สนามเทศบาลนครโคราชคึกคักหลังพรรคก้าวไกล (ชื่อเดิม) หักปากกาเซียนล้มตระกูลลิปตพัลลภปักธงส้มได้ ส.ส 3 เขต เมืองย่าโม รวมทั้งคะแนนรวม ส.ส บัญชีรายชื่อกว่า 5.5 แสนคะแนน ทั้งนักการเมืองบ้านใหญ่ บ้านเล็กและหน้าใหม่ต่างหวังคะแนนจากด้อมส้มไม่ต้องลงทุนมาก เพียงได้สวมเสื้อพรรคประชาชน (ปชน.) ลุยหาเสียงก็มีโอกาสชนะ นายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเล็กหลายสมัยและแกนนำกลุ่มประสานมิตร ถือเป็นป๊อปปูล่าชาวเทศบาลที่ถูกโฟกัสมากที่สุด แม้นผู้นำชุมชนร้องขอให้คัมแบ็ค ด้วยภาระต้องบริหารโรงงานประกอบรถบัสอีวีรวมทั้งแกนนำชาติพัฒนาได้ดีลกับนายอัสนี เชิดชัย พี่ชาย ซึ่งเป็นซีอีโอธุรกิจตระกูลเชิดชัย ได้นำเดินหาเสียงที่ตลาดหัวรถไฟและแชร์ภาพนายสุรวุฒิ จับมือกับหมอวรรณรัตน์ ชาญนุกูล สยบการแย่งชิงตัวจากพรรคประชาชนและนายอดุลย์ อยู่ยืน หัวหน้ากลุ่มพลังเทศบาล โดยนายสุรวุฒิ ขอเว้นวรรคอีกสมัย
ปชน.สรรหาผู้สมัครนายกเล็ก มีผู้สนใจกว่า 10 คน ต้องอกหักด้วยกฎเหล็กหากเคยสวมเสื้อสีอื่นและโปรไพล์ต้องเด่นจริง คณะทำงานโคราชพยายามทาบทามคนดัง สุดท้ายได้นายพงษ์ยุทธ หรือเหน่ง สุภัทรวณิชย์ อดีตที่ปรึกษานายกเล็ก มีศักดิ์เป็นพี่ชายและนามสกุลเดียวกับนายฉัตร ส.ส เขต 1 ผ่านด่านอรหันต์กรรมการส่วนกลางรวมทั้งสัมภาษณ์หลายรอบ จนได้เป็นผู้สมัครนายกเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา เบอร์ 1 ปชน. ส่งผู้สมัครสมาชิกสภา (สท.) ครบทั้ง 4 เขต เบอร์ 1-6
แชมป์เก่า “โคราชชาติพัฒนา” เปลี่ยนม้ากลางศึก เนื่องจากนายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตนายกมีปัญหาสุขภาพ ส่ง "วัยเก๋า ประสบการณ์” นายแพทย์วรรณรัตน์ อายุ 76 ปี อดีต รมว.พลังงาน รมว.อุตสาหกรรม เป็นผู้สมัครนายกเบอร์ 2 และผู้สมัคร สท.4 เขต เบอร์ 7-12 ซึ่งมี 13 คน เป็นหน้าใหม่ อายุเป็นตัวเลขมิใช่อุปสรรค “โดนัลด์ ทรัมป์” อายุ 78 ปี ยังคัมแบ็กเป็นประธานธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ หมอวรรณรัตน์ ดูแลร่างกายเดินออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่มีปัญหาสุขภาพ พร้อมทั้งกายและใจ
นายมารุต ชุ่มขุนทด หรือกอล์ฟ ซีอีโอกาแฟ “คลาสคาเฟ่” อดีตผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ผู้สมัครนายกเบอร์ 3 และนายอดุลย์ อยู่ยืน อดีต ส.อบจ.นครราชสีมา อ.เมือง เขต 2 หลัง “โคราชชาติพัฒนา” ส่ง นพ.วรรณรัตน์ และปมแพ้เลือกตั้ง ส.อบจ. ครั้งที่ผ่านมา ไขก๊อกที่ปรึกษา “มาดามหน่อย” นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. ลงสมัครนายกเบอร์ 4 กลุ่ม “พลังโคราช” สท.ครบ 4 เขต เบอร์ 13-18
สรุปผู้สมัครนายก 4 คน
เบอร์ 1 นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ พรรคประชาชน
เบอร์ 2 นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล “โคราชชาติพัฒนา”
เบอร์ 3 นายมารุต ชุ่มขุนทด ลงสมัครอิสระ
เบอร์ 4 นายอดุลย์ อยู่ยืน “พลังโคราช”
วิเคราะห์เทศบาลโคราช มีงบต่อปีกว่า 1.6 พันล้านบาทและโครงการค้างท่อ เช่น จัดหาน้ำดิบผลิตน้ำประปา 1,995 ล้านบาท ระบบกำจัดขยะมูลฝอยที่ 2 กว่า 2 พันล้านบาทและระบบปรับปรุงรวบรวมน้ำเสียระยะที่ 3 มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท รวมทั้งการปรับปรุงสาธารณูปโภครองรับรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ทางลอดเมืองรวมงบที่จะอนุมัติในสมัยหน้ากว่า 5 พันล้านบาท แชมป์เก่า “โคราชชาติพัฒนา” ผลคะแนนส่อถึงการเลือกตั้ง ส.ส ปี 70 แกนนำทั้งนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และ หมอวรรณรัตน์ อายุเลข 7 หลัก การต่อสู้จึงเข้มข้นชนิดแพ้ไม่ได้ ถือเป็นตัวเต็ง เนื่องจากมีคะแนนจัดตั้งใน 98 ชุมชน และกระสุนไม่อั้น
นายอดุลย์ ปฏิเสธ “มาดามหน่อย” มิได้อยู่เบื้องหลัง ส่วนนายสุรวุฒิ รู้จักมักคุ้นเคยเรียนและทำงานร่วมกัน เป็นที่ปรึกษาให้ไอเดียพัฒนาเทศบาล อาศัยประสบการณ์การเมืองท้องถิ่นร่วม 30 ปี คร่ำหวอดพบปะผู้นำชุมชนและจัดกิจกรรมสม่ำเสมอประกอบกับผู้สมัครส่วนหนึ่งเคยเป็น สท.กลุ่มประสานมิตรและประธานชุมชน,อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และผู้สนับสนุนเป็นอดีต ส.อบจ.ผู้บริหารเทศบาลและองค์กรเอกชน จึงมีแฟนคลับค่อนข้างมาก
ปชน. นายพงษ์ยุทธ เปิดตัวและลงพื้นที่ก่อน ส่งผู้สมัครหน้าใหม่ อาศัยลูกขยันเดินเคาะประตูบ้านและยิงสื่อโซเซียลแบบหูดับตับไหม้ หลังช่อ “พรรณิการ์” และ “เท้ง” ลงพื้นที่ได้สร้างกระแสหวือหวาและช่วงโค้งสุดท้ายจะมีแกนนำมาช่วยอีก ทำให้คะแนนพุ่งขึ้นมาสูสีมีโอกาสตัดสูทผูกไทด์ถ่ายรูปสูง
ส่วนนายมารุต หวังเป็นตาอยู่จากผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.เขตเทศบาลกว่า 2.4 หมื่น ใช้กลยุทธ์ปั่นจักรยานจอดตามแหล่งชุมชน ไลฟ์สดสร้างคอนเทนต์ด้วยแรงบันดาลใจและจิตนาการให้ปัง เป้าหมายมีให้พุ่งชนเพื่อให้มีชื่อในสื่อ แต่สนามเทศบาลสมัครอิสระที่ผ่านมาได้ลำดับท้ายๆ คะแนนนายมารุต จะตัดคะแนนสีส้ม เพราะฐานเสียงกลุ่มเดียวกันเจนแซดและเจนวาย
วันที่ 11 พฤษภาคม เป็นวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง เฉลี่ยผู้มาใช้สิทธิ 60 % จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 90,983 คน เบอร์ไหนโดนใจได้คะแนนเกิน 2 หมื่น มีโอกาสเข้าป้ายชนะและผลรวมต่างกันไม่มากนักอาจตัดสินด้วยภาพถ่าย