ปัตตานี อบรมวิทยากรแกนหลักฮูกุมปากัต ธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี เพื่อนำข้อมูลขับเคลื่อนอย่างถูกต้องสู่ชุมชนแก้ปัญหา​ความไม่สงบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ที่ ห้องประชุม สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมเป็นเกียรติในกิจกรรมอบรมวิทยากรแกนหลักฮูกุมปากัต (ธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี) โดยมี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรีและประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม ฯ ซึ่งมี รองเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี, ผู้ช่วยเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้,หัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมอบรม ประกอบด้วย ประธานชมรมโต๊ะครู ,ประธานสภาอูลามาฮฺฟาฎอนีย์ดารุสสลามมูลนิธิ และนายกสมาคมสถาบันการศึกษาปอเนาะในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ( อำเภอ) และสตูล เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

การจัดอบรมวิทยากรแกนหลักฮูกุมปากัต ธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี เพื่อให้วิทยากรนำความรู้ไปขยายผลต่อในมัสยิดและชุมชนของตนเองโดยใช้มัสยิดเป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหาของชุมชน ภายใต้หลักศาสนาที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำสันติสุขกับคืนมาอย่างยั่งยืน เนื่องจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้จะเกิดผลเป็นรูปธรรมได้ถ้าทุกคนอยู่ภายใต้หลักที่ถูกต้อง 

โดยภายในกิจกรรมฯ มีการสร้างความเข้าใจแนวทางการทำหน้าที่ของวิทยากรฮูกุมปากัตที่สำคัญ คือ การปลูกฝังยะกีน ให้ฝังลึกในจิตวิญญาณ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาอย่างเหนียวแน่น แข็งแกร่ง มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง ตามแนวทางในยะกีน(ฉบับชาวบ้าน-กีตาบเล็ก) และยะกีน(ฉบับผู้นำศาสนา) การปลูกฝังการตออัต ต่อผู้นำศาสนา และผู้นำทางสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ถูกต้องตามบัญญัติอัลกุรอาน การนำฮูกุมปากัต ไปปรับใช้กับฮูกุมปากัตที่มีอยู่เดิมของหมู่บ้าน  นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมฯ ได้ร่วมหารือและจัดทำรายละเอียดการทำหน้าที่วิทยากรที่ถูกต้องให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนฮูกุมปากัตธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี ต่อไป

พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวพบปะว่า “การอบรมกิจกรรมวิทยากรแกนหลักฮูกุมปากัตในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนธรรมนูญ 9 ดี เป็นการผนึกกำลังทุกภาคส่วน ทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ โดยเป็นไปตามหลักคำสอนศาสนาที่ถูกต้องและสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีภายใต้หลักคำสอนทางศาสนาให้ลูกหลานมีอนาคตที่ดีอันบริสุทธิ์อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป“

ด้านนายแวดือราแม มะมิงจิ กล่าวว่า สิ่งสำคัญของการอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการอบรมมีความรู้ความเข้าใจในหลักการฮูกุมปากัต (ธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี) พร้อมทั้งมีกลยุทธ์ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีเทคนิคในการสื่อสาร เพื่อสร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยนำคู่มือวิทยากรฮูกุมปากัตเป็นแนวทางในการอบรม สร้างความเข้าใจให้สามารถนำฮูกุมปากัต ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาหมู่บ้านตามหลักการทางศาสนา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าพลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ให้สัมภาษ​ณ์ว่า​ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2568 เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เริ่มจากการลอบยิงผู้นำศาสนา โดยมีกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามบิดเบือนว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลให้เกิดการตอบโต้รุนแรงหลายครั้ง เช่น การยิงที่สถานีตำรวจโคกเคียน, การยิงประชาชนไทยพุทธที่อำเภอแว้ง และเหตุยิงพระสงฆ์ และสามเณรขณะบิณฑบาต รวมถึงเหตุยิงซ้ำอีกสองครั้งในคืนวันที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

สถานการณ์​ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง รองนายกรัฐมนตรี​และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น​ ผู้ศาสนา และเจ้าหน้าที่3ฝ่าย ตำรวจ​ ทหาร​ และฝ่ายปกครอง ร่วมกันแก้ปัญหา

ซึ่งเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้น และต่อเนื่องกัน แสดงว่าคนร้ายยังมีข่องว่างในการก่อเหตุ จึงได้มีการปรับมาตรการป้องกัน​เข้มงวด โดยนำ ชรบ. มาดูแลความปลอดภัย​ในหมู่บ้าน​ให้มากขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจและ​ฝ่ายปกครอง มาคุ้มครองทั้งในพื้นที่ไม่ล่อแหลม​และพื้นที่ล่อแหลมให้มากขึ้น

กระบวนการพูดคุยสันติสุขเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าองค์ต่างๆที่เข้าอาจจะฟังฝ่ายเดียว แล้วไปขับเคลื่อน​ต่างๆให้กลุ่มกระบวนการมีความหวัง ที่ผ่านมาการปกครองกระจายอำนาจก็ทำมาสมบูรณ์​แล้ว และมากกว่าที่อื่นๆด้วย เรื่องพี่น้องมุสลิมและพุทธ​ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ดินแดนนี้ไม่ใช่ดินแดนแห่งสงคราม ผู้นำศาสนาในพื้นที่ก็รับทราบกันดีอยู่แล้ว และวันนี้ที่เรามาขับเคลื่อน​ฮูกุมปากัตก็คือการใช้ศาสนามาใช้ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่​

เหตุการณ์​ต่างๆ  ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้กระทำผิดโดยมีเบาะแสและร่องรอยแล้ว พร้อมขอให้ประชาชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมร่วมมือและมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยที่กำลังดำเนินการอยู่