วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ทึ่กระทรวงสาธารณสุข นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขโดยขอให้ลงโทษวินัยข้าราชการฝ่าฝืนนโยบายความปลอดภัยเมาไม่ขับของกระทรวงสาธารณสุข
จากกรณีเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 22.16 น.ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ซึ่งทราบต่อมาว่าผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายเป็นสื่อมวลชนสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวีและสถานีไทยรัฐทีวี โดยผู้ขับรถยนต์ที่ก่อเหตุทราบชื่อในภายหลังได้แก่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้จากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 119 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
โดย มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ทำงานสนับสนุนการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ตลอดระยะเวลามูลนิธิเมาไม่ขับได้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากการเมาแล้วขับซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับ 5,000 - 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการทุกหน่วยงานต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย สำคัญยิ่งนโยบายเมาไม่ขับเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขในการลดความสูญเสีย ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและของทางราชการ
ดังนั้นการที่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายและฝ่าฝืนนโยบายของรัฐบาล และของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการนำรถของทางราชการไปใช้ในภารกิจส่วนตัวดื่มสุราสังสรรค์เมาแล้วขับ ถือเป็นการท้าทายธรรมาภิบาลขององค์กรทุจริตต่อหน้าที่ และเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับข้าราชการ แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดหลังเวลาราชการ แต่พฤติกรรมเมาแล้วขับเป็นการสะท้อนถึงการขาดวุฒิภาวะ จิตสำนึก และความเป็นผู้นำหน่วยงาน
ทั้งนี้ มูลนิธิเมาไม่ขับ ได้นำหนังสือไปยังรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และในฐานะผู้บังคับบัญชาของ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว จึงขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและลงโทษสถานหนักเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขรายอื่นต่อไป
อนึ่งมูลนิธิเมาไม่ขับไม่มี เหตุโกรธเคืองอันใดกับ ผู้อำนวยการคนดังกล่าว แต่ในฐานะองค์กรที่ทำงานรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมากว่า 30 ปี ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนให้มีความปลอดภัยบนท้องถนน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาชนแต่การเมาแล้วขับเป็นการจงใจละเมิดกฎหมายละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ซึ่งมูลนิธิเมาไม่ขับถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องปกป้อง
โดย นายแพทย์แท้จริง กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ขอให้ลงโทษให้หนัก เป็นถึงระดับ ผอ.เมาแลัวขับ ขับรถชนคนใช้ไม่ได้