแบบนั้น เรื่องราวเป็นมายังไงก็เรียบเรียงทุกอย่าง เล่าไทม์ไลน์ จนกลายเป็น 4 อีพีในช่องหนู ไม่คิดว่าคนดูจะให้ความสนใจ มันก็แมสขึ้นมา ทุกคนแท็กหาพี่เยอะมาก มันเลยกลายเป็นประเด็นข่าวขึ้นมา
คุณแม่เป็นอะไร?
แพร : ตอนแรกแม่มีอาการหลงลืมแบบเฉียบพลัน ไปหาหมอ มีการทำเอ็มอาร์ไอ พบก้อนเนื้อในสมองประมาณ 4 ก้อน คุณหมอบอกว่ากระจายอยู่หลายก้อนมาก มีปวดหัว แต่เป็นคนอดทนมากๆ ไม่ค่อยบอกใครว่าเป็นอไร เขาเก็บจนทนไม่ไหว ถึงยอมพูดออกมา ล่าสุดมีอาการครึ่งขวาใช้การไม่ได้ คุณหมอทำเอ็มอาร์ไอ พบว่ามีก้อนเนื้อไปทับอยู่เส้นฝั่งขวา ควบคุมอวัยวะด้านขวา ก้อนใหญ่มั้ยหนูดูไม่เป็น เขาบอกตรงท้ายทอยมีเยอะมาก
จากนั้นยังไงต่อ?
แพร : เราไปทำเอ็มอาร์ไอที่คลินิก เพราะรพ.ผลช้ามาก เราร้อนใจ แม่เริ่มมีอาการปวดหัว ทางคุณหมอบอกว่าต้องเข้ารพ.ใหญ่ คุณพ่อก็พาคุณแม่ไปรพ.อุตรดิตถ์ แอดมิทวันนั้นเลย หมอมีการตรวจอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ได้มีการแจ้งเราว่าแม่เป็นมะเร็ง เขาพูดแค่ว่ามีก้อนเนื้อ ตอนนั้นสงสัยว่าทำไมไม่บอกหนูว่าเป็นมะเร็ง
หมอไม่สามารถฟันธงได้ จนกว่าจะมีการตรวจชิ้นเนื้อนั้นๆ เข้าแล็ปก่อนว่าเป็นเนื้อร้ายหรือเปล่า แต่ความสงสัยคุณหมอมีแน่นอนเพราะว่ามีการกระจาย?
แพร : ใช่ค่ะ จากนั้นคุณแม่ก็เข้ารับการรักษาครั้งแรกที่รพ.อุตรดิตถ์ อยู่รพ. 5 วัน ช่วงแรกแม่ถ่ายบนเตียงคนไข้ เพราะพอพาแม่ไปเดินเข้าห้องน้ำ ครึ่งครึ่งไม่มีแรง ไปถึงฉี่ราด อึราด ควบคุมตัวเองไม่ทัน แม่มีอาการดีขึ้นเพราะคุณหมอฉีดยาลดสมองบวมให้ทุก 6 ชม.
ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นมะเร็ง?
แพร : ใช่ค่ะ เพราะไม่มีใครพูด หนูก็ไม่กล้าพูดให้แม่เขาใจเสีย คุณหมอบอกว่าต้องหาแล้วว่ากระจายจากไหน เลยให้ไปทำซีทีสแกนช่องท้อง ต้องรอผลอย่างละ 1 อาทิตย์ หมอเห็นจุดเล็กๆ ที่ปอด
สรุปหมอบอกว่าเป็นมะเร็งมั้ย?
แพร : วันนั้นหมอบอกว่าผลอาจออกมาไม่เป็นมะเร็ง เป็นลบ เพราะจุดมันเล็กมาก เราอาจต้องตรวจใหม่ กลายเป็นว่าเราไปที่นั่นก่อน เราทำอะไรไม่ทันแล้ว
ผลยังไม่ได้ออก ไม่มีการตรวจสอบ แต่แม่ตัดสินใจไปที่สำนักสงฆ์แห่งนั้น ไปได้ยังไง ใครแนะนำ?
แพร : หนูไม่ทราบเลยว่าใครเป็นคนบอกเขา วันนั้นหลังคุณแม่เป็น หนูวิ่งไปกลับเพชรบุรี-อุตรดิตถ์มันไกล แล้วหนูมีลูกน้อย 3 คน เราห่วงหน้าพะวงหลัง หนูเป็นลูกคนเดียว จะทิ้งแม่ก็ไม่ได้ จะทิ้งลูกก็ไม่ได้ ก็ถามแม่มาอยู่กรุงเทพฯ มั้ย เราหว่านล้อมว่าหมอจุฬาฯ เขาเก่งนะ แม่ก็มารพ.จุฬาฯ พอไปหาหมอเสร็จสรรพ หนูขอคุณแม่ว่าขอไปรับลูก วันที่ 6 ช่วงบ่าย ลูกสาวน้าบอกว่าเขาจะพาแม่หนูไปรักษา พาไปหาหมอ ลูกสาวคนเล็กของน้า เป็นลูกพี่ลูกน้องเรานี่แหละ หนูถามว่าไปที่ไหน ไปกับใคร เขาบอกหมอสมุนไพร ก็ถามว่าหมอสมุนไพรอะไร เขาบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน ทำยังไงดี แม่จะพาป้าไปแล้ว แล้วแม่รู้ได้ไงว่ามีอยู่ที่นั่น แม่หนูไม่เคยไปอยู่แล้ว น้าเขาทำงานอยู่ที่บ้านพี่ดาราคนนึง รับจ้างเลี้ยงหมา เขาบอกว่าเขาเอาแม่ไปทำงานด้วย แล้วมีใครไม่รู้จำไม่ได้ มานั่งพูดหน้ากรงหมา ว่าไปที่สำนักสงฆ์นี่สิ ดีมากเลย มีคนหายเยอะแยะเลย คนดังไปเต็มเลย พอแม่ได้ยินแบบนั้น แม่บอกว่าให้น้าพาไปหน่อยได้มั้ย ไม่อยากนั่งรอหมอแล้ว มันรอนาน หนูบอกแม่อย่าเพิ่งไป ให้รอหนูก่อน แต่วันนั้นน้าไม่รอ อ้างว่าแม่รีบไป ก็ไปกันวันนั้นเลย แม่บอกว่าไม่เป็นไร แม่แค่ไปคุยกับหมอ ซึ่งแม่ไม่ได้เอายาลดสมองบวมไปด้วย ยาลดสมองบวมต้องทานทุกวัน ไม่งั้นจะเกิดอาการกำเริบขึ้นมา
สรุปคือไปสำนักสงฆ์วันไหน?
แพร : 6 ธ.ค. ปีที่แล้วค่ะ
ตอนไปเรารู้เรื่องมั้ย?
แพร : รู้เรื่องค่ะ เขาบอกว่าไม่รอหนู เขาจะไปแล้ว เขาขอไปคุยกับหมอว่าเขาจะกลับแล้วก็ไปเลย หนูก็ยอมรับว่าโกรธมาก เพราะเขาไม่เชื่อหนู เขาบอกว่าขอไป 2 วัน โทรติดต่อยากมาก หนูถามว่าหมออะไร เขาเป็นใคร เขาบอกสองผัวเมียเคยรักษาตัวเองหรือคนในครอบครัวแล้วมันหาย เขาเลยอยากช่วยคน เลยมาเปิดแบบนี้เพื่อช่วยคน โดยไม่คิดเงิน
อยู่จังหวัดอะไร?
แพร : เขาบอกอยู่กบินทร์บุรี หนูถามแม่ว่าเขาทำอะไร แม่บอกว่าคุยกับหมอ แล้วหมอให้กินยาต้ม หลังจากนั้นก็โทรติดต่อแม่แทบไม่ได้ จนวันที่ 8 ก็ถามว่าแม่สองวันแล้วนะ จะกลับวันไหน เขาบอกขอดูอีกอาทิตย์นึง หมอบอกให้อยู่ไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวแม่กลับแล้ว
ยืนยันว่าแม่ไปรักษา ไม่ได้ไปเพื่อปฏิบัติธรรม?
แพร : ยืนยันว่าแม่พูดว่าอยากหาย อยากไปรักษา ไม่ได้ไปปฏิบัติธรรมแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์
จากนั้นยังไงต่อ?
แพร : หนูโทรติดต่อยากมาก พอได้คุยกัน เขาบอกว่าแค่นี้ก่อนนะ แม่ต้องวางแล้ว หมอเรียกไปฉีดยาแล้ว หนูก็ห๊ะ ฉีดยาอะไร ใครฉีด เขาจ้างพยาบาลมาเหรอ แม่บอกไม่ใช่ หมอที่เป็นผัวเมียกันนี่แหละฉีดให้ แล้วเขาก็วางไปเลย จากนั้นหนูก็ติดต่อแม่ไม่ได้เลยค่ะ
สุดท้ายเป็นยังไง?
แพร : น้องสาวบอกว่าพี่ทำใจดีๆ นะ แม่ช็อกเข้ารพ. อาการโคม่า เป็นตอนอยู่สำนักนั้นค่ะ ซึ่งเป็นวันที่ 11 ธ.ค. ค่ะ วันที่ 10 ทางน้าที่พาแม่ไป เขาติดต่อไปทางป้า บอกว่าแม่หนูไม่รับยาอะไรเลย ยาที่หมอสมุนไพรให้ทาน คุณแม่ทานแล้วก็อาเจียนหมดเลย ป้าเลยบอกว่าให้พาแม่หนูกลับเถอะ อาการเขาคงแย่แล้ว น้าบอกว่าขออยู่อีกคืนนะ เพราะมีคนมาหาหมอที่นี่ เขาจะติดรถกลับไปด้วย คืนนึงของเขา อีกวันแม่หนูก็ช็อกเลย
คุณไปหาแม่มั้ย?
แพร : หนูตรงดิ่งไปหาแม่เลย ไปเจอสภาพคุณแม่นอนใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ไอซียู เหมือนเจ้าหญิงนิทรา เขาตอบโต้อะไรไม่ได้แล้ว คุณหมอบอกว่าก้านสมองตาย เขาไม่ได้บอกกับทางรพ.ว่ามาจากที่นี่ เขาไปบอกคุณหมอแค่ว่าแม่ไม่ได้ทานยา คุณหมอเลยวินิจฉัยว่าที่เป็นแบบนี้เพราะไม่ทานยาไง แค่นั้นเลย เพราะคุณหมอไม่ได้รู้ว่าคุณแม่มาจากที่นั่น
แม่ไม่กินยาลดสมองเลยตอนอยู่ที่นั่น?
แพร : หนูพยายามบอกน้าให้บอกแม่ให้กินยา แต่น้ามีการด่ากลับมาว่าเราโง่ ยาที่หมอจุฬาฯ ให้กินเป็นสเตียรอยด์ หมอที่นี่ไม่ให้กิน ยามันจะตีกัน หนูขอร้องทุกวัน หนูรู้ว่าแม่ขาดยาจะเป็นยังไง หนูขอที่อยู่เขาก็ไม่บอก ไล่ให้หนูไปถามแม่เอง แต่หนูติดต่อแม่ไม่ได้ ก็บอกว่าขอร้องได้มั้ย ขอให้แม่กินยาอย่างเดียว แล้วเขาก็ด่ามาเหมือนที่หนูบอกไป สำนักสงฆ์ที่นี่หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ที่ไหน คุณแม่บอกเล่ากับเราว่ามีการกินน้ำสมุนไพร และมีการฉีดยา
โอ่งสมุนไพร ที่เห็นคือหนอน น้ำสมุนไพรต้องมีหนอนแบบนี้เหรอ?
นพ.วีระศักดิ์ : หนอนแมงวันนี่แหละ เน่า
อวสานอาหารกลางวัน ไหที่เป็นน้ำหมัก มีกานพลู จิ้งจก แต่ละอย่าง ทีมงานเข้าไปถ่าย?
สำนักนี้ตกลงเป็นสำนักอะไรกันแน่?
แพร : หนูรู้แค่เขาเป็นสองผัวเมีย รักษาตัวเองหายแล้วมาเปิดรักษาคน แค่นั้นเลยค่ะ
กรณีแบบนี้ คุณแม่เท่าที่ฟัง น่าจะเป็นก้อนเนื้อที่เป็นเนื้อร้าย มองยังไง?
นพ.วีระศักดิ์ : มองว่าคงมีปัญหาเรื่องสมองจริงๆ แต่เรื่องการวินิจฉัยมันมีขั้นตอน ท้ายที่สุดยังไม่ได้สิ้นสุดการวินิจฉัยกับการรักษาแต่ไปเปลี่ยนวิธีการรักษาแทน ผิดตั้งแต่ข้อแรกคือไปสั่งเขาหยุดยา ผิดหนักเลย เคสนี้ยังไงต้องทานยา สำคัญมาก กรณีมีก้อนเนื้อแบบนี้ ญาติก็รับทราบอยู่แล้วว่าสำคัญมากๆ หมอมีคำสั่งแล้วว่าห้ามหยุดยา
ต่อสายหา “คุณอาร์ม นฤชา” ผู้สื่อข่าวตอนนี้อยู่ในพื้นที่ ตกลงที่นั่นเป็นอะไรกันแน่?
อาร์ม : เป็นบ้านอาจารย์ แกมีที่ดินตรงนี้ ตอนแกบวชเป็นพระ ญาติโยมก็มาสร้างบ้านให้ เปิดเป็นลักษณะเหมือนที่พักสงฆ์ ไม่ใช่สำนักสงฆ์ครับ เป็นบ้านชั้นเดียว ประมาณ 3 หลัง มีเรือนนอนสำหรับผู้ป่วยซอยเป็นห้องประมาณ 4 ห้อง มีญาติโยมที่อยู่ที่นี่เกือบ 20 คนที่เขามารักษา หลายคนก็เจ็บป่วยโรคต่างๆ เชื่อว่ามารักษาทีนี่จะทำให้ดีขึ้น
ในโอ่ง ได้ลองชิมหรือยัง?
อาร์ม : แกบอกกินไม่ได้ เป็นปุ๋ยชีวภาพ เอาไว้รดน้ำต้นไม้ ไม่ได้เป็นตัวน้ำหมักเอามารักษา ตัวน้ำหมักเป็นตัวถังสแตนเลสใช้การต้มแล้วกลั่นให้เป็นไอระเหย ถึงได้เป็นหยดน้ำทีละหยด อันนั้นคือตัวยาที่กินแล้วฉีดครับ
โอ่งที่บอกว่ามีหนอน ยืนยันไม่ได้เอามารักษา?
อาร์ม : โอ่งที่มีหนอน คือปุ๋ยหมัก ตัวอาจารย์ยืนยัน และลูกศิษย์ลูกหาก็บอกว่าเป็นปุ๋ย ในสถานที่แห่งนั้นมีการปลูกผักและทำนาข้าว เขาจะกินพืชผักสวนครัว ข้าวก็ปลูกเอง ก็เลยใช้ปุ๋ยตัวนี้ในการรด
ธนกฤต : หม้อใหญ่ๆ เขาทำอะไร
อาร์ม : ถังกลั่นเป็นตัวยา สำหรับกินและฉีดครับ เป็นสมุนไพร เปลือกไม้ รากไม้ เอามาต้มก่อนให้เป็นไอระเหย แล้วเอาไปฉีดครับ
เอาสมุนไพรใส่ถังใหญ่แล้วต้ม พอเป็นไอก็เข้าไปในท่อ แล้วกลั่นออกมาเป็นน้ำหยดติ๋งๆ?
อาร์ม : ถูกต้องครับ
ธนกฤต : เห็นอุปกรณ์ เข็มฉีดมั้ย
อาร์ม : เข็มฉีดเลยยังไม่เห็น เห็นแต่สลิ้งและถังน้ำเกลือ
ธนกฤต : เขาได้บอกมั้ยว่าฉีดวันกี่ครั้ง กี่เข็ม มีการรักษากี่วัน
อาร์ม : เบื้องต้น 3 วัน ถ้าไม่ได้ผล ก็จะไม่ได้รับรักษาต่อ
ไม่ลองให้อาจารย์ฉีดสักเข็มสองเข็ม?
อาร์ม : ได้สเปรย์ฉีดหลัง ก็วูบวาบครับ เย็น
จิ้งจก?
อาร์ม : ผมก็ถาม ตอนแรกคิดว่าดองจิ้งจก แต่แกบอกว่ามีสรรพคุณอย่างนึงคือไล่จิ้งจกด้วย แกเลยแปะ คำว่าจิ้งจก คือหนึ่งในสรรพคุณของมัน เอาไปไล่จิ้งจกครับ ตัวยาสีเหลืองๆ มีเมนทอลด้วย สรรพคุณเลยไล่จิ้งจก ที่แกอธิบาย
เชื่อมั้ย?
อาร์ม : ยังไม่ได้ทดลองเลยครับ เพราะบ้านแกก็ไม่เจอจิ้งจก เดี๋ยวค่อยไปทดลอง
ฟังแล้วเป็นไงบ้าง?
ธนกฤต : เรื่องการใช้สมุนไพรอะไรก็แล้วแต่ มันมีช่องทางขออนุญาตให้เรียบร้อยก่อน ทางนี้เท่าที่ตรวจสอบ สาธารณสุขจังหวัดเข้าไปตรวจสอบแล้ว มันไม่ได้มีเรื่องการขออนุญาตเอาไว้ ก็อยากบอกว่าถ้าขออนุญาตทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่ที่พิสดารกว่าคนอื่น สมุนไพรโดยปกติไม่มีการฉีดเข้าเส้น นี่กลั่นออกมา แล้วคิดเอง จินตนาการเอง แต่ที่หนักกว่านั้น ตอนเจ้าหน้าที่เข้าไป เขาอ้างว่าเป็นอดีตตร.ยศพันตำรวจเอก ขวางเลย บอกว่าคุณเข้าไม่ได้ ถ้าเข้าต้องมีหมายค้น สถานที่นี้ห้ามถ่ายภาพ กันนักข่าวเจ้าหน้าที่ออกไป คิดดูสิ นายอำเภอ ตร. สาธารณสุขจังหวัดลงพื้นที่ ไอ้นี่ยืนขวางเลย มันไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเจ้าหน้าที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่ บอกมาสิว่าเป็นเจ้าของ หรือตัวเองได้รับมอบอำนาจมา ต้องได้ฟังพระพูดสักหน่อยด้วย
พระรูปนี้อดีตแกบอกว่าป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ แล้วมาอยู่กับตาพรชัยที่สถานที่แห่งนี้ไปรักษา แกบอกว่าอาตมาชอบเหลือเกิน หายดี วันดีคืนดีเป็นอีกแล้ว ก็กลับไปอยู่ด้วย มีการฉีดยาด้วยนะ พี่ธนกฤตหัวเราะอะไร?
ธนกฤต : พระบอกว่าใครแชร์เรื่องนี้ไปเป็นโมหะ (หัวเราะ) มันไม่เกี่ยว เรื่องนี้ผิดกฎหมาย เหมือนแกเป็นคนรักษาเองนะที่แกพูด แกมีส่วนร่วมหรือเปล่า พระยืนยันหน่อยว่าตัวแกเองรักษาด้วยหรือเปล่าให้ยืนยันหน่อย เพราะเดี๋ยวจีวรบินนะ
ต่อสายหา “พรชัย ศรีกอง” อายุเท่าไหร่?
พรชัย : 57 ปี
เปิดสำนักสมุนไพรมานานหรือยัง?
พรชัย : ไม่ใช่เปิดสำนักสมุนไพร แต่ผมรักษา ต้องเล่าว่าผมบวชพรรษาที่ 4 แม่ป่วยด้วยการกิมกรัมม็อกโซน ไปรพ. หมอบอกว่าตายแน่ ผมก็ถามหมอว่าอีกกี่วันตาย หมอบอกอีก 7 วันตาย หลังจากนั้นก็ตัดสินใจว่าให้แม่มาตายใกล้ผม เพราะแม่จะมีอารมณ์ที่ดีก่อนตาย ผมไม่เคยปฏิญาณว่าเป็นหมอ และไม่อยากเป็นหมอ แต่หมอผมใกล้จะตาย เมื่อหมอรพ.รักษาไม่ได้ ก็ต้องหาวิธี ทำยังไงก็ได้ให้แม่ผมหายด้วยตัวผมเอง หลังจากนั้นผมรู้จักกลุ่มผู้ใหญ่พิบูลย์ที่เขาใช้ยาสมุนไพรต่างๆ ที่เขาพูดคือใบรางจืด หลังจากรู้ว่าใบรางจืดเป็นยา ผมอยู่กับอ.บุญเลิศพอดี อาจารย์คือพระรูปเมื่อกี้ หลังจากรักษา แม่ผมก็รอด อ.บุญเลิศท่านเคยทำงานเกี่ยวกับโรงพิมพ์ สุขภาพท่านไม่ดี เป็นภูมิแพ้ ท่านก็ให้ผมรักษาท่านต่อ ผมอธิษฐานในใจว่าถ้าผมรักษาแม่ไม่หาย ผมจะไม่รักษาใคร หลังจากเห็นแม่หายจากยาสมุนไพร ก็เริ่มเชื่อว่ายาสมุนไพรรักษาโรคได้จริง แต่ตอนนั้นผมเป็นพระ ในพระวินัย ซึ่งพูดถึงการเป็นอยู่ของภิกษุ ยุคโบราณ เจ็บไข้ได้ป่วยไม่มีรพ.อย่างนี้ รพ.ที่ถูกสร้างขึ้นมา พระเข้าไปรักษาไม่ได้ พวกเราจึงจำเป็นต้องหาทางรอด เมื่อภิกษุป่วย หลังแม่ผมป่วย ผมรักษาหาย ผมตั้งใจศึกษาสมุนไพร ผมทำตามคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า โดยอาศัยหมอชีวกอยู่อย่างไร รักษาพระอย่างไร ผมได้ให้ข้อมูลทีมงานคุณไปแล้วว่าผมเองรักษาแม่ผมหาย รักษาพระดีขึ้น ผมไม่ได้รักษาทั่วไป ถ้าผมไปรักษาทั่วไป มันไม่เงียบมาเป็นหลายสิบปีหรอก แต่กรณีนี้เป็นไฟไหม้แล้วลามมาถึงผม จึงเป็นเรื่องราวเกิดขึ้น ผมก็ไม่ได้เสียใจอะไร แต่ดีใจว่าผมจะพูดถึงธรรมวินัยที่มันถูกลบเลือนไปให้กลับคืนมา ผมบอกทีมงานคุณว่าถ้าเรามองย้อนไป ระหว่างกฎหมายกับพระธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตอนนั้นผมจะเลือกอะไร
การที่คนๆ นึงไปรักษา เขาต้องหยุดยาแผนปัจจุบัน?
พรชัย : ประเด็นตรงนี้อย่าเพิ่งไปถาม ขออธิบายก่อน เดี๋ยวทำให้ผมลืม ต้องเข้าใจนะว่าตอนนี้ผมไม่ใช่คนปกติ ผมไม่สบาย เหล็กตบทับหัว ผมไปเอาเรือที่อุบลฯ แล้วเหล็กหล่นทับ ยังมึนหัวอยู่ คุณคงรู้ว่าหมอชีวกเกิดในพระพุทธเจ้า และได้เป็นหมออุปถากย์พระพุทธเจ้า ผมเองผมบวช วินัยของพระ เมื่อผมรู้ยาผมก็รักษาพระ วินัยก็อนุญาตให้รักษาคนงานวัด โยมอุปถากย์ ผมก็รักษาโดยการให้ยากินมาเรื่อย
เหล็กตกทับหัว ถือว่าเป็นกรรมมั้ย?
พรชัย : ใช่ รวมถึงที่เป็นข่าวอยู่ก็เป็นกรรม ทั้งหมด ณ ปัจจุบันที่กำลังทำอยู่ก็คือกรรมทั้งหมด
คนไปรักษาต้องหยุดยาแผนปัจจุบันก่อนใช่มั้ย?
พรชัย : ไม่ ผมรักษากัน ผมไม่ได้กินยา โดยการกินยาพาราฯ เลย ยาพวกนี้จึงไม่มีอยู่ที่นี่
กรณีคุณแม่เขา ก่อนไป เขาต้องกินยาลดสมองบวม ทางนี้บอกว่าไม่ต้องกิน เพราะมีสเตียรอยด์ ข้อเท็จจริงเป็นยังไง?
พรชัย : นั่นหมายความว่ากำลังถามเข้าประเด็นว่าในโซเชียลที่เขาบอกว่าเขาพาแม่เขามารักษาที่นี่แล้วเป็นสาเหตุทำให้เขาตาย
ไม่ใช่ เอาใหม่ ผมอาจถามไม่ดี กรณีคนเข้าไปรักษา คุณหมอให้กินยาแผนปัจจุบัน แต่พอไปรักษาสมุนไพรกับคุณพรชัย ต้องหยุดยาเหล่านั้นเพื่อให้ได้ผลมากขึ้น ถูกมั้ย?
พรชัย : ไม่ใช่ คนป่วยที่เข้ามาหาผม ผมไม่เคยรู้เลยว่าเขากินยาอะไร แล้วผมก็ไม่ได้ห้ามเขาด้วย ผมไม่ได้เป็นหมอ ผมปฏิญาณว่าผมไม่ได้เป็นหมอ อย่างเขามาหาผมบอกว่าปวดขา ผมไม่ได้ซักประวัติหรอกว่าปวดขามาเพราะอะไร รักษาโดยบอกว่าเรามียานี้นะ ถ้ากินหายก็หาย เพราะคนบางคนรักษาด้วยยานี้ก็หาย บางคนรักษาด้วยยานี้ก็ไม่หาย เพราะคนมันต่างกรรมต่างวาระกัน
สมุนไพรที่ใช้รักษาเป็นอะไร?
พรชัย : คุณถามกว้างไป คำว่าสมุนไพรทั้งหมดในโลกนี้ ไม่ว่าจะแร่ธาตุต่างๆ จัดอยู่ในสมุนไพร รวมถึงข้าวที่เรากิน เป็นสมุนไพรมั้ย ก็เป็นครับ
อย่างที่อยู่ที่บ้านคุณพรชัย?
พรชัย : มันเยอะ หลายอย่าง ไม่ใช่แค่อย่างเดียว
ของคุณมีอะไรบ้าง?
พรชัย : กานพูลแค่เศษเสี้ยว จริงๆ มีเยอะ เป็นร้อยเป็นพันอย่าง ที่ผมเอามา
รักษาโดยให้ทา ให้กิน ให้ฉีด?
พรชัย : การรักษาของผมแต่ก่อนผมจะเน้นให้กินกับทา
ปัจจุบันมีการฉีดถูกมั้ย?
พรชัย : ผมจะเล่าต่อ แม่ผมหลังกินกรัมม็อกโซน ผมรักษาหาย ผมเอาเรื่องราวเหล่านี้ไปคุยกันในที่ประชุม ว่ายาสมุนไพรต่างๆ ยานี้ดี หลังจากนั้นภิกษุที่อยู่กับผมรูปนึงป่วยอาเจียนมา 3 วัน นึกถึงภาพที่นี่ชนบท กันดาร ย้อนหลังจากนี่ไป 20 ปี ยิ่งชนบทและกันดารกว่านี้ กลุ่มผมรักษาตามพระไตรปิฎกเป็นหลัก พวกเราก็ไม่ได้รับเงินรับทอง
ตกลงที่รักษาคน รักษาโดยให้กิน ให้ทา และฉีด ถูกมั้ย?
พรชัย : ถูก
ฉีดนี่ฉีดอะไรเข้าไป?
พรชัย : คุณฟังผมก่อนได้มั้ย ผมก็ฉีดยาผสมน้ำเกลือเข้าไปในการรักษาคน ผมป่วยครั้งที่สอง ผิวหนังเปื่อยหมด ผมจึงมองย้อนกลับมา สมัยผมเป็นพระ พระองค์นั้นป่วย อาเจียนอยู่ 3 วัน ผมจะพาพระไปหาหมอก็ไม่ได้ รถโดยสารก็ไม่มี เดินไปก็ไม่ถึง ก็ย้อนคิดกลับว่าคนฉีดเฮโรอีน เอาน้ำในห้องน้ำฉีดเข้าไปในเส้นเลือดดำ เขายังไม่เห็นตาย ผมก็เลยทำยาฉีดให้พระ พระก็หายป่วย เอาสรุปง่ายๆ แบบนี้
ยาฉีดทำจากอะไร?
พรชัย : แก่นฝาก แกแล รากมัก รากมะหล่ำ
ใช้สกัดยังไง?
พรชัย : เอาไปต้มแล้วกรองด้วยผ้าละเอียด ทำแค่นั้น
นพ.วีระศักดิ์ : ทุกคนที่มีอาการแตกต่างกัน ฉีดเหมือนกันมั้ย
พรชัย : พอเขาฉีดเข้าไป เขามีอาการตัวร้อน ผมก็เช็ดตัว แล้วเขาก็หาย
นพ.วีระศักดิ์ : คนเป็นหอบหืด หรือเป็นโรคอื่นๆ ฉีดได้มั้ย
พรชัย : ตอนนี้ทำยาฉีดไม่ได้ประณีตอะไร เป็นยาฉีดหยาบๆ รักษาแต่พระก่อน ไม่ได้รักษาใครเลยนะ รักษาในกลุ่มพระอย่างเดียวเท่านั้น
ฉีดเข้าไป ไม่มีใครเป็นอะไร?
พรชัย : ยัง
นอกเหนือจากฉีดก็มีให้กิน?
พรชัย : มี เรื่องนี้ขอให้พระอาจารย์บุญเลิศพูดนะ
ธนกฤต : เมื่อกี้บอกมีสมุนไพรอยู่เป็นพันชนิด แล้วเอาไปสกัดแค่ 3 ตัวเลย
อ.บุญเลิศ : แค่เบื้องต้น เรื่องหมอพรชัยอธิบายเมื่อกี้ ครั้งแรกทำยา ไม่ได้กลั่นแต่ต้มเอา ใช้ผ้ากรองน้ำ แล้วฉีดเข้าเส้นพร้อมน้ำเกลือ หลังจากนั้นมีอาการเอฟเฟกต์ หนาวสั่น ตัวร้อนมาก ตอนนั้นเหมือนว่าจะตาย แต่โยมรู้มั้ย ถ้ามันอยู่สักครึ่งชม. สงสัยตาย แต่แค่ 10 นาทีมันหายเป็นปลิดทิ้งเลย และตักน้ำได้ ต้องเท้าความไปอีกนิดนึงว่าตอนพระองค์นี้ป่วย ทั้งไม่สบาย ทั้งอาเจียน ยาต้มใช้ไม่ได้แล้ว พอถึงกระเพาะมันไม่รับ บีบตัวให้อาเจียน ทั้งถ่ายทั้งอาเจียน เมื่อขาดน้ำมาก ไม่นานต้องช็อก และเสียชีวิตเลย
พระเคยเรียนหมอมาก่อน?
อ.บุญเลิศ : ไม่ได้เรียนหมอโยม
คือธรรมะมันบอก?
อ.บุญเลิศ : นักวิทยาศาสตร์บางคนเขาพบแบบบังเอิญแต่ไม่ใช่บังเอิญ แต่หลักธรรมมันต้องมีเหตุและปัจจัย กรรมทั้งหลายไหลมาแต่เหตุ
ธนกฤต : พระฉีดไปกี่คน
อ.บุญเลิศ : หลังผ่าน 10 นาทีวิกฤต หายเป็นปลิดทิ้งเลย อาเจียนก็ไม่อาเจียน
คนฉีดเป็นใคร?
อ.บุญเลิศ : อ.พรชัย ตอนนั้นยังบวชอยู่
พระฉีดพระ รักษากันเอง?
อ.บุญลิศ : ถูกแล้ว อยู่ตรงนี้รถราหายาก เราไม่มีโยมอุปถากย์ จะไปยังไงไปหาหมอ
ไม่ย้ายออกมาข้างนอก?
อ.บุญเลิศ : ถ้าป่วยแล้วคิดจะย้ายจะทันมั้ย ถ้าทันคงตายก่อน คิดว่าจะย้ายวัด ย้ายที่อยู่ง่ายๆ เหรอ เราไม่รู้อนาคตจะป่วยเมื่อไหร่ หลังจากนั้นไป เราพบว่าพระองค์นี้เวลาอากาศเปลี่ยน พระอื่นๆ ป่วย แต่พระองค์นี้ไม่ป่วยเลย 6 ปีเต็ม เวลาอากาศเปลี่ยนแปลง น่าจะเป็นภูมิต้านทานอย่างดีเลย
พระทำอะไรอยู่สำนัก?
อ.บุญเลิศ : ก็ทำแบบพระแหละโยม
ช่วยพรชัยรักษาด้วย?
อ.บุญเลิศ : ตอนนี้ยังไม่มีใคร เป็นดง อยู่เป็นพระศึกษาธรรมวินัย
แต่เห็นว่ามีคนอยู่ที่นั่นประมาณ 20 คน ที่นอนรักษา?
อ.บุญเลิศ : มันคนละเรื่องนะโยม
เรื่องเดียวกันนี่แหละ ผมถามว่า ณ วันนี้พระอยู่ที่นั่น ทำอะไรบ้าง?
อ.บุญเลิศ : อันนี้เรื่องเกิดเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ที่รักษาพระ ประเด็นตั้งต้น แต่โยมเล่นถามเรื่องปัจจุบัน อาตมาตามไม่ทัน
ตอนนี้พระทำอะไรอยู่ ช่วยรักษามั้ย?
อ.บุญเลิศ : อาตมาไม่ได้ช่วยเหลืออะไรกันแล้ว อยู่คนละที่ อาตมาพักอยู่ที่โน่นที่นี่หลายปีแล้ว เวียนไปเวียนมา ตามที่มีกิจที่จะได้พบกัน ปัจจุบันอาตมาอยู่ห่างจากที่นี่ 1 กิโล แล้วไปบิณฑบาต แล้วเช้ามาก็มาฉันที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่นี่แหละ
อาจารย์เคยฉีดมั้ย?
อ.บุญเลิศ : 200 อัพ ฉีดมากกว่า ไม่ใช่ทุกวัน ใช้เวลายาวนานมาก เป็นมานับไม่ถ้วน ถ้ารู้ว่าอาตมาป่วยเป็นโรคอะไรจะทึ่ง เหมือนผีเดินได้ ความจำเสื่อม น้ำมูกไหล ผ้าขนหนู 8x8 เปียกหมดเลย วันนึงมันไหลมาเหมือนน้ำฝน ภูมิแพ้ ต่อมซิลอักเสบ ไซนัส 3 จุด ตรงแก้มซ้ายขวา หน้าผาก เป็นโพรงไซนัสอักเสบ ตอนนี้อาตมาคิดว่ามันหายแล้วนะ แต่มันเป็นของไม่เที่ยงนะ
ธนกฤต : ไปรพ.ตรวจสักหน่อยมั้ย
อ.บุญเลิศ : ตรวจเพื่ออะไร
ธนกฤต : จะได้เช็กดูว่าตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว
อ.บุญเลิศ : โยม หมอที่ดีคือใครโยมรู้มั้ย การตรวจไม่ใช่การรักษา รู้มั้ย ตอนนี้หมอหลายคนรู้แล้วว่าการตรวจไม่ใช่การรักษา คุณดูแลสุขภาพถูกหลักอนามัยนั่นคือการรักษาที่ถูกต้องแล้ว การตรวจไม่ใช่การรักษา แต่เพื่อให้รู้ว่าเป็นอะไร
ธนกฤต : ทำไมไม่ให้หมอพรชัยมาคุย จะได้ถามหมอพรชัย
อ.บุญเลิศ : ฟังก่อนนะ แกถูกเหล็กหล่นใส่หัว เหล็กหนักเป็น 100 กิโล เวลาพูดอึกอักๆ สื่อไม่ชัด แต่เรื่องนี้อาจารย์รู้เหตุการณ์หมดก็เลยเอามาสื่อให้เข้าใจ ไม่ได้เอามาปกป้อง โยมฟังอาตมาเข้าใจง่ายกว่าพรชัยหรือเปล่า เมื่อมีการเข้าใจที่ง่ายกว่า จะไปใช้เขาที่เข้าใจยาก ตอนนี้แกป่วย แกก็บอกแล้ว
ทางนี้บอกว่าแม่เขาไปรักษาที่นั่นแล้วแม่เขาเสียชีวิต หลังไปรักษาที่นั่น?
อ.บุญเลิศ : อันนี้ไปพูดกับอาจารย์พรชัยได้เลย
ตอนนี้ฝั่งแม่คุณแพรเขาเสียชีวิต เรื่องนี้อาจารย์พรชัยมองยังไง เขาบอกว่าแม่เขาไปรักษาตัวที่นั่น จากนั้นก็เสียชีวิต ไปวันที่ 6 วันที่ 11 เสียชีวิตเลย?
พรชัย : หลักฐาน เขาบอกเองเขาก็พูดไป แต่เขาไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่นี่ ตอนนั้นแม่ผมป่วยใกล้จะตาย นอนติดเตียง พอเข้ามา แม่ผมตาย ผมกำลังมีเวทนา กำลังโศกเศร้ากับแม่ แม่ตายผมต้องเดินเรื่องเงินฌาปนกิจ ผมไม่รับรู้เรื่องอะไรเลย ผมบอกให้เขากลับไป แต่เขาบอกว่าไม่มีรถไปรับ จากนั้นผมไม่รู้เรื่องอะไรอีก
เขาบอกว่าแม่เขามีหมอรักษาอยู่ที่นั่น ให้กินยาหม้อ และให้ฉีดยา?
พรชัย : ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่ความจริงก็คืออย่างนั้น ซึ่งผมเองเมื่อผมปฏิภาณว่าผมไม่รู้เรื่อง ผมไม่ได้มารักษา ก็อย่ามากล่าวว่าผมรักษา หาพยานหลักฐานมา ผมก็มีพยานหลักฐาน ว่าผมจัดงานศพอยู่ วิ่งโน่นวิ่งนี่อยู่ ผมก็ถามกับทางสาธารณสุขว่าถ้าแม่คุณตายอยู่ คุณมีกะจิตกะใจจะรักษาใครมั้ย เรื่องนี้ผมบอกว่าผมไม่ได้รักษา
แสดงว่าไม่ได้รักษาแม่คุณแพร?
พรชัย : ใช่ ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องว่าเขาเป็นอะไร
แต่เขายืนยันว่าไปที่นี่เพื่อรักษานี่?
พรชัย : ใช่ เขามาเพื่อรักษา แต่แม่ผมตาย จังหวะที่แม่ผมตาย จังหวะผมยุ่งงานศพของแม่
แม่เสียเมื่อไหร่?
พรชัย : จำไม่ได้ ช่วงใกล้ๆ กันนี่แหละ 4 เดือนที่แล้ว หลังแม่ผมตาย อีกพักนึงแม่เขาถึงตาย ผมจัดงานศพเสร็จพอดี คนป่วยถึงตาย ถ้าเขามีหลักฐานก็เอาหลักฐานไปยืนยันกันในชั้นศาล ถ้าเขากล่าวแบบนี้ เขากล่าวหาว่าผมเป็นฆาตกรฆ่าแม่เขา ถ้าเป็นการกล่าวหาแบบนี้ จะเอามาพูดแบบนี้ไม่ได้ ก็ไปคุยกันในชั้นศาล ถ้าเขาจะเอาความผมก็ให้เขาไปแจ้งความ แล้วมายืนยันกันที่หลักฐาน ถ้าคุยกันแบบนี้ไม่จบหรอกครับ
ธนกฤต : คุยไม่จบ เดี๋ยวผมไปหาอาจารย์ได้มั้ย จะได้คุยรายละเอียดสักหน่อย ถ้าบอกว่าตรงนี้ไม่เกี่ยวกับการรักษา ตอนแม่ยังอยู่ อาจารย์รักษาพระองค์เมื่อกี้หรือเปล่า
พรชัย : ใช่ ผมไม่อยากคุยทางโทรศัพท์ เพราะเราไม่เห็นหน้าตากัน ชีวิตผมทำยาอยู่กับการรักษาคนมา ตั้งแต่ผมอายุ 25 ตอนนี้ผม 57 แล้ว ประสบการณ์หลายปีจะมาคุยแค่ทางโทรศัพท์หนึ่งชม. มันไม่จบหรอกครับ
ธนกฤต : อาจารย์มีความรู้เรื่องสมุนไพรตั้งมากมาย ทำไมไม่ไปขอขึ้นทะเบียนกับสาธารณสุขจังหวัดล่ะ
พรชัย : ผมเคยเอายาของผมเข้าไปตรวจที่รพ.สงขลานครินทร์ ผมเป็นพระกลั่นน้ำมันได้หลายตัว มีกลุ่มคนกลุ่มนึงมาขอไปให้แม่เขากิน แม่เขาเป็นอัมพาต คนเป็นอัมพาตเขาจะไม่ค่อยถ่าย แต่พอกินยาแล้วถ่ายท้อง คนดูแลแม่ก็เกิดความรำคาญใจว่าแม่กินยานี้แล้วถ่าย ก็อยากรู้ว่ายานี้ทำจากอะไร ก็เลยเอาไปให้ดร.อรุณพรตรวจ ดร.อรุณพรถามว่ายามาจากไหน ยาอะไร ทำไมผลจากการไปตรวจ มันฆ่าเชื้อไวรัสได้ทุกชนิด
สุดท้ายแล้วอาจารย์กลั่นสมุนไพรเอง เวลาคนไปรักษา อาจารย์เก็บเงินมั้ย?
พรชัย : ไม่ ผมอยู่กับพระ ผมไม่ได้เป็นหมอไปรักษาทั่วไป ผมอยู่กับพระปฏิญาณรักษาพระ และพุทธบริษัทที่มาสนับสนุน อย่างคุณหนุ่มมาถวายข้าว ถวายน้ำกับอาจารย์ผม ถ้าคุณหนุ่มป่วย พระก็ต้องบอกว่ารักษาคนนี้ให้หน่อย ผมก็ต้องไปรักษา
ไม่มีการเก็บเงิน?
พรชัย : ถูก
สมุนไพรที่ทำขึ้นมา เอาสูตรมาจากที่ไหน?
พรชัย : พระพุทธเจ้ามีสูตรให้เรียนหรือไม่ แล้วมาเป็นพระพุทธเจ้า
ธนกฤต : มันคนละเรื่องกับการรักษา
พรชัย : หมอชีวกมีสูตรให้เรียนหรือไม่ แล้วเป็นหมอชีวก
นพ.วีระศักดิ์ : สรุปคุณพรชัย คิดเองใช่มั้ย
พรชัย : ฟังผมก่อนสิ ผมให้มองย้อนไปว่าก่อนมีกฎหมาย ปู่ย่าตายายของเราเอาขิงข่าตะไคร้ ยาสมุนไพรให้เรากิน เราถึงรอด
เข้าใจว่าพยายามจะอธิบายให้เราฟัง ว่าปู่ย่าตายายเขาใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านหาสมุนไพรมารักษาตัวเอง แค่อยากรู้ว่าตัวคุณเอง คุณคิดสูตรเองใช่หรือไม่ ตอบสั้นๆ แค่นี้?
พรชัย : สูตรเหล่านี้มีมาตั้งแต่โบราณ ผมเป็นคนไปเอาสูตรเหล่านี้มาทำใหม่ ยาเหล่านี้มีใช้ตั้งแต่โบร่ำโบราณ แต่ผมเอามาใช้ใหม่ในโลกปัจจุบันนี้ เช่นยารักษากระดูก ผมมองเห็นว่าถ้าจะมานั่งฝนยาใส่หินเอาให้คนกิน ถ้ารักษาคน 10 คน หมอก็เมื่อย ผมก็เอากระดูกปลามาใส่เครื่องบด แล้วปรุงด้วยตัวยาอื่นๆ ตามสูตรคนโบราณ
มีอยู่แล้วแต่เอามาอะแด๊ปใหม่?
พรชัย : ถูก ยกเว้นที่โบราณไม่มี เช่นการกลั่นน้ำมันหอมระเหยแล้วเอามารักษา ในเมืองไทยเห็ดหลินจืดบ้านเราไม่มีการพูดถึง ผมก็นำเห็ดหลินจือเหล่านั้นมา และทำข้อมูลของผมว่าเห็ดหลินจือตัวนี้ชื่ออะไร นี่ก็เป็นสูตรของผม
พอกลั่นแล้วฉีดผสมกับน้ำเกลือฉีดเข้าเส้นเลือดดำ?
พรชัย : ถูกต้อง
ธนกฤต : มันพุทธกาลตรงไหน แต่ก่อนไม่มีเข็มนี่
พรชัย : หมอชีวกผ่าตัด คุณรู้ได้ไงว่าหมอชีวกไม่มีมีดผ่าตัด ไม่รู้ก็อย่าด่วนสรุปว่าไม่มี ครั้งโน้นเหล้าเขากลั่น คิดว่าเครื่องกลั่นเหล้าจะมีมั้ย สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เราคุยกันแบบนี้เหมือนเถียงกัน
ธนกฤต : ผมไปหาอาจารย์ดีกว่า เรื่องอาจารย์เป็นมหากาพย์ยาวเหมือนกัน
พรชัย : โอเค
ขอบคุณสำหรับหลักฐานทั้งหมด เรียบร้อย?
ธนกฤต : ขออนุญาตเอาเทปนี้ไป วนไปวนมาสรุปแกก็ฉีด พูดแล้วเหนื่อย
นพ.วีระศักดิ์ : เรื่องฉีดเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด ไม่ว่าจะฉีดอะไรเข้าไปก็ตาม แม้ฉีดน้ำเปล่าก็อันตราย ในทางการแพทย์ คนฉีดได้คือพยาบาลกับแพทย์ คนที่เรียนมา ฝึกฉีดยา แม้แต่ฟองอากาศอยู่ในหลอดเข็มฉีดยา ถ้าเผลอมีฟองอากาศเข้าไปในเส้นเลือด ก็อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ มีโอกาสเสียชีวิตได้ เรื่องฉีดสำคัญข้อแรก ต้องบุคลากรทางการแพทย์ที่มีการฝึกฝนมา ถ้าไม่ได้ฝึกฝนมาไปฉีดไม่ได้ มันผิดข้อกฎหมายด้วย สองที่แกบอกว่าแกกลั่นสมุนไพร ผมไม่ได้เจาะลึกว่าสมุนไพรแต่ละตัวมีผลดีผลเสียอะไรบ้าง แต่เอาข้อมูลที่ผมศึกษาและเขียน มีเรื่องการฉีดจริง อยู่แถบเอเชียหลายประเทศ ฉีดแล้วเสียชีวิต มีรายงานผลหลายประเทศเลย ประเด็นคือ 4 อย่างที่จะทำให้เสียชีวิตได้จากการฉีดสมุนไพร ผมว่านี่ได้ยินครั้งแรกเลยนะ
ธนกฤต : เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้ยินว่าฉีดเข้าเส้น อันนี้มันเกินแล้ว
นพ.วีระศักดิ์ : ถ้าฉีดเข้าไปเกิดมีอาการแพ้ จะแพ้ทันที เพราะเข้าสู่กระแสเลือด เกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้ สองตัวที่ฉีดเข้าไป เขาบอกเขากลั่น ถ้ากลั่นแล้วเอามากรอง ไม่เหมือนทางการแพทย์ ทางการแพทย์ตัวสารที่เขาฉีดเข้าสู่ร่างกาย ต้องไม่มีตะกอนหรือเศษอะไรเลย การกรองด้วยผ้าขาวกรอง ก็เป็นลักษณะมีตะกอนเป็นก้อนได้ พวกนี้มีโอกาสเข้าไปอุดตันเส้นเลือดต่างๆ ได้ ถ้าอุดตุนสมองเป็นอัมพาต อุดตันหัวใจ หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ตายได้ อันถัดมา ทางการแพทย์ทุกอย่างมีการปลอดเชื้อหมดก่อนเอาเข้าไปเพราะมีการตรวจ อันนี้เมื่อเอามากลั่นแล้ววางให้เย็นหรือภาชนะที่ใส่ที่ไม่สะอาด มีจุลินทรีย์ต่างๆ มีเชื้อรา การฉีดคือการนำเชื้อเข้าไปสู่กระแสเลือดโดยตรง ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเสียชีวิตได้ ช็อกเสียชีวิตอย่างรวดเร็วได้ ที่สำคัญไม่รู้ปริมาณ ทางการแพทย์ต้องศึกษาดูปริมาณที่คนจะได้รับด้วย แต่กรณีนี้ไม่มีแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าเขาพิสูจน์กับตัวเขาเอง นี่การฉีดตัวยาถ้าเป็นสมุนไพรจริง มีความเข้มข้นสูง พอฉีดเข้าไป ตัวขับออกจากร่างกายมีสองตัว คือตับกับไต ซึ่งถ้าเป็นความเข้มข้นสูง ตับกับไตทำงานหนัก จะเกิดตับวายและไตวาย มีรายงานเคสคนฉีดที่อินเดีย ก็ตับวาย ไตวาย ไม่เปลี่ยนตับก็เสียชีวิต สำคัญเลยกรณีเอาสมุนไพรฉีดเข้าไปในร่างกาย ถ้าไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ฉีด แล้วไม่มีในประเทศไทยด้วย ฉีดเข้าไปโอกาสเสียชีวิตมีทั้งนั้น
ธนกฤต : เข็มที่ใช้ ไม่รู้ใช้ต่อกันหรือเปล่า เรายิ่งกลัวใหญ่ สมมติใช้ซ้ำกับคนอื่น ฉีดไปเรื่อยๆ โอกาสติดเอดส์ก็มีนะ การต้องขึ้นเป็นหมอพื้นบ้าน การรักษาแบบนี้ต้องเก็บสถิติของการรักษาโดยใช้สมุนไพร สมุนไพรส่วนใหญ่ ยาหม้อ ยาจีน ยาต้ม คุณต้องไปแจ้งสาธารณสุขจังหวัดเขาก่อนว่ากำลังศึกษาเรื่องนี้ มีคนมาใช้การรักษา ถ้าตัวเองเคยรักษามา ตำรับตำราถ่ายทอดกันมามีหลักฐานก่อนว่าเคยรักษาด้วยวิธีนี้ มันต้องมีรากเหง้ามา แล้วเล่าให้เจ้าหน้าที่เขาฟังก่อน อย่างพวกสาปเสือ กรณีเลือดออก เอาสาปเสือมาบดๆ ห้ามเลือด เลือดหยุด อันนี้ก็เข้าใจได้ หรือฟ้าทลายโจรที่รักษาช่วงโควิด ช่วยเรื่องไอ เรื่องไข้ด้วย อันนี้มีตำรับยา มีสรรพคุณบอก การขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้าน ก็ต้องขึ้นตามนั้นเลย เก็บค่ารักษาเป็นตัวเลขอาจไม่ได้ แต่เก็บค่าครู ก็ระบุให้ชัด
อีกเลเวลคือแพทย์แพทย์ไทย ต้องมีการสอบ โดยคณะกรรมการมาสอบ ว่าท่านเรียนรู้อะไรยังไงมา การเอาเข้าร่างกายก็ต้องมีการตรวจด้วยนะ ถ้าหากเก็บไม่ดีมีเรื่องเชื้อรา มันมีกระบวนการของมันอยู่ ถ้าคุณไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามพรบ.สมุนไพร 62 มีโทษจำคุก 3 ปี เมื่อกี้ที่ฟังไม่มีเลยสักอย่าง อันต่อมาเรื่องสถานพยาบาล ที่บอกว่ามีคนมานอนรอ 20 คน ด้วยเรื่องอะไรก็ตาม อันนี้ก็ชุดใหญ่ไฟกระพริบแล้ว การมีสถานพยาบาลต้องส่งแบบส่งแปลนเพื่อทั้งหลายเพื่อขออนุญาตทั้งหลาย ห้องเป็นอย่างไร รีเฟอร์ไปรพ.ใกล้เคียงด้วยกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน โทษจำคุก 5 ปีนะ อีกอย่างฉีดยาเข้าเส้น มีพรบ.วิชาชีพเวชกรรม เรื่องนี้ก็ผิดพรบ. ฉีดไม่ได้ อีกอันคืออย. หม้อต้มหม้อกลั่น คือโรงงานผลิตยา ได้ขึ้นทะเบียนขอโรงงานผลิตยาหรือยัง
ต่อมายาของคุณได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนหรือเปล่า พีคไปกว่านั้น จีวรบิน ร่วมกับเขาหรือเปล่า วันที่ 3 นพ.โสภณมีการรายงานมาถึงผม และสั่งการสาธารณสุขจังหวัดไปลงพื้นที่ตรวจ เจอบุคคลคนนึงอ้างว่าเป็นอดีตตำรวจ ยศพันตำรวจเอก สั่งห้ามเข้า บอกเข้าไม่ได้ ถ้าเข้าต้องมีหมายค้น ไม่มีสิทธิ์ถ่ายรูปก็ไม่ได้ ผมบอกคุณเลย การกระทำของคุณขัดขวางการทำงานของเจ้าพนักงาน มีความผิด ถ้าคุณเป็นเจ้าของและรับสารภาพมาเลยว่าเป็นสถานที่ของคุณ คุณจะได้รับสิทธิ์นั้นทันที ก็แบ่งคุณพรชัยไป แต่เสียดายมาก วันที่ 3 ติดภารกิจ ไม่งั้นผมจะไปเอง เชื่อว่าจะสนุกกว่านี้
แล้วหม้อที่ต้มมันสะอาดอย่างไร แล้วอยู่ใกล้หนอนด้วยนะ โอ่งมังกรอยู่ใกล้เลย แล้วมันจะสะอาดยังไง เมื่อสักครู่ก็ชัดเจนคุณพรชัยก็ยืนยันมาแล้วว่าทั้งรักษาทั้งฉีด ถ้าวนกลับมาที่คุณแม่คนนี้ เดี๋ยวไปเอาผลรายงานของแพทย์มาดูว่าเสียชีวิตอย่างไร ให้หมอหมูอ่านว่าสรุปแล้วตรงปอดเป็นไง
นพ.วีระศักดิ์ : จากที่เขียนมา เป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายมาที่สมอง ที่ลูกสาวได้ข้อมูลคงถูก ต้องรอผลก่อน ณ ตอนนั้น เคสนี้คุณแม่พอเสียแล้ว ก็ไม่ได้ส่งผ่าชันสูตรศพ เป็นเรื่องพิธีกรรมทางศาสนา แพทย์ลงความเห็นโดยมองว่าไม่ได้รับยาตัวที่จำเป็นต้องทาน ก็เสียชีวิตจากสมองบวมนี่แหละ
เขาบอกให้เอาหลักฐานมาเลย?
นพ.วีระศักดิ์ : เสียชีวิตจากยาที่เขาฉีดหรือตัวโรคของเขาเอง มันบอกไม่ได้ แต่เขาป่วย ไปอยู่สถานที่ของเขา แม้เขาจะบอกว่าเขาไม่รับทราบเลย เพราะแม่เขาเสียชีวิต เขาไม่ได้มาดูแลเลย แต่เป็นสถานที่ที่เขาดูแล ถ้ามีการดำเนินการก็เชื่อได้ว่าถ้ามีการสั่งการไม่ให้ทานยาสเตียรอยด์จริงหรือมีการฉีดยาจริง เชื่อได้ว่าการฉีดยาก็ส่งผลกระทบต่อตัวโรคที่เขามีอยู่ ส่วนตัวผม ผมมองว่าถ้ามีฉีดจริงก็มีผลกระทบกับตัวโรคที่เขามีอยู่
ธนกฤต : แจ้งความไปแล้ว ดำเนินคดีไปแล้ว คุณพรชัยคุณหยุดก่อน ถ้าคิดว่าของคุณดีจริง เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนด้านการแพทย์ คุณไปหาสาธารณสุขจังหวัด ให้เขาพิสูจน์ทราบก่อนว่าของคุณสามารถเอาไปรักษาได้ ตอนฟังก็งงๆ อยู่ว่ามีตัวยาไหนรักษาอะไร ถ้าคิดไปเองว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ก็เอามาให้เขาพิสูจน์ สมุนไพรไทยทุกอย่างมีสรรพคุณแตกต่างกัน ไม่ใช่ทุกอย่างเอามารวมๆ กันหมด คุณบอกว่าเป็นพันๆ อย่าง เอามาต้มแล้วสกัด ตายง่ายๆ เลยนะ บางอย่างเข้าไปทำลายทั้งตับทั้งไต ทำงานหนักมาก ยิ่งคนเป็นโรคไตอยู่แล้ว เอาไอ้นี่ใส่ไปอีก มันมีปัญหานะ ยาบางชนิด ไม่ให้กินเกินเท่านี้
เหล็กหล่นใส่หัวร้อยกว่าโลเขายังไม่ตายเลย งงมาก เขาบอกว่าเขาจะงงๆ หน่อย?
นพ.วีระศักดิ์ : แต่ตอนหลังแกไม่งงนะ พอฟังจากเรื่องจะเห็นว่ามีสตอรี่เรื่องเล่า แม่กินกรัมม็อกโซน หลวงพ่อเป็นโรคหอบหืด มีเรื่องเล่าไปถึงม.สงขลา คนถูกอ้างอิงต้องออกมาพูด กระบวนการเหล่านี้ ประชาชนเวลาฟังเรื่อง การแพทย์เขามีการศึกษาเป็นร้อยเป็นพันเคส และต้องได้ผลออกมาเหมือนเดิม แม้แต่สมุนไพร โดยกรมการแพทย์ ต้องทำตามหลักวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่อยู่ๆ ไปกล่าวอ้างเรื่องของตัวเอง ซึ่งไม่รู้จริงไม่จริงๆ อยู่ๆ บอกว่ารักษาแม่ได้ รักษาพระองค์นี้ได้ แล้วเอามาบอกว่านี่คือสูตรที่ตัวเองสามารถรักษาได้ พอฟังไปฟังมาก็ผสมเองอีก ก็ฝากประชาชนว่าเรื่องอ้างอิงแบบนี้อย่าไปเชื่อนะ เรื่องพวกนี้ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ มันเป็นเรื่องเล่าก็มี หรือบางทีเกิดขึ้นกับกรณีนั้นกรณีเดียวก็ได้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกกรณี เดี๋ยวคุณไปรักษาตามวิธีนั้น อาจเสี่ยงชีวิตได้
ธนกฤต : สมุนไพรดีนะ แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ผมไม่เคยเจอใครฉีดเข้าเส้น ฉีดเข้าเส้น 200 กว่าเข็ม มันเป็นไปได้ไง
นพ.วีระศักดิ์ : คนเราชีวิตจริงไม่มีใครฉีดเยอะขนาดนั้น ถ้า 200 กว่าเข็ม ผมกลัวแกจะติดเชื้อที่ผิวหนัง ไม่มีที่จะฉีดแล้วนะ มันอันตรายมาก
ธนกฤต : ฉีดเข้าเส้นมีอย่างเดียว ที่ผมคิด (หัวเราะ)
แจ้งความหรือยัง?
แพร : ยังไม่ได้แจ้งความค่ะ
ธนกฤต : ยื่นเรื่องมาก่อน เดี๋ยวเขาประสานมาที่ผมเอง เบรกพรชัยหน่อยนะ
ตอนนี้เข้าข่ายหลายๆ อย่าง คุณจะมาอ้างไม่ได้ว่าวันให้สัมภาษณ์โหนกระแส เหล็กทับหัว ผมถามคุณหลายรอบ คุณก็ตอบเหมือนเดิม ว่าคุณฉีด คุณรักษาเอง คิดเอง ฉะนั้นจะมาอ้างไม่ได้ว่าเหล็กทับหัว ถามกี่ครั้งก็ตอบเหมือนเดิมทุกรอบ มันค่อนข้างชัดเจน ก็หยุดก่อนแล้วกัน มันเสียสิทธิ์ในการรักษาของคนอื่นด้วย คุณบอกว่าคุณไม่เคยห้าม แต่ไม่รู้คนของคุณไปห้ามหรือเปล่า มันเสียสิทธิ์การรักษาของผู้ป่วย ผู้ป่วยบางคนป่วยหนักไปหาคุณหมอก็สิ้นหวัง ก็อยากหาวิธีการอื่นๆ แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นการเร่งให้เร็วขึ้น?
ธนกฤต : โดยเฉพาะคนเป็นโรคร้ายแรง ให้หาหมอแผนปัจจุบันก่อนเถอะ มันน่าจะได้ผลมากกว่า