เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 20 ม.ค.62 ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ถนนวิภาวดี พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และ พ.ต.ต.จักรกริช เวียงสมุทร สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ.แถลงผลกาจับกุมนายจงรักษ์ หรือรัก พลรัตน์ อายุ 47 ปี น.ส.นฤมล หรือกบ น้อยนันตะ อายุ 38 ปี ท้าวเสดถา หรือช้าง นาไซทอง อายุ 28 ปี และนางแก้วมณี หรือเมาะ สิบิเดด อายุ 44 ปี 2 สามี-ภรรยาสัญชาติลาว พร้อมของกลางยาบ้า 84,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่องกระเป๋าเดินทางสีน้ำตาล 1 ใบ โดยจับกุมนายจงรักษ์ ได้ที่ชานชาลาที่ 3 สถานีขนส่งหมอชิต 2 ก่อนขยายผลจับกุม น.ส.นฤมล ได้ที่สนามบินดอนเมือง ส่วนท้าวเสดถา หรือช้าง และนางแก้วมณี หรือเมาะ 2 สามี-ภรรยา จับได้ที่บ้านเลขที่ 1022 ซอยสุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. เมื่อเวลา 13.00 น.(วันที่ 20 ม.ค.62) ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมบูรณ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สายตรวจบก.สปพ. ได้ทำการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 84,000 เม็ด ได้บริเวณขนส่งหมอชิต ครั้งนั้นผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้กระทำผิดเครือข่ายนี้มีพฤติกรรมลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากชายแดนประเทศเพื่อบ้านทางด้าน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เข้ามาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ กรุงเทพฯ โดยใช้ช่องทางขนส่งมวลชน จึงเฝ้าสังเกตุการณ์มาโดยตลอด ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ม.ค.62 เจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการนัดส่งยาเสพติดกันที่สถานีขนส่งหมอชิต และจะส่งมอบเงินค่ายาเสพติดกันที่สนามบินดอนเมือง จึงวางกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์ จนกระทั้งเวลา 13.30 น. ก็พบนายจงรักษ์ นำยาเสพติดมาส่งบริเวณชานชาลาที่ 3 สถานีขนส่งหมอชิต ตรงตามที่ได้รับข้อมูลมา จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนขยายผลไปจับกุมตัว น.ส.มลฤดี ที่นั่งรอรับเงินค่ายาเสพติดอยู่ภายในสนามบินดอนเมือง จากการสอบสวน น.ส.มลฤดี ทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นชาวลาวอีก 2 คน รออยู่ที่ร้านเสริมสวยของตน ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 26 เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุม สำหรับแนวทางการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการแบ่งหน้าที่กันโดยนายนายจงรักษ์ จะมีหน้าที่รับยาบ้าจากตะเข็บชายแดน จ.นครพนม ก่อนขึ้นรถขนส่งมวลชนนำมาส่งให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะได้ค่าจ้าง 4-8 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับจำนวนยาบ้า ส่วนน.ส.มลฤดี จะมีหน้าที่ตรวจสอบเงินค่ายาเสพติดหากมีการส่งเรียบร้อยก็จะนำกลับไปให้ ท้าวเสดถา และนางแก้วมณี 2 สามีภรรยา ที่รออยู่ที่ร้านเสริมสวยของตัวเองโดยจะได้ค่าจ้าง 2 หมื่นบาท ส่วนชาวลาวทั้ง 2 คนได้ค่าจ้างนำเงินกลับครั้งละ 4 หมื่นบาท ทั้งนี้ผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 และก็มาถูกจับกุมไว้ได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ( ยาบ้า ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีและติดตามจับกุมผู้ร่วมเครือข่ายต่อไป