นายก อบต.ดอนดู่ โต้ปมถนนทุกสายทำจริง ยันไม่สามารถเบิกงบฯ ได้ เตรียมฟ้องเอาผิด

จากกรณีที่คณะกรรมการภาคประชาชนในศึกษาธิการ จ.ขอนแก่น ได้ร้องเรียน นายก อบต.ดอนดู่ ,ปลัด อบต.ดอนดู่ และ ผอ.กองช่าง มกระทำการทุจริต โดยได้มีการขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสม ประจำปี 2568 จำนวนทั้งสิ้น 5,170,000 บาท ในจำนวนนี้ ประมาณ 3 ล้านกว่าบาทเป็นการดำเนินการปรับปรุงถนนลำเลียงการเกษตร 8 หมู่บ้าน  ซึ่งพบว่ามีทั้งการดำเนินงานที่ไม่ได้มาตรฐาน บางหมู่บ้านถนนทิพย์ คือไม่ทำและไปเบิกจ่าย บางหมู่บ้านทำโครงการเดียว และเบิกซ้ำซ้อนกัน ซึ่งมูลค่าความเสียหายทั้ง 8 หมู่บ้านรวมกันแล้วกว่า 3 ล้านบาท ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 1 พ.ค.68 ที่ห้องประชุม อบต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นายพิสุทธิศักดิ์ ชุมนา นายก อบต.ดอนดู่ พร้อมด้วยนายทวีศักดิ์ บุญกุศล ปลัด อบต.ดอนดู่ และคณะผู้บริหาร อบต.ดอนดู่ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยมีชาวบ้านร่วมรับฟังจำนวนมาก

นายพิสุทธิศักดิ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงถนนลูกรังบดอัดแน่นเชื่อมระหว่าง 8 หมู่บ้าน ใช้ในกิจการขนส่งสินค้าทางการเกษตร โดยใช้งบประมาณจาก อบต. จำนวน 500,000 บาท โครงการนี้ผ่านการจัดทำประชาคมหมู่บ้าน ประกาศแผนงบประมาณ และผ่านความเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลอย่างถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมยืนยันว่ามีการก่อสร้างจริง โดยมีรูปถ่ายก่อนและหลังดำเนินโครงการเป็นหลักฐาน รวมถึงมีคณะกรรมการตรวจรับโครงการอย่างครบถ้วน

“ข้อกล่าวหาว่าเบิกจ่ายงบประมาณโดยไม่มีการก่อสร้าง เป็นข้อมูลที่บิดเบือน เพราะระบบการเบิกจ่ายต้องผ่านกระบวนการตรวจรับตามจริง ไม่สามารถเบิกได้ล่วงหน้า หรือโดยไม่มีงานเกิดขึ้นจริง ถนนที่ชาวบ้านเห็นนี้คือถนนที่ดำเนินการจริง เพื่อช่วยพี่น้องเกษตรกรในการขนส่งผลผลิต ซึ่งแต่เดิมเป็นถนนดินทราย ลำบากต่อการสัญจร อย่างไรก็ตามหากการให้ข่าวของผู้ร้องเรียนยังทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรและตนเอง จะดำเนินการทางกฎหมายฐานให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ต่อไป"

นายพิสุทธิศักดิ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า การถูกร้องเรียนในครั้งนี้ น่าจะมาจากตัวผู้ร้องเองเป็นคู่แข่งทางการเมืองของตน เพราะครั้งที่แล้วเคยลงสมัครนายก อบต.แข่งกันกับตนเอง แต่ว่าสู้ตนไม่ได้ และปลายปีนี้ก็จะหมดวาระของตนแล้ว คาดว่าคู่แข่งวางแผน ก่อนถึงวาระเลือกตั้งใหม่ในปลายปีนี้  ซึ่งเรื่องที่เขาร้องเรียนมาไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตามตนเองอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาดำเนินคดีอาญากับผู้ที่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ สร้างความเสียหายต่อองค์กรและบุคคลากรของรัฐ โดยจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องชื่อเสียงและสิทธิของหน่วยงาน