อุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ โต้ “ทราย สก๊อต” ยืนยันไม่จ้างแรงงานเด็กมอแกน-ญาติเด็กเผยโดนชวนดำน้ำทำคอนเทนต์โดยไม่ขอผู้ปกครอง
เพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โพสต์เฟสบุ๊กระบุว่า
‘อุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์’ โต้ยิบข้อกล่าวหา ’ทราย สก๊อต‘ ยืนยันไม่มีการจ้างแรงงานเด็ก ‘ไทยมอแกน’ ด้านบริษัททัวร์ บอกเด็กตามมากับพ่อแม่ที่ทำงานกับบริษัท ญาติ เผยหลานชายถูก 'ทราย สก็อต' ชวนดำน้ำตัวเปล่า ทำ ‘คอนเทนต์’ เก็บขยะ ไม่ขออนุญาตพ่อแม่ แถมเด็กไปทำอีกไปไม่ไหว
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ได้จัดทำรายงานถึงนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีที่นายสิรณัฐ สก็อต หรือ ‘ทราย สก็อต’ เผยแพร่ข้อความและภาพผ่านเพจ ทราย - Merman Ψ (มนุษย์เงือก) ว่า รู้สึกอึดอัดที่จะไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เนื่องจากมีการใช้แรงงานเด็กและการละเมิดสิทธิเด็ก โดยบริษัททัวร์ให้เด็กถอดเสื้อถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวหญิง
นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยชี้แจงแต่ละประเด็นดังนี้
1. การอยู่อาศัยของชาวไทยมอแกน
ในอดีตพี่น้องชาวไทยมอแกน จะใช้ชีวิตอยู่บนเรือกะบางเป็นหลัก ในช่วงฤดูมรสุม จะขึ้นมาอาศัยตามเกาะต่างๆ โดยการทำที่อยู่อาศัยเป็นเพิงพักชั่วคราว ต่อมาหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ ส่งผลกระทบต่อชาวไทยมอแกนเป็นอย่างมาก ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จึงได้ขอความร่วมมือให้มาอยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง บริเวณอ่าวบอนใหญ่ เกาะสุรินทร์ใต้ เพื่อที่จะได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยในปัจจุบันมีหน่วยงานราชการที่คอยสนับสนุน ดูแลคุณภาพชีวิตและการศึกษาให้แก่ชาวไทยมอแกน มีศูนย์การเรียนรู้ชาวไทยมอแกน (หลักสูตร กศน.) ครูประจำ 4 อัตรา และศูนย์สาธารณสุขมูลฐาน มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำ 1 อัตราตลอดทั้งปี
2. การจ้างแรงงาน
ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ้างแรงงานชาวไทยมอแกน ซึ่งทั้งหมดเป็นแรงงานผู้ใหญ่ ในอัตราค่าจ้างวันละ 200-250 บาท โดยเริ่มทำงานเวลาประมาณ 09.00 – 14.00 น. รวม 5 ชั่วโมง พร้อมจัดอาหารเช้าและกลางวันเลี้ยงทุกวัน ในแต่ละวันชาวไทยมอแกนที่ทำงานกับอุทยานฯ จะนำอาหารกลับไปฝากครอบครัว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด
ส่วนการจ้างของบริษัททัวร์ อัตราค่าจ้าง 8,000 – 12,000 บาท ไม่รวมค่าทิปที่ได้จากนักท่องเที่ยว สำหรับเด็กๆ จะมากับพ่อแม่หรือญาติที่ทำงานกับทางอุทยานฯ ชาวไทยมอแกนที่ทำงานกับบริษัททัวร์ ส่วนใหญ่จะเป็นคนขับเรือหางยาวพานักท่องเที่ยวไปเล่นน้ำ น้องๆ ก็จะตามมาเล่นน้ำ ซึ่งไม่ได้ตามมาเป็นประจำทุกวัน โดยทางบริษัททัวร์ยืนยันว่า ไม่มีการจ้างหรือใช้แรงงานเด็กแต่อย่างใด
3. การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิต
ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้ประสานกับนายตะวัน กล้าทะเล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านมอแกน ซึ่งเป็นญาติกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ผู้เสียชีวิต โดยนายตะวันแจ้งว่า หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของหลาน ตนได้นำเรือหางยาวส่วนตัวขึ้นฝั่ง เพื่อที่จะไปเคลื่อนย้ายร่าง และทำเอกสารต่างๆ ไม่ได้มาติดต่อขอความช่วยเหลือจากอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากมองว่า สามารถที่จะดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตได้ด้วยตนเอง ยกเว้นถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนในฤดูมรสุม จึงจะขอรับการสนับสนุนจากทางอุทยานแห่งชาติ
บริษัททัวร์ ยังชี้แจงผ่านอุทยานแห่งชาติถึงประเด็นที่ทรายกล่าวหาว่า มีการใช้ประโยชน์จากเด็ก โดยให้เด็กผู้ชายถอดเสื้อเพื่อที่จะถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวผู้หญิง ทางบริษัททัวร์ยืนยันว่า ไม่เคยมีการบังคับหรือจ้างวานเด็กดังข้อกล่าวหา โดยวิถีชีวิตของผู้ชายชาวไทยมอแกนที่ขับเรือหางยาว หรือพานักท่องเที่ยวเล่นน้ำ หลังจากทำงานเสร็จ ก็มักจะถอดเสื้อเพื่อให้ตัวแห้ง แต่ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อที่จะถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยว
ในวันนี้ (4 พฤษภาคม 2568) หลังจากทรายโพสต์ Facebook เกี่ยวกับชาวไทยมอแกนทีี่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ผู้ปกครองพาเด็กหนุ่มอายุ 18 ปี มาพบหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเพื่อแจ้งว่า ‘ทราย’ ชักชวนหลานชายไปดำน้ำเพื่อถ่ายทำคอนเทนต์โดยไม่ขออนุญาต
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2567 ทรายได้แจ้งมายังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ว่า จะเข้ามาสำรวจ / ติดตามสถานภาพทรัพยากรใต้น้ำ / เก็บขยะ
ขณะนั้นหลานชายอายุเพียง 17 ปี ‘ทราย สก็อต’ พร้อมทีมงานชักชวนเด็กชาวไทยมอแกน 2 คนไปดำเก็บขยะใต้น้ำ เพื่อถ่ายทำคอนเทนต์
เด็กหนุ่มหนึ่งในสองคนเล่าว่า พี่ทรายแจ้งว่า จะชวนไปถ่ายทำคอนเทนต์ร่วมกันเก็บขยะใต้ทะเล ใช้วิธีดำน้ำแบบตัวเปล่า (Freediving)
ในการถ่ายทำคอนเทนต์ พี่ทรายไม่ได้ให้ค่าจ้างเป็นเงิน แต่ให้เป็นสิ่งของแทน ได้แก่ แว่นตา กางเกง และเสื้อคนละ 1 ชุด
ในวันต่อมา พี่ทรายจะนัดเด็กๆ ไปดำน้ำเก็บขยะอีก แต่น้องๆ บอกว่าเหนื่อย โดยพี่ทรายก็เจรจาชักชวนอีก 2-3 ครั้งว่า ให้ไปช่วยอีกวัน แต่น้องๆ ยืนยันว่า ไปไม่ไหว จึงมีการถ่ายทำคอนเทนต์กับเด็กๆ เพียงวันเดียว
การติดต่อเด็กชาวไทยมอแกนไปถ่ายทำคอนเทนต์ ทรายไม่ได้แจ้งให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ทราบแต่อย่างใด
ภาพประกอบ
บน: จากเพจ ทราย - Merman Ψ (มนุษย์เงือก) ในวันที่ชวนเด็กหนุ่มไทยมอแกนไปดำน้ำตัวเปล่าเก็บขยะถ่ายทำคอนเทนต์
ล่าง: ญาติพาเด็กหนุ่มมาแจ้งเหตุการณ์ที่ทรายชักชวนน้องไปดำน้ำเพื่อถ่ายทำคอนเทนต์โดยไม่ขออนุญาตผู้ปกครอง (น้องคือคนด้านขวาของภาพบน)
-ขอขอบคุณเพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว