โอซาก้า – วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุสะเทือนขวัญกลางเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อชายวัย 28 ปี ขับรถพุ่งชนกลุ่มนักเรียนประถม 7 คนที่กำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียน โดยเจตนาจะฆ่า ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น อาทิ NHK และ Nippon TV

เด็กนักเรียนทั้งหมดได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล โดยอยู่ในสภาพมีสติ ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สร้างความตื่นตระหนกอย่างหนักในชุมชน

ตำรวจเมืองโอซาก้าได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงโตเกียว ในข้อหาพยายามฆ่า โดยสื่อรายงานว่า เขายอมรับสารภาพทันที พร้อมระบุว่า “รู้สึกหมดหวังในชีวิต อยากฆ่าใครสักคน”

พยานในที่เกิดเหตุให้สัมภาษณ์กับ Nippon TV ว่า รถยนต์ของผู้ต้องหาเคลื่อนตัวแบบ “ซิกแซก” ก่อนพุ่งใส่กลุ่มเด็กนักเรียนอย่างรวดเร็ว เด็กหญิงคนหนึ่งมีเลือดเต็มตัว ขณะที่อีกหลายคนมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย

ผู้ต้องหาในขณะถูกควบคุมตัว สวมหน้ากากอนามัยและมีท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัด ครูที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุได้ช่วยกันลากตัวออกมาจากรถ ก่อนที่ตำรวจจะเข้าควบคุมตัว

แม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มีอัตราอาชญากรรมต่ำ แต่อาชญากรรมรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยไม่เลือกเหยื่อเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เช่นในปี 2008 ที่ “โตโมฮิโระ คาโต้” ขับรถบรรทุกพุ่งชนคนในย่านอากิฮาบาระ โตเกียว ก่อนใช้อาวุธมีดแทงซ้ำจนมีผู้เสียชีวิต 7 ราย คาโต้ถูกประหารชีวิตในปี 2022

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เป็นสองประเทศในกลุ่ม G7 ที่ยังคงมีโทษประหารชีวิต โดยมีเสียงสนับสนุนจากประชาชนอย่างล้นหลาม

เหตุการณ์ล่าสุดนี้สะท้อนปัญหาลึกของสังคมญี่ปุ่น ทั้งในด้านความเครียด ความโดดเดี่ยว และสุขภาพจิตที่ยังต้องการการดูแลอย่างจริงจัง